กัปตัน ควง เอ้ก เปิดใจ เหมือนได้แม่เพิ่ม หลังเพิ่งซุ่มวิวาห์เงียบ
เป็นอีกหนึ่งคู่รักในวงการบันเทิงที่ตัดสินใจถือเคล็ดขอจัดงานวิวาห์อย่างเงียบๆ ไปเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยไม่ได้แจ้งให้ใครทราบนอกจากครอบครัวและคนสนิท สำหรับคู่ของ "กัปตัน ภูธเนศ" กับหวานใจสาวรุ่นน้อง "เอ้ก บุษกร"
ล่าสุดทั้งคู่ได้ควงมือกันออกมาเปิดใจให้ฟังถึงสาเหตุที่ต้องเก็บเรื่องงานแต่งเป็นความลับเพราะถือเคล็ดเชื่อตามผู้ใหญ่ที่รับถือบอก เผยหลังแต่งงานชีวิตเปลี่ยนไปมาก ต้องรับผิดชอบและปรับตัวมากขึ้น พร้อมทิ้งท้ายขำๆ เหมือนได้แม่มาอีกคน ส่วนเรื่องทายาทขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ
ความรู้สึกหลังแต่งงานเป็นยังไงบ้าง?
กัปตัน : ก็ดีนะครับ รู้สึกโล่งดี(หัวเราะ) เมื่อก่อนเหมือนเราตัวคนเดียว ตอนนี้กลายเป็นชีวิตคู่ไปแล้ว จริงๆ สำหรับผมชีวิตเปลี่ยนแปลงไม่มาก แต่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น จะทำอะไรคิดเยอะขึ้นเพราะมีอีกคนหนึ่งแล้ว ต้องคอยคิดถึงเขามากขึ้น
เอ้ก : สำหรับหนูชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ เพราะต้องย้ายบ้าน จะมีความรู้สึกเหมือนเราต้องพึ่งพาตัวเอง แล้วก็ต้องดูแลคนอีกคน ทั้งที่แต่ก่อนเราก็ไม่เคยจะต้องมาคิดเรื่องนี้ แต่พอแต่งงานแล้วก็รู้สึกอยากจะดูแลพี่เขาให้ดีที่สุด
หลายคนสงสัยว่าถือเคล็ดถือเปล่าทำไมถึงแต่งเงียบจังเลย?
กัปตัน : คือเราสองคนมีผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ท่านบอกว่าอยากให้จัดงานเงียบที่สุด เพราะตามฤกษ์ตามดวงของเราเหมือนตอนแรกจะประกาศไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง จะจัดงานแต่งยังไงให้คนไม่รู้ก็คงเป็นไปได้ยาก ก็เลยต้องทำแบบนั้นโดยที่ไม่มีการแถลงข่าวออกมา ให้งานผ่านพ้นไปก่อน ก็ต้องขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนทุกคนที่เข้าใจข้อจำกัดของเราทั้งสองคน ผมเองก็อยากให้งานออกมาราบรื่นที่สุด
ผู้ใหญ่ที่เรานับถือเป็นพระ หมอดู หรือว่ายังไง?
กัปตัน : เป็นผู้ใหญ่ที่เรานับถือครับ เป็นคุณป้าท่านหนึ่งที่ผมเคารพมานานแล้ว ท่านมีความรู้เรื่องโหราศาสตร์ ไม่ได้เป็นหมอดูหรืออาจารย์ที่ไหน เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ของเรา ในเมื่อท่านบอกมาแบบนี้ก็อยากจะทำให้ถูกต้อง เพื่อความสบายใจของเราด้วย ของครอบครัวด้วย
ท่านทักว่ายังไง?
กัปตัน : ให้จัดงานเล็กๆ แบบเรียบง่าย เพื่อความมั่นคงในชีวิตของเราทั้งคู่ ทำตามฤกษ์ตามดวง เรารู้สึกว่าเราเคารพท่าน ทำตามที่ท่านบอกแล้วสบายใจ และไม่ได้เสียหายอะไร
ณ ตอนนั้นกดดันหรืออึดอัดไหม?
กัปตัน : ไม่ถึงกับกดดันมาก แต่คิดว่าจะทำยังไงให้ทุกอย่างโอเคที่สุด โชคดีที่ครอบครัว คนรอบตัวและสื่อมวลชนทุกคนเข้าใจ ผมถือว่าคนรอบตัวสำคัญ ถ้าเขาเข้าใจเราทุกอย่างก็โอเค
ด้วยความที่งานแต่งเกิดขึ้นเร็วมากคนเลยมองว่าแต่งฟ้าแลบหรือเปล่า?
เอ้ก : จริงๆ คิดมานานแล้ว เราอาจจะไม่ได้เปิดเผย แต่ได้มีการพูดคุยปรึกษากันเอง รวมถึงผู้ใหญ่หลายๆ ท่านมาเป็นเวลานานแล้ว
ที่เลือกแต่งปีนี้เพราะพี่สาวเอ้กก็แต่งไปแล้ว?
เอ้ก : ใช่ค่ะ ดูหลายอย่างด้วย
กัปตัน : ต้องบอกก่อนว่าบ้านน้องเอ้กมีลูกสาว 4 คน แล้วน้องเอ้กเป็นลูกสาวคนสุดท้อง แล้วมีน้องชายอีกคน พี่สาวเขา 3 คน แต่งงานไล่ๆ กัน เลยอยากจะให้ทิ้งช่วงหน่อย ฉะนั้นผมกับเอ้กก็มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้แล้ว แพลนว่าถ้าเราแต่งช่วงนี้เต็มที่แล้ว ถ้าไม่จัดตอนนี้ก็ไม่รู้ตะรออะไรอีก เราอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว ถือโอกาสฉลองขึ้นเลข 4 ด้วย รู้สึกว่าตัวเองโตพอที่จะรับผิดชอบ ชีวิตต้องก้าวไปอีกสเต็ปหนึ่งของการมีครอบครัวแล้ว
ชินกับคำว่าสามี-ภรรยาแล้วหรือยัง?
กัปตัน : ก็ยังไม่ค่อยชินนะ(หัวเราะ)
เอ้ก: ยังไม่เท่าไหร่นะ เป็นเขิน มันค่อนข้างเป็นก้าวที่ใหญ่ เราไม่พร้อมสักที ยังมีเขินๆ อยู่บ้าง แต่ก็พยายามปรับตัวไปเรื่อยๆ
เรื่องทายาทล่ะ?
กัปตัน : ปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ ถ้าเขาจะมาก็ตามนั้น ก็จะพยายามเต็มที่ครับ
เอ้ก : เอ้กเองก็อยากมี รู้สึกว่าปีหน้าน่าจะเป็นปีที่ดี แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราบังคับไม่ได้ ก็แล้วแต่ถ้าเขามาก็ดี ถ้ายังไม่มาก็ไม่เป็นไร
เพราะอยากมีลูกหรือเปล่าเลยแต่งงาน?
กัปตัน : เรื่องอายุก็มีส่วน ผมว่าคนเราพอถึงจุดหนึ่งด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เรารู้ว่าชีวิตเราควรจะไปทางไหน เราก็ทำแบบนั้น ในเมื่อเราเจอคนที่ใช่ คนที่พร้อม คนที่เราอยากจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต อยากมีครอบครัวร่วมกับเบาก็แค่ทำตามสิ่งที่คิดแค่นั้นเอง
อยากมีลูกสักกี่คน?
กัปตัน : ตอนเด็กๆ อยากมี 3 คน ตอนนี้เอาแค่คนแรกให้ได้ก่อน(หัวเราะ)
เช็คสุขภาพหรือยัง?
กัปตัน : เช็คแล้วครับ แข็งแรงดี
เอ้ก : หมอบอกว่าเกรดเอ(หัวเราะ)
แพลนฮันนีมูนไปที่ไหนกัน?
กัปตัน : ตอนนี้ยังไม่มีครับ ที่คิดไว้น่าจะเป็นเดือน ก.ย. คงไปสั้นๆ มีเวลาแค่อาทิตย์เดียวเอง คงจะไปทางภาคใต้ ทะเลหัวหิน ประมาณนั้น
ตอนนี้เดินหน้าทำงานปกติ?
กัปตัน : ได้พัก 1 วันครับ แล้วทำงานต่อ เพราะก่อนหน้านี้ขอคิวละครมาเตรียมงานเยอะ แต่ก็บอกเขาไม่ได้ว่าจะไปทำอะไร พอเสร็จงานก็ต้องชดใช้ให้เขา กลับมาลุยงานกันต่อเต็มที่
คนรอบข้างตกใจเยอะไหมที่รู้ว่าเราจะแต่งงาน?
กัปตัน : ถ้าคนรอบข้างจริงๆ เขาก็ไม่ได้ตกใจอะไรมาก
เอ้ก : เพราะเกริ่นเรื่อยๆ อย่างกับเพื่อนๆ เอ้กก็จะเกริ่นว่าเนี่ยมีอย่างนี้นะ ดาราบางคนเขาจะแต่งงานแต่เขาบอกใครไม่ได้นะ คือเราเคยเล่าเรื่องของคนอื่นให้เพื่อนฟังอยู่ตลอด พอวันหนึ่งกลายเป็นเราเพื่อนก็เลยไม่ได้ตกใจอะไรมาก
เรื่องของอายุที่ต่างกันเป็นปัญหาไหม?
เอ้ก : เอาจริงๆ กลายเป็นว่าเอ้กโหดจนพี่ตันเขาต้องปราม
กัปตัน : ผมว่าเขาค่อนข้างที่จะโตเร็ว ด้วยความเป็นผู้ใหญ่เกิดตัวทำให้เขาอยู่กับผมได้ ตอนนี้บางทีก็รู้สึกเอ๊ะ ได้แม่อีกคนหนึ่งหรอ(หัวเราะ) เขาก็จะมีมุมของเขา มีวุฒิภาวะโตพอ วันหนึ่งถ้าจะเป็นแม่คนก็โอเคแล้วแหล่ะ
เอ้ก : ในทางกลับกัน พี่ตันเขาก็จะทีความสนุกสนาน ร่าเริง พิเศษกว่าคนอื่นๆ ในรุ่น จนกลายเป็นเรื่องง่ายที่เราจะคุยกัน
เป็นหน้าที่เอ้กในการจัดการทุกอย่างในบ้านเลยไหม?
เอ้ก : ไม่ พี่ตันเขาจะรู้ว่าถ้าวันไหนเอ้กทำกับข้าว พี่ตันต้องล้างจาน
กัปตัน : ประมาณนั้น ไม่เป็นไรครับ ไปขอลูกสาวเขามาต้องไม่ทำให้ลำบาก เราไม่ได้แบ่งหน้าที่กันชัดเจน แต่ถ้าใครพอจะช่วยใครได้ก็ทำ ส่วนมากเราก็ไม่อยากให้เขาทำ ถ้าทำเองได้ก็ทำ ผมล้างจาน ถูพื้น ทำงานบ้านเก่งมากนะ ทำมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว คุณแม่ให้ทำเมื่อก่อนเราจะรู้สึกว่าเป็นงานลำบาก แต่พอทำบ่อยๆ ก็โอเค แต่อย่างหนึ่งที่ผมทำไม่เป็นคือรีดผ้า แต่เอ้กจะรีดผ้าเก่ง เติมเต็มกันและกันครับ
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ