สะเทือนใจ ลูกทิ้งแม่ป่วยไว้โรงพยาบาล ส่งรักษา-ไม่มารับกลับ
โรงพยาบาลศรีสังวร สุโขทัย เร่งติดตามญาติ ยายวัย 67 ปี หลังถูกส่งตัวรักษา แล้วติดต่อญาติมารับกลับไม่ได้ ถูกแชร์ออกไปทั่วโลกออนไลน์
จากกรณีมีข้อความและภาพโพสต์ กรณีลูกทอดทิ้งแม่วัย 67 ปีที่โรงพยาบาลศรีสังวร นายแพทย์เกรียงศักดิ์ คำอิ่ม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสังวร พร้อมแพทย์หญิงสุภัทรา พุฒิฤทธิ์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูแพทย์เจ้าของไข้ สาธารณสุขอำเภอศรีสำโรงและหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ ได้แถลงข้อเท็จจริงดังกล่าว
ทางโรงพยาบาลศรีสังวร เปิดเผยว่า นางสมาน อายุ 67 ปี ชาว อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยอาการพูดไม่ได้ แขนขาขวาอ่อนแรง แพทย์ทำการวินิจฉัยส่งเข้ารักษาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ส่งตรวจคอมพิวเตอร์สมองซีทีสแกน
ผลปรากฏว่า เส้นเลือดในสมองตีบของสมองส่วนกลางและทางด้านซ้ายเป็นบริเวณกว้าง โดยญาติที่มาส่งตัวในวันนั้นทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้า บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประกันสุขภาพ และเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อ แต่ติดต่อไม่ได้และไม่เคยกลับมาเยี่ยมเลย
หลังจากทีมแพทย์อายุรกรรม พยาบาล แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และนักกายภาพบำบัด ได้ดูแลอย่างใกล้ชิดที่ตึกอายุรกรรมหญิง ชั้น 2 จนอาการพ้นวิกฤต และเตรียมวางแผนให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน พยาบาลติดต่อไปก็ไม่มีใครรับโทรศัพท์ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย มีแต่เจ้าหน้าที่พยาบาลที่ต้องผลัดกันป้อนข้าว เช็ดตัว เปลี่ยนผ้าอ้อม ดูแลด้วยความรู้สึกรักเคารพเหมือนแม่
อีกทั้งคุณแม่สมานมีบุคลิกเรียบร้อย พยายามช่วยเหลือตัวเองตลอด ถึงแม้จะมีปัญหาที่ตามองไม่ค่อยชัด ซึ่งจักษุแพทย์ของโรงพยาบาลศรีสังวรได้ตรวจเช็คแล้วพบว่า นางสมาน ยังคงมองเห็นอยู่ในเกณฑ์รักษาได้ แต่คงต้องรองลงมาจากการรักษาอาการทางสมองก่อน
ทางด้าน กำนันจรูญ สนทิม ได้เปิดเผยว่านางสมานเป็นคนพื้นเพ ที่ ต.สามเรือน อ.ศรีสำโรงและมีญาติอยู่ 3 ที่คือเชียงใหม่ กรุงเทพฯ และที่ อ.ศรีสำโรง เป็นผู้มีฐานะพอสมควร และมีที่ดินซึ่งเป็นมรดกตกทอด และจะขออำนาจศาลแบ่งมรดกที่เป็นของแม่นางสมานในสัปดาห์หน้า คงจะใช้ช่วงเวลานั้นเชิญญาติ ได้แก่ น้องชาย 2 คน และลูกชายอีก 1 คนที่ทำงานรับจ้างอยู่กรุงเทพฯ มาพูดคุยเพื่อหาแนวทางในการรับผิดชอบดูแลนางสมานต่อไป หรือหากญาติไม่สามารถดูแลได้คงต้องประสานศูนย์คนไร้ที่พึ่งสุโขทัยเข้าให้ความช่วยเหลือต่อไป
นายแพทย์เกรียงศักดิ์ คำอิ่ม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสังวร กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุสำหรับสุโขทัยปีหนึ่งกว่า 500 ราย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกน้อย จะต้องวางแผนในการแก้ไขปัญหานี้ล่วงหน้า ซึ่งน่าเป็นห่วง คุณแม่สมาน คงต้องให้ผู้ป่วยสื่อสารได้มากขึ้น ช่วยตัวเองได้มากขึ้น จะให้กลับไปใช้ชีวิตที่บ้านโดยมีทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟูเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนตอนนี้ยังคงให้รักษาตัวต่อเนื่องในโรงพยาบาล