จับตา บทบาทมหาอำนาจ หลังประชามติ..!!
(ภาพจาก news.thaipbs)
เป็นมารยาททางการทูต ที่น่าสงสัยว่า มิตรประเทศเขาทำกันแบบนี้หรือ... หรือ มีจุดประสงค์ใดกันแน่ถึงได้แสดง กริยามารยาทแบบนี้ออกมา ?
หลังจากผลการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง ผ่านมติรับร่างไปอย่างท่วมท้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค.59 ที่ผ่านมา บรรดาฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ต่างออกมายอมรับผลการประชามติ โดยยอมจำนนต่อเสียงส่วนใหญ่ที่ออกมาแสดงความเห็นในครั้งนี้ จะมีบ้างที่กระจองอแงอ้างโน้นอ้างนี้ไปเรื่อยเปื่อย แต่โดยภาพรวม แล้วก็ยอมรับและรอการเดินหน้าตามกระบวนการต่อไป..
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เสียงสะท้อนและการแสดงออกของคนที่รู้สึกผิดหวังต่อผลของการลงประชามติในครั้งนี้ที่สุด กลับไม่ใช่พรรคการเมือง หรือ นักการเมืองที่แสดงท่าทีออกมาก่อนหน้านี้ แต่กลับเป็น ประเทศที่อ้างตัวว่าเป็นมหามิตร อย่างสหรัฐอเมริกา ..?
เป็นไปได้อย่างไร..การดำเนินการทางการทูต ท่าทีระหว่างประเทศเขาทำกันแบบนี้หรือ เพิ่งจะผ่านการลงประชามติมาได้เพียงวันเดียว กระทรวงการต่างประเทศ โดยนางอลิซาเบธ ทรูโด โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ออก เรียกร้องให้ประเทศไทยกลับคืนสู่การปกครองโดยรัฐบาลพลเรือน และให้เสรีภาพกับประชาชนโดยเร็วทันที
แถมยังแสดงความเห็นว่า กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญนั้นไม่ได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เข้าร่วมอย่างแท้จริง โดยทางการไม่อนุญาตให้มีการการอภิปรายโต้แย้งกันอย่างเปิดเผยก่อนที่จะมีการลงประชามติ เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกข้อจำกัดในเรื่องเสรีภาพของพลเรือน ที่รวมถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและสิทธิในการชุมนุมอย่างสันติ ซึ่งประชาชนไทยจะได้สามารถเปิดการเจรจาหารือเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของประเทศได้อย่างเสรี และไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาปิดกั้น
ข้อวิพากษ์วิจารณ์ช่างเหมือนอะไรเช่นนั้น ปานอ่านจากข้อความเดียวกันกับบรรดานักการเมืองขาใหญ่ซีกตรงข้ามรัฐบาล ที่พยายามแสดงตัวแสดงความเห็นในทำนองนี้มาโดยตลอด
การแสดงความเห็นระหว่างประเทศ สมควรหรือไม่ ที่กระทำเช่นนี้ ทั้งๆที่ประชาชนคนส่วนใหญ่ได้แสดงเจตจำนงเชื่อมั่นแนวทาง ตามที่รัฐบาลปัจจุบันวางแนวทางไว้แล้ว และยืนยันมาโดยตลอดว่า จะเดินตามขั้นตอนตามโรดแมปที่วางไว้
อยู่ๆ คนนอก อย่างสหรัฐฯออกมาแสดงความเห็นทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลประเทศอื่น ทำลายความเชื่อมั่นของคนส่วนที่แสดงเจตจำนงได้อย่างไร.. ประเทศที่อ้างตัวว่าเป็นแม่แบบประชาธิปไตย ประเทศที่เจริญแล้ว ประเทศที่อ้างตัวเป็นมิตรประเทศ เขาทำกันแบบนี้หรือ ...?
การแสดงออกของ สหรัฐอเมริกาต่อ การเมืองในประเทศไทยดูเหมือนจะทำตัวเกินเลย เกินไป นับตั้งแต่ ก่อนการเลือกลงประชามติ อยู่ดีๆก็ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนเตือนพลเมืองของตัวเอง โดยจงใจสร้างภาพ ว่าอาจจะเกิดความรุนแรงในวันลงประชามติของประเทศไทย เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือประเทศไทยต่อชาวโลกได้อย่างไร...แล้ว เหตุการณ์จริงของวันลงประชามติเป็นเช่นไร...? แบบนี้เป็นการจงใจสร้างภาพให้บ้านเมืองของประเทศไทยดูน่ากลัวเกินจริงหรือไม่...สหรัฐต้องการอะไรกันแน่...?
เป็นไปได้อย่างไร ที่สหรัฐส่งเจ้าหน้าที่ของตัวเองไปยังคูหาเลือกตั้งเพื่อสังเกตการณ์การลงประชามติ โดยไม่ประสานกับทางการไทยก่อน แบบนี้เป็นการแทรกแซง และไม่ให้เกียรติต่อทางการไทยใช่หรือไม่ ...?
สิ่งเหล่านี้ ทางการสหรัฐโดยกระทรวงการต่างประเทศต้องการอะไร ...ต้องการเดินเกมการเมืองระหว่างประเทศเช่นไร ... น่าจับตายิ่ง
อย่างที่บรรดานักวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างประเทศเคยกล่าวไว้ ว่า สถานการณ์ของประเทศหลายประเทศในโลกนี้ ที่เกิดสงครามกลางเมือง เกิดความแตกแยก จนประเทศล่มสลาย เป็นเพราะมีมหาอำนาจอยู่เบื้องหลัง คอยปลุกปั่น สร้างสถานการณ์ต่างๆขึ้น การแสดงบทบาทของมหาอำนาจโดยลืมมารยาททางการทูตในหลายครั้งติดต่อกัน ..จึงน่าจับตายิ่ง
โดย...เปลวไฟน้อย