สลดวันแม่ พระลูกชายช่วยแม่อัมพาตไม่ได้ ดับอยู่ในกองเพลิง

สลดวันแม่ พระลูกชายช่วยแม่อัมพาตไม่ได้ ดับอยู่ในกองเพลิง

สลดวันแม่ พระลูกชายช่วยแม่อัมพาตไม่ได้ ดับอยู่ในกองเพลิง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สุดเศร้า แม่อัมพาตวัย 80 ปี นอนป่วยช่วยตัวเองไม่ได้ พระลูกชายพยายามบุกกุฏิ ฝ่าดงเพลิงเข้าไปช่วย แต่ไม่สำเร็จ ถูกเพลิงไหม้ต่อหน้าต่อตา

(12 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.20 น. ร.ต.อ.วิษณุ กฤตเลิศชาย รอง สว.(สอบสวน) สภ.มารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้กุฎิทรงไทย วัดสามตุ่ม หมู่ 4 ต.สามตุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายโสภณ คชพันธุ์ นายอำเภอเสนา หน่วยกู้ภัยพุทไธสวรรย์ และประสานรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นกุฎิไม้ทรงไทยสภาพเก่าแก่กว่า 50 ปียกพื้นสูงปลูกเรียงกันจำนวน 5 หลังพบไฟกำลังลุกไหม้กุฏิหลังที่ 5 เพลิงลุกโหมอย่างรุนแรงเพราะไม้เก่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำนานกว่า 20 นาทีเพลิงจึงสงบ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปตรวจค้นพบมีผู้เสียชีวิต 1 คน ชื่อ นางทองหยิบ อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นอัมพาต ถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโก และมีผู้บาดเจ็บคือ พระศิริศักดิ์ ธัมวโร อายุ 58 ปี พระลูกชายเข้าไปช่วยมารดาผู้เสียชีวิต ถูกไฟลวกตามร่างกายเล็กน้อย

จากการสอบถาม พระศิริศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแม่ ที่วัดก็มีทำบุญตักบาตร อัตมานำข้าวไปให้โยมแม่กิน จากนั้นก็ออกมาทำกิจของสงฆ์ตามปกติที่ลานวัด จนกระทั่งมองไปเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากกุฏิ จึงวิ่งไปดูพบว่าไฟก็กำลังลุกไหม้กุฏิอย่างรวดเร็ว อัตมาจึงพยายามปืนขึ้นไปตรงหน้าต่าง ซึ้งเป็นจุดที่โยมแม่นอน อยู่ แต่ทำไม่ได้จึงทำให้โยมแม่ถูกไฟไหม้ทั้งเป็น

พระศิริศักดิ์ ยังกล่าวว่า อัมตามาบวชที่วัดสามตุ่มได้ 20 พรรษาแล้ว โดยมีพี่น้อง 3 คน ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปหมด เนื่องจากครอบครัวไม่มีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ประกอบกับไม่มีใครดูแลโยมแม่ อีกทั้งโยมแม่ยังเป็นอัมพาต ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในฐานะที่เป็นลูก อัตมาจึงรับหน้าที่ดูแลโยมแม่อยู่ที่กุฏิมากว่า 15 ปีแล้ว

สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากภายในกุฏิไม่มีการจุดธูปจุดเทียน แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook