โรงพยาบาลที่อ่างทองวุ่น โทรศัพท์ลึกลับ ขู่ระเบิดวอดวาย

ตำรวจ-ทหารเข้าคุ้มกันกลางดึก หลังโรงพยาบาลโพธิ์ทอง อ่างทอง ได้รับโทรศัพท์ลึกลับ ขู่จะระเบิด ตรวจสอบไม่พบสิ่งใดๆ คาดแค่เกาะกระแสสร้างสถานการณ์

(13 ส.ค.) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ที่ โรงพยาบาลโพธิ์ทอง จ.อ่างทอง นายลิขิต ทองนาท นายอำเภอโพธิ์ทอง พร้อมด้วยทหารจากชุดปฏิบัติการที่ 1 ร.31 พัน 1 รอ. และเจ้าหน้าที่ทหารจาก กอ.รมน.จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง ได้ร่วมกันประชุมวางแผนการตรวจค้นทั้งภายในและรอบๆ บริเวณโรงพยาบาลโพธิ์ทอง หลังจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้รับโทรศัพท์ขู่วางระเบิดภายในโรงพยาบาล

ซึ่งหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น นายลิขิต ได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกเป็นชุดๆ แยกกันไปตรวจตามอาคารต่างๆ ทุกอาคารภายในโรงพยาบาล โดยเน้นย้ำให้มีการตรวจค้นอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม โดยในการตรวจค้นภายในอาคารหอพักผู้ป่วย ได้ประสานให้ทางพยาบาลที่ดูแลอาคารชี้แจงแจ้งให้ทางผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยทราบก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการตกใจ

โดยใช้เวลาในการตรวจค้นนานกว่า 2 ชั่วโมง ไม่พบวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิด จึงยุติการค้นหา โดยได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และกู้ภัย ช่วยกันวางกำลังสอดส่อง ดูแลความปลอดภัยกับทางโรงพยาบาล โดยหากพบสิ่งผิดปกติให้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที

จากการสอบถาม นายลิขิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. (12 ส.ค.) นายภาณุวัฒน์ งามขำ พยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ได้รับโทรศัพท์สายนอก โดยคนโทรเข้ามานั้นมีลักษณะเสียงคล้ายชายวัยกลางคน โทรเข้ามาบอกว่าจะมีการนำระเบิดมาวางที่โรงพยาบาล

หลังจากได้รับสายโทรศัพท์นั้น ก็ได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ โดยหลังทราบเรื่องก็ได้ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ ในเบื้องต้นได้ลองวิเคราะห์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ามีเหตุผลที่จะมีคนมาวางระเบิด หรือจะเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์เท่านั้น

ทั้งนี้ยังได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า ช่วงในเวลาทำการปกติ ได้มีปัญหากับญาติผู้ป่วยหรือไม่ ถ้าหากมีก็อาจเป็นไปได้ว่าทางญาติผู้ป่วยอาจไม่พอใจจึงโทรมาขู่เพื่อแกล้งทางโรงพยาบาล และจากการสอบถามก็ไม่พบว่ามีปัญหากับญาติผู้ป่วยแต่อย่างใด คงจะเป็นเพียงแค่การสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนบางกลุ่ม

แต่ถึงจะเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่อาจนิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉยได้ จึงได้ออกมาตรวจค้นและวางแผนป้องกัน โดยให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ช่วยกันวางกำลัง สอดส่อง เฝ้าระวังและได้ประสานไปยังองค์การโทรศัพท์ เพื่อเช็คหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา ว่ามาจากไหน เพื่อจะได้ติดตามตัวคนโทรแจ้งมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป