รวบ 4 โจรผัวเมียสุดแสบ ลักเอทีเอ็มทั้งตู้เชิด 4 ล้าน อ้างหาเงินใช้หนี้
(12 ส.ค.) พล.ต.ต. ภัสรวินทร์ พงศ์ภิภัทรภาคิน ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี แถลงข่าวจับกุมแก๊งคนร้ายโจรกรรมตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกรุงไทย สาขา อ.บางปลาม้า ได้เงินสดไปกว่า 4 ล้านบาท
เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายธรรมนูญ มูสิกรังศรี อายุ 39 ปี กับ น.ส.บุศรา เส็งลา อายุ 23 ปี เป็นสามีภรรยากัน รวมมือกับ นายชัยสิทธิ์ บุญมี อายุ 33 ปี กับ น.ส.อาทิตยา จันทคัด อายุ 29 ปี ภรรยานายชัยสิทธิ์ ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พร้อมของกลางที่ยึดได้แยกเป็นทรัพย์สินของนายธรรมนูญและน.ส.บุศรา ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ 3 เส้นน้ำหนัก 6 บาทแหวน ทอง 2 สลึง 2 วง เงินสด 1,523,600 บาท และของนายชัยสิทธิ์กับน.ส.อาทิตยา ประกอบด้วย รถกระบะ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง แท็ปเล็ต 1 เครื่อง เงินสด 1,088,350 บาท
จากการสอบสวน นายธรรมนูญ ให้การรับสารภาพว่า ตนและ น.ส.บุศรา ทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี โดยตนเป็นพนักงานขับรถส่งสินค้า ส่วนภรรยาเป็นพนักงานฝ่ายผลิต กำลังมีปัญหาเรื่องการเงิน ถูกเจ้าหนี้ทวงหนี้ไม่เว้นแต่ละวัน ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่าย จึงชักชวนนายชัยสิทธิ์ซึ่งอยู่ระหว่างตกงานกับ น.ส.อาทิตยา ซึ่งเป็นเพื่อนกับ น.ส.บุศรา วางแผนร่วมกันก่อเหตุ
โดยให้น.ส.บุศรา และ น.ส.อาทิตยา เป็นคนดูต้นทาง นายชัยสิทธิ์เป็นคนใช้ชะแลงงัดตู้ ส่วนตนได้เดินไปหันกล้องวงจรปิด จากนั้นได้ช่วยเข็นตู้เอทีเอ็มขึ้นรถ ก่อนขับหลบหนี ระหว่างทางใช้ชะแลงงัดชุดคอมพิวเตอร์ประมวลผลทิ้งไว้ข้างถนนสายสุพรรณบุรี-บางซ้าย ส่วนตัวตู้ได้ใช้เครื่องเจียรตัดที่บ้านพักที่นวนคร นำเงินออกมาแบ่งกัน ชิ้นส่วนตู้ได้นำไปทิ้งที่บ่อน้ำในเขตพื้นที่พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นก็กลับมาทำงานตามปกติโดยขับรถไปส่งสินค้าที่ จ.เชียงราย กระทั่งมาถูกจับ
ด้าน พล.ต.ต.ภัสรวินทร์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีปัญหาเรื่องการเงินจึงชวนกันมาก่อเหตุโดย นายธรรมนูญเป็นหัวโจก หลังก่อเหตุได้แบ่งเงินกันนำไปใช้หนี้ ซื้อรถยนต์ และของใช้ และร่วมกันก่อเหตุเพียง 4 คน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมร่วมขบวนการอีกว่า มีผู้อื่นร่วมด้วยหรือไม่ พร้อมส่งตัวทั้งหมดดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ขอบคุณที่มาจาก Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์