จับทันควัน แม่ลูกอ่อนฆ่าเศรษฐินี อดีตเมียสารวัตรใหญ่
ตำรวจกาฬสินธุ์ตามจับ "แม่ลูกอ่อน" มือฆ่าโหดเศรษฐินี อดีตเมียสารวัตรใหญ่ สารภาพขัดแย้งปมเงินกู้ โดนด่ารุนแรงเพราะไม่ยอมคืนเงิน
ความคืบหน้าเจ้าหน้าที่พบศพ นางศรีลักษณา โชติมุข อายุ 56 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ซึ่งเป็นภรรยาของ พ.ต.ท.ศุภชัย โชติมุข อดีต สวส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้เสียชีวิตเมื่อปี 2538 ด้วยอุบัติเหตุ และยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและพล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ฆ่าเศรษฐีนีอดีตเมียสารวัตรใหญ่ ทุบหัวดับในโกดังร้าง
หลังจากถูกคนร้ายฆาตกรรมโหดใช้ไม้ทุบตัว เชือกรัดคอและถุงคลุมหัว แล้วนำศพไปซ่อนไว้ใต้กองไม้ภายในโกดังร้างไม่มีเลขที่ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุพล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.อ.ทศพร จิเนราวัต ผกก.สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ได้ระดมกำลังชุดสืบสวนสภ.สมเด็จ และชุดสืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์ไล่ล่าตัวคนร้าย
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (18 ส.ค.) พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว น.ส.รัชนี ภูบุญเพชร อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆาตกรรม นางศรีลักษณา พร้อมของกลางเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ เปื้อนเลือดที่ใช้ก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือ รองเท้าแตะ และท่อนไม้หน้าสาม พร้อมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในโกดังร้าง ท่ามกลางชาวบ้านมาเฝ้าดูเหตุการณ์จำนวนมาก
น.ส.รัชนี ให้การรับสารภาพว่า ตนได้รู้จักกับผู้เสียชีวิตมาประมาณ 1 ปีเศษ ซึ่งเนื่องจากตนมีอาชีพเป็นแม่บ้าน จึงได้ไปยืมเงินผู้เสียชีวิตมาโดยตลอด เสียดอกกันตามปกติ แต่มาในระยะหลังเศรษฐกิจไม่ดี ประกอบกับตนเองก็เพิ่งจะคลอดลูกออกมาประมาณ 7 เดือนเศษ จึงได้ไปยืมเงินมาเพื่อลงทุนเพื่อไปทำตู้เติมเงินโทรศัพท์หยอดเหรียญ เป็นเงินจำนวน 20,000 บาท ที่ยังไม่มีเงินคืน แต่ผู้เสียชีวิตก็มาพยามทวงนี้อยู่ตลอด
และล่าสุดก็ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ถ้าไม่จ่ายจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงรู้สึกกลัวจึงต้องการเจรจาและได้นัดกันมาที่โกดังร้างดังกล่าว ทันทีที่พบหน้ากัน ผู้เสียชีวิตก็ได้ต่อว่าตนอย่างรุนแรง และเริ่มทะเลาะกตบตีกัน แต่เนื่องจากผู้เสียชีวิตอายุมากกว่า จึงสู้แรงไม่ไหว เสียหลักล้มลงหัวไปกระแทกกับท่อนไม้ที่วางอยู่
เมื่อตนเห็นอย่างนั้น ก็พยามวิ่งหนีไป แต่ผู้เสียชีวิตยังเอื้อมมือมาจับคว้าแขนไว้ ตนจึงตัดสินใจที่จะฆ่าผู้ตายทันที โดยเมื่อมีการผลักกันล้มไปอีกครั้ง และคว้าไม้หน้าสามตีเข้าที่ศีรษะและใบหน้าหลายครั้ง จากนั้นก็ได้ใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวจนขาดอากาศหายใจและตายในที่สุด ก่อนที่จะหลบหนีจึงได้นำสังกะสีและเศษไม้ในโกดังทับศพเอาไว้ดังกล่าว