คำสารภาพ "ครูใหญ่" ยิงน้องในโรงเรียน น้อยใจพ่อ-เงินเดือนน้อยกว่า

รวบตัว "ครูใหญ่" โรงเรียนเอกชนย่านอ่อนนุช ยิงน้องสาวตัวเองคาห้องธุรการ เหตุน้อยใจพ่อให้เงินเดือนน้อย ทั้งที่ทำงานหนักกว่า อ้างไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นกำลังเมา

จากกรณีที่ นายพิสิฐพล ไกรพิพัฒน์ ตำแหน่งครูใหญ่ โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช ใช้อาวุธปืนยิงใส่ นางปิยรัชด์ สุรพงศ์ประภา ตำแหน่งผู้จัดการภายในโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งเป็นน้องสาวเเท้ๆ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้ได้ขับรถยนต์หลบหนีไป

ล่าสุดในวันนี้ (19 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายพิสิฐพล ไกรพิพัฒน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

พร้อมของกลางอาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุน ขนาด .38 จำนวน 6 ปลอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 25 นัด รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีแดง ทะเบียน 2กฌ8704 กทม. โดยจับกุมได้บริเวณทางออกลานจอดรถโฮมโปร อเวนิว กม.12 ถ.บางนาตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวานนี้ (18 ส.ค.)

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้สืบสวนหาข่าวในทันที จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายพิสิฐพล ซึ่งเป็นพี่ชายของ นางปิยรัชด์ ประกอบกับมีภาพกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุยืนยันตัวผู้กระทำความผิดชัดเจน พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้ปรากฏตัวบริเวณทางออกลานจอดรถโฮมโปร อเวนิว กม.12 ถ.บางนาตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนางปิยรัชด์บริเวณที่เกิดเหตุจริง

สาเหตุเกิดขึ้นจากการน้อยใจบิดาและมีเรื่องผลประโยชน์ในโรงเรียนมาเกี่ยวข้องด้วย มีกำไรขาดทุน รายได้ส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม เมื่อพยายามคุยกับทุกฝ่ายแล้วแต่ไม่เป็นผลจึงเกิดความเครียดหันมาดื่มสุราจึงก่อเหตุขึ้น โดย นางปิยรัชด์ ได้เงินเดือนประมาณ 200,000 บาท ส่วนนายพิสิฐพลได้เงินเดือนแค่หลักหมื่น ประกอบกับตำแหน่งของ นายพิสิฐพล สูงกว่า แต่ไม่ค่อยทำงานเพราะติดสุรา

นายพิสิฐพล กล่าวว่า ตนเครียดตั้งแต่เปิดโรงเรียนเมื่อปี 2546 ตนทำงานเพียงคนเดียวมาโดยตลอด เคยพูดคุยกับบิดาแต่ก็ทะเลาะกันตลอด พ่อบอกกับตนว่า "มึงจะมาเรียกร้องความยุติธรรมอะไร ในเมื่อพ่อยังไม่ได้เสียชีวิตเลย"

และการที่พี่น้องไม่คุยกับเป็นสิบๆ ปีจึงทำให้เครียดเพิ่มขึ้น ตำแหน่งของตนเป็นตำแหน่งลอยคือตำแหน่งรองผู้อำนวยการ เคยถามน้องถึงสมุดเงินฝากโรงเรียน น้องปฏิเสธว่าไม่มี เงินศูนย์อาหารที่ได้รับวันละ 3,000-4,000 บาท ตนขอแบ่งน้องก็ไม่ยอมให้ จึงมีการทะเลาะกัน

นายพิสิฐพล ได้บอกอีกว่า ผมทำแล้วรู้สึกไม่ดี หากน้องเกิดเสียชีวิต ลูกของน้องก็จะลำบาก ความตั้งใจที่จะมอบตัวมีอยู่แล้วแต่เหตุการณ์มันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ผมอยากจะขอโทษด้วยความจริงใจ ผมทำร้ายลูกของพ่อก็เหมือนทำร้ายพ่อเหมือนกัน ผมอยากจะขอโทษพ่อและสามีของน้องด้วย

เบื้องต้น นายพิสิฐพล ให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก Workpoint News