ม.ร.ว.นริศรา พระธิดาพระองค์จุลจักรพงษ์ เผยชีวิตการเป็นเจ้าลูกครึ่ง
ชื่อม.ร.ว.นริศรา จักรพงษ์ อาจจะไม่คุ้นหูคนไทยนัก เพราะใช้ชีวิตค่อนข้างโลว์โพรไฟล์ ทั้งที่มีตัวตนและชาติตระกูลน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องราวของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระบิดาของคุณหญิง...
ม.ร.ว.นริศราเกริ่นตอนต้นว่า เธอเป็นธิดาคนเดียวใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ กับหม่อมชาวอังกฤษ นาม เอลิซาเบธ ฮันเตอร์ พระบิดาของเธอเป็นพระโอรสโทนของ จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ กับหม่อมชาวรัสเซีย นาม คัทริน จักรพงษ์ ณ อยุธยา เสด็จปู่ของเธอทรงเป็นต้นราชสกุล จักรพงษ์ และ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 40 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ โดยทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราชและพระเชษฐาธิราชร่วมพระบรมราชชนนีเดียวกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ดังนั้น เมื่อรัชกาลที่ 7 ทรงสละราชสมบัติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ จึงทรงเป็น 1 ในผู้สืบราชสันตติวงศ์ แต่เนื่องจากทรงมีพระมารดาเป็นชาวต่างชาติ เลยต้องพิจารณาข้ามตามกฎมณเฑียรบาล
การเกิดมาในราชสกุลแต่มีเลือดต่างด้าว จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการใช้ชีวิตในอดีต ซึ่ง ม.ร.ว.นริศราเล่าว่า ท่านพ่อเสด็จไปศึกษาต่อประเทศอังกฤษตั้งแต่พระชันษา 12 ปี หม่อมแม่ของท่านพ่อก็ไปอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ไม่กำพร้าก็เหมือนกำพร้า ไม่ถูกเนรเทศก็เหมือนเนรเทศ ทรงดำรงฐานันดรศักดิ์เป็นหลานหลวงของพระเจ้าแผ่นดิน แต่พระมารดาเป็นชาวต่างชาติ กึ่ง "เจ้า" กึ่งไม่ใช่ เนื่องจากมีเลือดฝรั่งปน ในชีวิตวัยเด็กของท่านพ่อจึงไม่สนุกนัก และคิดว่ามีผลกระทบมาตลอดพระชนม์ชีพ ท่านพ่อทั้งมั่นใจและไม่มั่นใจในพระองค์ ด้วยส่วนลึกในพระทัยยังรู้สึกว่าคนไม่รัก นอกจากนี้ เมื่อท่านพ่อเจอหม่อมแม่ก็หลงรักทันที แต่ท่านทรงพยายามที่จะไม่รัก เพราะล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 รับสั่งว่า "อย่าแต่งงานกับสตรีต่างชาติ"
แต่สุดท้ายเชื้อชาติและวรรณะก็ไม่สามารถกีดกั้นความรักได้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทรงเสกสมรสกับหม่อมเอลิซาเบธ และเป็นเวลา 18 ปี หม่อมเอลิซาเบธจึงตั้งครรภ์ ซึ่ง ม.ร.ว.นริศราเล่าว่า ด้วยความรู้ซึ้งถึงการเป็นเจ้าที่มีเลือดฝรั่งปน ทำให้ท่านพ่อไม่คิดที่จะมีบุตร ทีแรกเมื่อรู้ก็รู้สึกน้อยใจ แต่เมื่อศึกษาพระประวัติของท่านก็พอจะเข้าใจได้ว่า ทำไมท่านไม่ต้องการมีบุตร รวมทั้งการที่เคยได้รู้รสชาติของความแตกต่างทางสีผิวและหน้าตากับเพื่อนๆ เมื่อครั้งกลับมาเมืองไทย เพราะเป็นคนขาวอยู่คนเดียว เลยโดนล้อว่าอีหมาขาว รู้สึกเหมือนฝันร้ายที่สุดและเด็กทุกคนจะรุมล้อคนที่ไม่เข้ากลุ่ม แต่เมื่อพออยู่สักพัก พอจะเริ่มมีเพื่อนก็ต้องกลับอังกฤษ เลยไม่มีเพื่อนสนิทจริงๆ ในวัยเด็ก
อย่างไรก็ตาม ชีวิตในวัยเยาว์ของ ม.ร.ว.นริศรา ก็สุดแสนจะอบอุ่น โดยเกิดและโตที่ประเทศอังกฤษ ใช้ชีวิตอยู่บนเนินเขาใหญ่ในมณฑลคอร์นวอลล์ เขตชนบท ครอบครัวอยู่อย่างเป็นสุขจนเมื่อเกิดความสูญเสียตอนอายุ 7 ขวบ ที่ท่านพ่อของเธอสิ้นพระชนม์ด้วยโรคมะเร็ง และผ่านไปอีกไม่กี่ปีหม่อมแม่ก็ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคมะเร็งเช่นกัน เมื่อตอนที่ ม.ร.ว.นริศรา อายุ 15 ปี เธอต้องไปอยู่กับน้าที่ค่อนข้างเอียงซ้ายและไม่ชอบความเป็น "เจ้า" ของท่านพ่อของเธอ จนพาลมาตราหน้าเธอว่า ชีวิตนี้คงไม่เอาไหน
ม. ร.ว.นริศราได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการออกจากบ้านน้า เมื่อตอนอายุ 18 ปี โดยบอกว่า ขณะนั้นยังไม่ได้รับมรดก จึงต้องเลี้ยงตัวด้วยลำแข้งของตัวเอง ทำงานเสิร์ฟอาหาร ส่งตัวเองจนจบปริญญาบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 และเมื่อโทร.ไปบอกน้าถึงความสำเร็จ กลับได้รับเสียงกรี๊ดออกมาทางโทรศัพท์ ด้วยความไม่เชื่อ แม้จะ ลัคกี้อินเกม ประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษา แต่ด้านความรักกลับ อันลัคกี้อินเลิฟ เมื่อชีวิตสมรสครั้งแรกกับ แอลเลน เลวี่ หนุ่มที่มีวัยแตกต่างกันมากกว่า 20 ปี ต้องแยกทางกันในที่สุด โดยมีลูกชายด้วยกัน 1 คน คือ จุลจักร จักรพงษ์ หรือ ฮิวโก้ อดีตดาราและนักร้องหนุ่มรูปหล่อ
จิกซอว์ชีวิตของ ม.ร.ว. นริศราถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ เมื่อแต่งงานกับ กี้-กอสวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ บุตรชาย ม.ร.ว.สายสวัสดี สวัสดิวัตน์ ซึ่งต่างเป็นลูกครึ่งที่มีรสนิยมและการใช้ชีวิตคล้ายกัน เข้าใจกันจนฉลองสมรสได้ 21 ปีแล้ว ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันคือ กู้-ภูวสวัสดิ์ จักรพงษ์ เธอและครอบครัวใช้ชีวิตไป-มาระหว่างไทยและอังกฤษ ซึ่งการได้ใช้ชีวิตที่พบกับความเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ทำให้ ม.ร.ว.นริศรา ได้เรียนรู้ว่า "เด็กต้องการความมั่นคง อะไรในชีวิตเป็นอย่างไรก็อยากให้เป็นอย่างนั้น เด็กไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง อยากมีพ่อ อยากมีแม่ อยากมีบ้านที่ทุกอย่างมั่นคง ง่ายๆ ความหรูหราที่ได้ไปวังโน้น วังนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลย"