สาวอะโกโก้ทำงานวันแรก คว้าขวดปากฉลามฟันสาวรุ่นพี่
สาวอะโกโก้น้องใหม่ เพิ่งมาทำงานวันแรก คว้าขวดเบียร์ปากฉลามฟันแทง สาวรุ่นพี่ที่ทำงาน หลังเขม่นกันในร้าน
(23 ส.ค.) ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย จันลา รองสวป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทและมีการใช้อาวุธทำร้ายกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณปากซอย 6 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบสาววัยรุ่นเกือบ 20 คน แบ่งข้างเป็นสองฝั่ง กำลังยืนส่งเสียงเอะอะโวยวายกันอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ตรวจสอบพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อคือ น.ส.จันทนิภา กู้เขียว อายุ 22 ปี พนักงานสาวอะโกโก้แห่งหนึ่งของเมืองพัทยา เลือดท่วมตัว สภาพใบหน้าปูดบวม มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่คิ้ว หน้าผากและแขนทั้งสองข้าง ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงปฐมพยาบาลให้
ขณะที่ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ น.ส.กรรณิการ์ มิ่งขวัญ อายุ 20 ปี พนักงานสาวอะโกโก้ร้านเดียวกัน ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยในมือข้างขาถือขวดเบียร์ที่แตกเป็นปากฉลาม ตำรวจจึงควบคุมตัว พร้อมยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม ผู้บาดเจ็บให้การว่า ระหว่างทำงานเต้นโคโยตี้ อยู่ที่ร้านอะโกโก้ ผู้ก่อเหตุที่เพิ่งมาทำงานเป็นวันแรก ได้เกิดเมาสุรา เต้นระบำตามจังหวะเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะยกเท้าใส่ลักษณะเยาะเย้ย โดยไม่ทราบว่าสาเหตุอะไร เธอจึงเดินเข้าไปถามว่า "มีปัญหาอะไรไหม" จากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงอย่างรุนแรง
ต่อมาก็ได้นัดมาเคลียร์ปัญหากันนอกร้านบริเวณจุดเกิดเหตุ เมื่อถึงเวลานัด ผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้พูดจาอะไรคว้าขวดเบียร์ที่พกติดตัวมาด้วย ฟาดเข้าที่ศีรษะ 1 ครั้ง จนขวดเบียร์แตกแล้วใช้ปากฉลามแทงเข้าที่ใบหน้าและแขนจำนวนหลาย 10 แผล ก่อนจะมีพลเมืองดีช่วยกันห้ามปรามและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ
ภายหลังสอบสวนเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุปฏิเสธว่า เธอไม่มีเจตนาเต้นยกเท้าใส่ผู้บาดเจ็บ ยืนยันว่า ผู้บาดเจ็บเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาเรื่องแล้วคิดไปเอง ก่อนที่ตัวเธอจะถูกกระชากออกมาจากนอกร้านแล้วโดนทำร้าย จึงใช้ขวดเบียร์ที่กินอยู่ถือติดออกมาด้วยทำร้ายคืน เพื่อเป็นการป้องกันตัว เพราะว่าระหว่างเกิดเหตุได้มีบรรดาเพื่อนๆ ผู้บาดเจ็บ พยายามเข้ามาทำร้ายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุ ไปสอบสวนดำเนินคดีของกฎหมายต่อไป