เปิดชีวิต!! แน็ก ชาลี ติสท์ตัวจริง กับอนาคตที่ไม่มีแผน
หายหน้าหายไปจากวงการไปซะนาน จนหลายคนคิดว่าตัดสินใจหันหลังให้วงการอย่างที่เคยประกาศไว้ซะแล้ว สำหรับนักแสดงวัยรุ่น "แน็ก ชาลี ไตรรัตน์" ที่ล่าสุดเจ้าตัวโผล่มารับงานละครอีกครั้งในรอบหลายปี ให้กับผู้จัดสาวไฟแรงแห่งค่ายกันตนา "สตางค์ ดิษย์ลดา ดิษยนันทน์" ในละครเรื่อง "เงินปากผี" ซึ่งงานนี้หลายคนก็เลยอดสงสัยไม่ได้ว่า ช่วงที่ผ่านมาเจ้าตัวได้แอบไปซุ่มทำอะไรมาบ้าง และชีวิตช่วงนี้แฮปปี้มากน้อยขนาดไหน อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวกลับมาคืนจออีก !?
โดยหนุ่ม แน็ก ชาลี เองก็ได้เผยแบบละเอีดดยิบเช่นเดียวกันว่า สาเหตุที่ตนเองกลับมารับงานอีกครั้งก็เพราะอยากที่จะหาเงินไปใช้เป็นทุนในการทำดนตรี รวมถึงช่วยค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสัตว์ ส่วนอนาคตจากนี้ต่อไปเจ้าตัวก็ได้ยอมรับว่าแค่คิดไว้เฉยๆ ว่าจะทำอะไร แต่ถ้าต้องให้ทำงาน 7 วัน คงไม่ไหวเพราะยังรู้สึกขี้เกียจ อีกทั้งยังมีอะไรที่อยากทำและอยากศึกษาอีกเยอะ...
หลายคนสงสัยเลยว่าทำไมเราถึงได้หวนกลับมารับงานในวงการอีกครั้ง ?
"คือเราก็รู้สึกว่าเราก็ต้องเริ่มกลับมาทำงานบ้างแล้วนะ แต่อะไรคือจุดที่ทำให้คิดแบบนี้ เอ่อ...(หัวเราะ) หลายจุดมาก อย่างจุดที่แบบช่วงหลังมานี้ผมไปทำดนตรี และใจผมก็ยังอยากที่จะทำดนตรีอยู่ แต่การทำดนตรีมันต้องหาเงินมาทำด้วย ดังนั้นปัญหาหลักเลยก็คือเรื่องเงิน ซึ่งถ้าอยู่ปกติผมไม่สนใจอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าเราอยากรู้เรื่องดนตรีและมันต้องใช้เงินเยอะ ดังนั้นถ้าจะให้อยู่ไปวันๆ มันก็ไม่ได้"
การรับงานละครตอนนี้เราเลือกบทได้ไหม หรือว่าบทไหนเราก็เอาหมด ?
"ถ้าลองไปเช็คจริงๆ ผมมีบทส่งมาให้รับเยอะมากนะ และก็เป็นบทดีๆ เยอะมากด้วย แต่มันเหนื่อยครับ คือถ้ามันเหนื่อยและก็เป็นบทที่เครียดผมก็ไม่ไหวละ ผมยอมแพ้"
เป็นเพราะตัวเราเองด้วยหรือเปล่าที่เป็นคนเลือกเยอะ ?
"จริงๆ ไม่ได้เลือกเยอะนะครับ แค่อยากทำช่วงนี้อะไรแบบนี้มากกว่า"
ถามถึงเรื่องดนตรีคุณพ่อคุณแม่เขาไม่ได้ช่วยเหลือหรือยังไง ?
"พอดีผมไม่ได้รบกวนเงินพ่อแม่ ไม่ได้รบกวนเงินใคร และที่สำคัญผมเป็นคนใช้เงินเยอะมาก"
จริงๆ มันมีโอกาสไหมที่เราจะตัดใจไม่ทำดนตรีดีกว่า ?
"ผมยังอยากทำดนตรีอยู่ครับ อย่างเมื่อกี้นี้ได้มีโอกาสเจอกับ พี่สิงโต นำโชค ผมก็ยังถามยังปรึกษาพี่เขาอยู่เลยครับ"
เหมือนว่าการกลับมาครั้งนี้เราจะนำเงินที่ได้จากการแสดงละครไปซับพอร์ทเรื่องดนตรี ?
"คือผมเป็นคนที่ยังไม่ได้เก็บเงิน ผมชอบซื้อของ ชอบเลี้ยงสัตว์ แต่ตอนนี้ก็มองว่าจะขายรถที่บ้านแล้วนะเพื่อนำเงินมาดูแลมาเลี้ยงสัตว์ ส่วนเรื่องดนตรีอันนี้ผมไม่ได้เสียเงินเรียนนะ แต่ผมเสียเงินหนักตรงที่ผมอยากเล่นเครื่องดนตรีเป็นทุกชิ้น ทุกราคา"
ทางบ้านว่ายังไงบ้างดูเราจริงจังขนาดนี้ ?
"เขาก็ว่าครับ เพราะเงินที่ได้จากการแสดงหนังหรือการแสดงละครผมใช้แค่แปปเดียวก็หมดแล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี"
ที่เราบอกว่าจะขายรถอันนี้เป็นรถใหญ่เลยหรือยังไง ?
"ไม่ใช่ครับ พอดีว่าที่บ้านผมมีมอเตอร์ไซค์เยอะมาก ไม่ใช่รุ่นใหญ่ๆ เลย แต่ไม่ถึงกับสะสมหรอกครับ แค่ชอบเฉยๆ"
เราวางแพลนชีวิตตัวเองไว้ยังไงบ้าง ?
"จุดมุ่งหมายของผมก็คืออยากมีเงินเลี้ยงสัตว์ครับ ผมชอบสัตว์เลี้ยงครับ"
ทำไมไม่เปิดเป็นฟาร์มจริงจังไปเลย ?
"ไม่เปิดครับไม่เปิด คือผมอยากทำให้มันสบายใจมากกว่า ไม่มีเงินเข้ามาเกี่ยว"
ที่บ้านเราเลี้ยงอะไรบ้าง ?
"เลี้ยงเยอะครับ แต่ก็ไม่ได้ขนาดเท่าเมื่อก่อนที่ชอบอะไรก็เอามา เอามา"
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสัตว์ต่อเดือนเยอะมากขนากไหน ?
"ไม่ได้เยอะอะไรขนาดนั้นนะครับ ส่วนใหญ่จะหมดไปกับการที่ผมใช้ทำนู่นนี่นั่นมากกว่า"
เดือนๆ หนึ่งเราหาค่าใช้จ่ายได้มากน้อยแค่ไหน ?
"จริงๆ ผมทำงานน้อยมากครับ เพราะผมทำงาน 7 วัน ไม่ไหว ผมยังมีอย่างอื่นที่อยากทำอีกเยอะมาก และถ้าหากไม่ต้องการเงินเพื่อมาใช้ทำดนตรีและเลี้ยงสัตว์ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเยอะครับ"
เราได้มองได้กำหนดไว้ไหมว่าเป้าหมายชีวิตจะเป็นยังไง ?
"ก็คิดนะ คือผมก็โตแล้ว อายุจะ 24 แล้ว เรียนก็ไม่จบ 2 ที่แล้วด้วย คือผมก็รู้สึกว่ามันต้องทำงาน ส่วนเรื่องเรียนผมก็คิดตลอด แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้ (หัวเราะ) เป็นคนไม่ง้อใคร มหาลัยจะช่วยก็ไม่เอา ก็...ถ้ายังทำ 7 วันหรือ 5 วัน ไม่สามารถเรียนจบได้ครับ"
แสดงว่าเราไม่คิดที่จะกลับไปเรียน ?
"คิดครับ แต่ยังไม่พร้อมกลับไป"
คิดทุกอย่างแต่ไม่ทำอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งสักอย่าง ?
"ใช่ (หัวเราะ)"
เหมือนเรายังสนุกยังแฮปปี้กับชีวิตวัยรุ่นหรือเปล่า ?
"เอาจริงๆ ผมไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเลยนะ ผมไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ผมอยู่บ้านเลี้ยงแต่สัตว์ ขับรถ ชอบอะไรแบบนั้นมากกว่าครับ"
เป็นเพราะเรายังหาตัวเองไม่เจอ ?
"ไม่ใช่หรอกครับ แค่ผมยังไม่หมดความขี้เกียจมากกว่า ยังติดเรื่องทำนู่นทำนี่หลายอย่าง อยากรู้ไปเรื่อย อยากศึกษาไปเรื่อย"
มีสาวๆ เข้ามาให้เราคุยบ้างไหม ?
"มีครับ มีแฟนเป็นคนนอกวงการนี่แหละ เพิ่งจะคุยกันไม่ได้นานมาก เพราะคนแบบผมถ้ามีคนคบก็ต้องรีบคบนะ (หัวเราะ) คือคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจผม คุยกันได้แปปๆ เขาก็ไปแล้ว เพราะเขารับไม่ได้ในหลายๆ เรื่องที่ผมชอบ แต่คนนี้เขาเข้าใจ"
รู้จักกันได้ยังไงกับสาวคนนี้ ?
"ก็อย่างที่บอกตอนแรกผมทำดนตรีไงครับ และเขาก็เป็นนางเอกมิวสิคของผมนี่แหละ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่าไปชอบน้องเขา (หัวเราะ) จีบเองเลย"
ความรักดูมีอนาคตมากกว่าเป้าหมายในชีวิต ?
"ผมเป็นคนบอกผู้หญิงเลยนะว่าผมเป็นคนไม่มีอนาคตนะ (หัวเราะ) และเอาตรงๆ ผมเป็นคนที่ชอบคนแก่มาก จีบแต่คนแก่ ดังนั้นจึงไม่ค่อยกังวลในเรื่องนี้ แต่พอบางคนเขาบอกว่าผมต้องทำงานนะ เอาละ พอบอกว่าต้องทำงานผมก็บ๊ายบายละ ไม่อยากทำงาน"
แต่กับคนนี้ก็โอเคดีแฮปปี้ ?
"ใช่ครับ คือคนนี้เขายังเรียนหนังสืออยู่ เขาก็เลยไม่ได้มาบอกมาบังคับว่าจะต้องทำนู่นนั่นนี่ แต่ถามว่าคบกันจริงจังไหม เอ่อ...เวลาผมคบใครผมก็จริงจังครับ"
เครดิตภาพประกอบจาก @nakcharlie_fc
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ