หนุ่ม 14 ปฏิเสธฉุดปล้ำเด็กสาวที่งานเทกระจาด แค่พาไปค้างบ้าน
แม่ของเด็กหญิงที่หายตัวไปจากงานเทกระจาด ได้เข้าขอบคุณมูลนิธิกู้ภัย หลังช่วยติดตามลูกสาวกลับมาได้ ขณะที่ตำรวจคุมตัว เด็กชายวัย 14 ถูกกล่าวหาว่าพาไปข่มขืน แต่ยังคงปฏิเสธ
(26 ส.ค.) จากกรณีที่แม่ของ เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ได้เข้าร้องทุกข์ว่า ลูกสาวได้หายตัวไปจากงานเทกระจาด เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) เด็กหญิงเอ ได้กลับมาสู้อ้อมกอดของแม่ในสภาพอิดโรยและร่างกายบอบช้ำ ตามข่าวที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ แม่ของเด็กหญิงเอ ได้เดินทางมาขอบคุณ นายสุเทพ ณัฐกานต์กนก ประธานกู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตา ที่ช่วยนำภาพจากล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพลูกสาว ขณะที่เดินเข้ามูลนิธิไปกับเด็กวัยรุ่น ก่อนหายตัวไป กระทั่งสามารถติดตามตัวกลับมาได้
ขณะเดียวกันทางมูลนิธิสว่างเมตตาก็ได้มีการนำข้าวสารอาหารแห้ง และเงินจำนวนหนึ่งมอบให้กับครอบครัว พื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทางด้าน พันตำรวจเอกปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนเด็กหญิง วัย 13 ปี ที่หายตัวไปแล้วนั้น คำให้การได้กล่าวหาถึง เด็กชายบี (นามสมมุติ) วัย 14 ปี ที่อาศัยอยู่ที่บ้านหนองหญ้าขาว ระบุว่าเป็นคนที่พาไปนอนพักอยู่ที่บ้าน เป็นระยะเวลา 2 วัน
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมานั้น ทางผู้ใหญ่บ้านหนองหญ้าขาว พร้อมด้วยเด็กชายบี (นามสมมุติ) และพ่อ ได้เดินทางเข้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา หลังตกเป็นผู้กล่าวหาในกรณีดังกล่าว
จากการสอบสวน เด็กชายบี ให้การยอมรับว่า ได้รู้จักกับเด็กหญิงเอได้ราวๆ 1 เดือน ผ่านการติดต่อกันในเฟซบุ๊ก ก่อนจะเดินทางมาเจอกันที่งานเทกระจาก แล้วพา เด็กหญิงเอ ไปนอนค้างอยู่ที่บ้านจริงเป็นระยะเวลา 1 วัน 1 คืน แต่ในส่วนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำชำเรานั้น เด็กชายบีให้การปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่ได้มีการกระทำชำเราแต่อย่างใด เพียงแค่กอดจูบกันเพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องรอผลการตรวจจากแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และยังต้องทำการสอบสวนเด็กหญิงเอและเด็กชายบี พร้อมกับเจ้าหน้าที่อัยการ, นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยาอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงบ่ายวันนี้ต่อไป