ขู่ปิดเว็บแพร่ภาพสูบกัญชา

เจ้ากระทรวงไอซีที ลั่นเอาผิดคนแพร่ภาพไม่เหมาะสม เตรียมเล่นงานถึงขั้นปิดเว็บไซต์ดัง หลังมีภาพแนะวิธีการสูบกัญชา-นักศึกษาขายบริการ รองปลัดฯ ชี้แจงมีสิทธิแค่กั้นไม่ให้แพร่ภาพไม่มีสิทธิสั่งปิด กระทรวงวัฒนธรรม จี้ทุกหน่วยงานเล่นงานเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ด้านปปส.เข้าขอข้อมูลเตรียมเอาผิดคนก่อเหตุ ลัดดา แจง เผยแพร่ข้อมูลไม่ดีหวังสังคมดีขึ้น ไม่ตั้งใจจะไปปิดเว็บไซต์ดัง ไฮไฟว์

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีการแพร่ภาพการสูบกัญชาในเว็บไซต์ไฮไฟว์และนักศึกษาขายบริการว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหามาตรการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง เด็กนักศึกษาขายบริการผ่านเว็บไซต์ ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ประสานงานไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยภายหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบจาก ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารว่า มีความเป็นห่วงเรื่องการเผยแพร่ภาพเสพ กัญชาบนไฮไฟว์ โดยจะตรวจสอบและปิดเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมโดยเร็ว

นายธีระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้มอบหมายให้น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ติดตามการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงานว่ามีการดำเนินการต่อเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง ขณะนี้ยังพบว่ามีบางเว็บไซต์ซึ่งเป็นเว็บ ยอดฮิตมีการเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอลามกอยู่ จึงขอเตือนผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตให้นำสิ่งที่เป็นภัยต่อสังคมออกจากเว็บไซต์ หากตรวจสอบพบจะมีความผิดถึงขั้นปิดเว็บ และถูกดำเนินคดี ตามกฎหมาย

น.ส.ลัดดา กล่าวว่า ขณะนี้ ป.ป.ส. ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาหารือกับตนและนายสมชาย เสียง หลาย รองปลัดกระทรวงฯ เพื่อขอข้อมูลไปสืบหาข้อเท็จจริงและใช้ประกอบในการสืบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด การที่ศูนย์ฯออกมาเปิดเผยข้อมูลเพื่อต้องการกระตุ้นให้สังคม ผู้ปกครองช่วยกันดูแลบุตรหลาน รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดการโพสต์ภาพ และข้อความที่ไม่เหมาะสม โดยกระทรวงไม่มีเจตนาให้ปิดไฮไฟว์ เพราะที่ผ่านมาผู้ใช้บริการหลายรายได้ใช้ไฮไฟว์ในทางที่ดี ทั้งนี้กระทรวงจะเป็นเจ้าภาพเชิญผู้ประกอบการและผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาประชุมหามาตรการป้องกันต่อไป

นายอังสุมาล ศุนาลัย รองปลัดกระทรวงไอซีที เปิดเผยว่า กรณีภาพสูบกัญชาทางกระทรวงรับทราบแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อทำเรื่องส่งไปยังศาลดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด ทั้งในเรื่องของการโพสต์รูปภาพอนาจารลงในเว็บไซต์ และการขายตัวบนเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมทั้งได้ปรึกษากับเว็บมาสเตอร์ และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ให้มีการเข้มงวดในเรื่องของการเอาผิดกับผู้กระทำความผิด และให้ผู้ให้บริการเข้มงวดกับผู้ที่จะมาใช้บริการต่าง ๆ ให้มากขึ้น ทั้งนี้กำลังมีแผนสร้างระบบป้องกันและตรวจ สอบข้อเท็จจริง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาสามารถตรวจ สอบข้อผิดพลาดได้ภายใน 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามกระทรวงไม่มีอำนาจในการปิดเว็บไซต์ต่าง ๆ แต่จะมีอำนาจเพียงแค่ปิดชื่อที่อยู่เว็บไซต์ หรือเนื้อหาเท่านั้น.