เปิดคำสารภาพ "วัชรินทร์" มือฆ่าชิงทรัพย์สาวใหญ่บนรถทัวร์
ตำรวจปิดห้องสอบสวน "วัชรินทร์" ผู้ต้องหาฆ่าสาวใหญ่ชิงทรัพย์บนรถทัวร์ สารภาพเสพยาบ้ามาก่อเหตุ หลอกเหยื่อให้ขึ้นรถ ก่อนกระทืบซ้ำให้ตาย
(30 ส.ค.) จากกรณีเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นางบุญเพ็ง อายุ 56 ปี บนรถทัวร์โดยสารประจำทางสาย ร้อยเอ็ด-บุรีรัมย์ กระทั่งล่าสุดสามารถควบคุมตัว นายวัชรินทร์ ประทุมพร อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุดังกล่าว หลังหลบหนีอยู่ที่กระท่อมกลางทุ่งนาใน อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม อีกทั้งยังขัดขืนชกหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ระหว่างเข้าปฏิบัติการจับกุมด้วย
พ.ต.อ.วิศักดิ์ อินทรกรอุดม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวาปีปทุม เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเกิดเหตุได้เสพยาบ้ามาจำนวนหนึ่ง กระทั่งพบเห็น นางบุญเพ็ง โบกเรียกรถอยู่ข้างทาง จึงได้จอดให้ขึ้นมา เมื่อขับรถมาถึงแยกบ้านยางบ่ออี ได้แวะจอดรถทำท่าเป็นรถเสีย ก่อนจะใช้จังหวะขึ้นไปบนรถและทำร้ายเหยื่อ
นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า หลังก่อเหตุได้ขับรถต่อไป วนกลับมาทางอำเภอวาปีปทุม เข้าไปทางหมู่บ้านหนองผือ ผ่านหมู่บ้านดงบาก-บ้านเหล่าน้อย เพื่อที่จะจอดรถและทิ้งศพไว้ ส่วนของกลางสร้อยคอทองคำ 1 บาท ได้นำไปทิ้งไว้ที่ทุ่งนาใกล้กับจุดเกิดเหตุ เพราะสร้อยเกิดขาดเสียก่อน ส่วนสร้อยข้อมือไม่ได้เอาไป
ผู้ก่อเหตุยังบอกว่า หลังก่อเหตุได้เดินลัดเลาะหนีไปตามทุ่งนา ตั้งใจว่าจะเดินกลับไปยังบ้านเกิดที่หมู่บ้านดงเค็ง อำเภอวาปีปทุม โดยอาศัยแวะนอนตามกระท่อมทุ่งนาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยว่า ระหว่างที่ทำการสอบปากคำ นายวัชรินทร์ มีอาการลุกลี้ลุกลน พูดจากลับไปกลับมา ลักษณะคล้ายกับคนเมายา จนกระทั่งยอมรับในภายหลังว่า เพิ่งเสพยาบ้ามาอีกชุด เนื่องจากเครียดกับสภาวะที่เผชิญหน้าอยู่ กระทั่งถูกจับตัวได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลังจากการสอบสวนแล้ว เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายวัชรินทร์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ท่ามกลางกำลังตำรวจและทหาร ผู้ต้องหาได้ชี้จุดที่ทำร้าย นางบุญเพ็ง โดยชกใบหน้า 1 ครั้ง ทำให้เหยื่อสลบ กระทั่งขับรถต่อไปอีกระยะ เหยื่อฟื้นสติคืนมาและวิงวอนขอให้ปล่อยตัว จึงได้ใช้ค้อนเคาะยางรถตีใส่
ก่อนจะขับรถไปติดหล่ม ปรากฏว่าเหยื่อยังไม่เสียชีวิต ฟื้นคืนสติได้อีกครั้ง นายวัชรินทร์จึงได้ลากเหยื่อลงจากรถ พาไปไปที่ทุ่งนา ห่างจากตัวรถราวๆ 20 เมตร ก่อนจะใช้เท้ากระทืบซ้ำย้ำๆ จนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้ว ก่อนจะหลบหนีไป
หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จากนั้นได้นำตัวส่ง พ.ต.ท.บารมี วงษ์อินตา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.พยัคฆภูมิพิสัย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป