เข่าทรุด! แม่น้องการ์ตูน เหยื่อรถซิ่ง ได้รับชดใช้แค่กระดาษใบเดียว
จากกรณีรถเก๋งขับพุ่งชนร้านสเต็กแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2557 เป็นเหตุทำให้ น้องการ์ตูน เด็กหญิงวัย 5 ขวบ เหยื่อรถซิ่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่พ่อของเด็กหญิงได้เสียชีวิต ศาลชั้นต้น ได้มีคำสั่งพิพากษาในคดีดังกล่าว แบ่งเป็นโทษทางอาญา จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา แต่คู่กรณียอมรับสารภาพ ลดโทษให้ครึ่งหนึ่งเป็น 2 ปี 6 เดือน ประกอบกับคู่กรณีไม่เคยทำความผิดมาก่อน ศาลจึงพิจารณาลดโทษอีกเหลือ 1 ปี และปรับ 3,000 บาท
ส่วนโทษทางแพ่ง กรณีที่พ่อของเด็กหญิงเสียชีวิต ศาลมีคำสั่งให้จ่ายค่าชดเชย เป็นเงิน 300,000 บาท โดยคู่กรณีได้มาวางเงินเอาไว้ที่ศาล 200,000 บาทแล้ว ส่วนประเด็นที่ น้องการ์ตูน ได้รับบาดเจ็บ ศาลให้จ่ายค่าชดเชย เป็นเงิน 6,000,000 บาท แบ่งเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าดูแลตลอดชีพ และค่าสูญเสียโอกาสในชีวิต อย่างละ 2,000,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้คู่กรณียังไม่ได้ให้ผู้เสียหาย และทั้งสองฝ่ายได้มีการยื่นอุทธรณ์ต่อ
ล่าสุด (30 ส.ค.) คุณแม่น้องการ์ตูน ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother's Grill Steak House "ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ" ถึงจุดจบของคดีความดังกล่าวว่า หลังจากที่ศาลตัดสินให้คู่กรณีจำคุก และชดใช้เงินจำนวน 6 ล้านบาทนั้น ศาลไม่มีอำนาจบังคับให้จำเลยจ่ายได้ แต่ถ้าคู่กรณีมีทรัพย์ที่มีมูลค่าถึงก็จะถูกยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดเพื่อชดใช้ให้ แต่หากคู่กรณีไม่มีอะไรเลย ก็จะเป็นเพียงแค่บุคคลล้มละลาย ซึ่งตนได้รับมาเพียงแค่ใบคำตัดสินของศาลเป็นกระดาษ 1 ใบเท่านั้น
"จดหมายถึงคนไทย - ชีวิตเป็นเพียงเส้นด้าย
ขอฝากอุทาหรณ์ ให้คนไทยได้ตระหนักถึง หากเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น เราจะไม่รู้จักคำว่าชีวิตเป็นเพียงแค่เส้นด้ายเลย
ทุกคนทราบกันดีว่าครอบครัวดิฉันต้องพังลงเพียงเพราะความคึกคะนองของคนขับขี่รถแข่งบนถนนสาธารณะ ที่ได้ยื่นความตายและความเสียหายใหญ่หลวงให้กับครอบครัวดิฉัน 1 คนตาย 1 คนพิการตลอดชีวิต 3 ชีวิตที่ต้องแบกรับภาระทุกๆอย่างวางบนบ่า มันหนักมากนะคะ หนักจนเข่าคุณจะทรุดลงแทบติดพื้น แต่ขาคุณจำเป็นต้องก้าวออกไปข้างหน้า แม้คุณจะมีแรงเหลืออยู่น้อยนิดก็ตาม เทียบกับนักกีฬายังมีหยุดพัก แต่ชีวิตดิฉัน ไม่มีกรรมการคอยเป่านกหวีดหยุดเวลาให้ ทั้งๆที่ฉันไม่ได้อยากลงสนามแข่งขันเลยก็ตาม
วันนี้ได้รับทราบขั้นตอนการชดใช้ค่าเสียหายของคู่กรณีแล้ว เข่าดิฉันได้ทรุดติดพื้นดินไปแล้วค่ะ ใครที่คิดว่าคนผิดต้องชดใช้ กฎหมายบังคับได้ ในความจริงมันไม่ได้จบสวยแบบนั้นเลยค่ะ ศาลตัดสินให้คู่กรณีจ่ายค่าเสียหาย แต่ศาลไม่มีอำนาจในการบังคับให้จำเลยจ่ายได้ ในส่วนของกรมบังคับคดีจะสืบทรัพย์และถ้าคู่กรณีมีถึงจะยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดเพื่อชดใช้ให้ แต่กรณีที่คู่กรณีไม่มีอะไรเลย เขาก็แค่เป็นบุคคลล้มละลายเท่านั้น
สรุปแล้ว ดิฉันมีเพียงกระดาษจากศาล 1 ใบว่าตัดสินให้แล้ว มีของแถมเป็นภาระทุกอย่างที่ฉันไม่ได้ก่อแต่ต้องเป็นคนแบกรับไว้แต่เพียงผู้เดียว แลกกับอีกคนที่กลายเป็นเพียง บุคคลล้มละลาย
เราจะต้องอยู่กันอย่างมีความเสี่ยงแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ต้องมีอีกกี่เคสที่มาเจอสภาพเช่นนี้ สภาพที่ไม่มีทางเลือกอะไรนอกจากก้มหน้ายอมรับในสิ่งที่เราไม่ได้ยินดีจะรับมัน และเราก็ไม่มีโอกาสพูดปฎิเสธออกไปได้เลย"