สาวคอนโดฯ โทรแจ้ง เพื่อนทำแท้งเด็กทิ้งไว้ 3 เดือนแล้ว

สาวคอนโดฯ โทรแจ้ง เพื่อนทำแท้งเด็กทิ้งไว้ 3 เดือนแล้ว

สาวคอนโดฯ โทรแจ้ง เพื่อนทำแท้งเด็กทิ้งไว้ 3 เดือนแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวกลัวความผิด-ทนไม่ไหว โทรแจ้งตำรวจ หลังเพื่อนทำแท้งลูกทิ้งเอาไว้เมื่อ 3 เดือนก่อน แล้วหนีหายไป รูมเมทคนอื่นๆ ต่างผวา-ย้ายออกไปหมด ยังไร้วี่แววเพื่อนตัวดี

(5 ก.ย.) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชาตรี ศรีจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกเด็กทารกที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ภายในห้องพักชั้น 16 จึงประสานแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 19 ชั้น ที่ห้องดังกล่าวพบโครงกระดูกเด็กทารก ถูกห่อด้วยเศษผ้าใส่ถุงพลาสติก ผูกมัดปากถุงแน่น ทิ้งอยู่ในถังขยะภายในห้องน้ำ แพทย์ระบุอายุครรภ์อยู่ระหว่าง 4-6 เดือน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 เดือน ซึ่งมี น.ส.เตชินี อายุ 24 ปี ผู้เช่าพักอาศัย ยืนคอยให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบสวน น.ส.เตชินี ทราบว่า ตนพักอยู่ที่ห้องดังกล่าวกับเพื่อน 4 คน ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตนสังเกตุเห็นว่าเพื่อนของตนคนหนึ่ง มีอาชีพรับจ้างตามงานอีเว้นท์ มีอาการเหมือนคนแพ้ท้อง วันเกิดเหตุเพื่อนคนดังกล่าวได้เข้าห้องน้ำนานแบบผิดปกติ ตนจึงเคาะประตูเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ

กระทั่งผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อนของตนจึงเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยท่าทางอิดโรย ตนจึงสอบถามว่าเป็นอะไร เพื่อนบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร ตนจึงเดินเข้าไปซักผ้าในห้องน้ำ ก็สังเกตเห็นคราบเลือดอยู่ที่พื้นและแผงยาวางอยู่ที่อ่างล้างหน้า จึงหยิบขึ้นมาดูจึงรู้ว่าเป็นยาขับเลือด

ตนจึงไปสอบถามความจริงจากเพื่อนคนดังกล่าว จึงได้ยอมรับว่ากินยาขับเลือดแล้วเด็กหลุดออกมา จากนั้นใช้ผ้าห่อร่างเด็กทารกเอาไว้ ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกปิดปากถุงแน่น ตอนนั้นตนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่บอกกับเพื่อนว่าให้จัดการให้เรียบร้อย แต่เพื่อคนดังกล่าวกลับหลบหนีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ส่วนเพื่อนคนที่เหลือ เมื่อทราบเรื่องการทำแท้งต่างก็หวาดกลัว ขอย้ายที่อยู่ตามกันไป ทิ้งตนไว้เพียงลำพัง จนล่าสุดผ่านไป 3 เดือน ตนเห็นว่าเพื่อนคนที่ก่อเหตุไม่มีวี่แววว่าจะกลับมารับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำไว้ ประกอบกับตนมีความประสงค์ที่จะย้ายออกจากห้องดังกล่าวแล้ว จึงกลัวมีความผิดติดตัว จึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญ น.ส.เตชินี เข้าให้ปากคำอย่างละเอียดที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ส่วนหญิงสาวที่ขับเด็กออกมานั้น เจ้าหน้าที่อยู่ในขั้นตอนติดต่อและขออนุมัติหมายจับ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook