ตัดไม้ทำลายป่า ต้องให้มันแล้งแห้งตายเป็นทะเลทรายก่อนหรือ!! จึงจะสำนึก?
"โครงการทุกอย่างทำถูกต้อง ซึ่งการพัฒนาต้องมีได้มีเสีย เหมือนการสร้างเขื่อน ต้องได้อย่างเสียอย่าง ประเทศต้องได้รับการพัฒนา กระบวนการทุกอย่างมีการขออนุญาตถูกต้องเสร็จสิ้นแล้ว...." มานพ สายอุ่นใจ ผอ.สำนักจัดการป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน กรมป่าไม้
ไม่น่าเชื่อว่าเป็นความเห็นของ ข้าราชการกรมป่าไม้...เกี่ยวกับกรณี การตัดป่าทำลายป่าไม้ ที่มีต้นไม้ยืนต้นจำนวนมากลง เกือบ 100 ไร่ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อทำ สนามกีฬาครบวงจร ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งๆที่เพิ่งผ่านพ้นวันรำลึกการจากไปของ สืบ นาคะเสถียร อดีตหัวหน้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไปไม่กี่วัน ความตายของ สืบ เพื่อจะปกป้องผืนป่า ไม่ได้ตกทอดสร้างสำนึกห่วงแหนผืนป่าเกิดขึ้นกับข้าราชการกรมป่าไม้เลยหรือ...?
เรื่องการสร้างสนามกีฬาฯแห่งนี้ จากการรายงานข่าว เกิดขึ้นเพราะ ชาวบ้านร้องเรียนมายังสื่อ ด้วยความรู้สึกเสียดายป่า และ ต้นไม้จำนวนมากกำลังถูกทำลายลง เพื่อสร้างสนามกีฬาครบวงจร โดยชาวบ้านเห็นว่าไม่เหมาะสมเพราะ สนามกีฬาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีถึง 3 แห่งแล้ว แต่การใช้ประโยชน์ยังไม่คุ้มค่าเลย กลับมาตัดต้นไม่ทำลายป่าอีกเกือบ 100 ไร่ เพื่อสร้างขึ้นมาใหม่
แน่นอนว่า ในการพัฒนาการกีฬา เป็นสิ่งดีงาม มีส่วนช่วยสร้างโอกาสให้เยาวชนได้หันมาเล่นกีฬามากขึ้น เปิดโอกาสให้เข้าสู่กีฬาหลายประเภทที่สามารถเป็นอาชีพได้... แต่ การกีฬา และ ป่าไม้ประเมินความคุ้มค่า และ ประเมินผลกระทบด้านอื่นอย่างรอบครอบแล้วหรือยัง
การอ้างเหตุผลของ การกีฬา ว่าการตัดป่า มีการขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และ จำเป็นต้องสร้างเพราะจังหวัดไม่มีสนามกีฬาประจำจังหวัด...? และ กรมป่าไม้ก็อ้างอำนาจตามกฎหมายว่าดำเนินการอย่างถูกต้อง และยังอ้างถึงเหตุผลว่าต้องยอมเสียสละ เพื่อการพัฒนา ยอมยอมสูญเสียบ้าง..จริงๆแล้วมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าหรือไม่
หากจะพัฒนาการกีฬาในจังหวัด ทำไมไม่ปรับปรุงจากสนามเดิมที่มีถึง 3 สนาม โดยประชาชนผู้ร้องเห็นว่า ที่มีอยู่ก็ใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าอยู่แล้ว ทำไมต้องทำลายป่าเพิ่ม..คำถามสำคัญก็คือ ในเมื่ออ้างว่าเพื่อการพัฒนาถามว่า มั่นใจอย่างไรว่าเมื่อสร้างสนามนี้แล้ว จะมีการพัฒนาการกีฬาอย่างก้าวกระโดด หรือ มีอะไรแอบอยู่เบื้องหลังโครงการก่อสร้างนี้หรือไม่...?
ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญปัญหาภัยแล้ง หนักหน่วงในรอบหลายสิบปี ทำให้หลายภาคส่วนเริ่มตะหนัก มองปัญหาที่ต้นตอ ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ที่รุนแรงมาโดยตลอดที่ผ่านมาจนป่าไม้เมืองไทยหดหายจนอยู่ในภาวะวิกฤต ในโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพถ่ายดาวเทียมสภาพป่าเมืองไทยที่หดหาย เหลืออยู่เพียงน้อยนิดไม่กี่แห่ง ภาคเอกชน ออกมาเรียกร้อง ออกมาลงมือทำ ออกมาชักชวนกันปลูกป่า ไม่ว่าจะป่าเมืองน่าน ป่าในภาคเหนือ ภาคอีสานอีกหลายแห่ง
แต่มาวันนี้ เราเห็นการทำลายป่า แบบง่ายดาย โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง...โดยเฉพาะกรมป่าไม้ มองเรื่องป่าไม้เป็นเรื่องเล็ก เป็นเรื่องที่ต้องยอมทำลาย เพื่อให้เกิดการพัฒนา แม้จะมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า..โอ้..อนาคตป่าไม้ไทย..จะมีเหลือให้ลูกหลานหรือไม่...นี้เขาก็ร่ำๆจะใช้อำนาจ ม. 44 มาสร้างเขื่อนเพื่อทำลายป่าขนานใหญ่อีก...หรือต้องรอให้แล้งจนเป็นทะเลทรายก่อนจึงจะรู้สึก รู้สำนึกขึ้นมาได้...?
โดย เปลวไฟน้อย