คดีส่อพลิก ฆ่ายัดถัง ยธ.พังงา ญาติไม่เชื่อเป็นปมชู้สาว

คดีส่อพลิก ฆ่ายัดถัง ยธ.พังงา ญาติไม่เชื่อเป็นปมชู้สาว

คดีส่อพลิก ฆ่ายัดถัง ยธ.พังงา ญาติไม่เชื่อเป็นปมชู้สาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ญาติทำพิธีเผาศพ นายฉวี ยุติธรรมจังหวัดพังงา แม้จะยังไม่เชื่อปมที่สรุปว่าเป็นเหตุชู้สาว เพราะมีพิรุธหลายจุด วอนรื้อคดีขึ้นมาสืบใหม่ เพราะเชื่อว่าผู้มีอิทธิพลในท้องที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

จากกรณีเหตุกลุ่มคนร้ายร่วมกันก่อเหตุฆ่ายัดถัง นายฉวี อินทระ อายุ 57 ปี ยุติธรรมจังหวัดพังงา และ ผอ.สำนักงานคุมความประพฤติ จ.พังงา เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ล่าสุดเมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) ได้มีการจัดพิธีฌาปนกิจ ณ วัดท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางความแคลงใจของญาติๆ ที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะเป็นชู้สาว

นางสาวอนุ อินทระ อายุ 50 ปี น้องสาวของนายฉวี ยังไม่เชื่อว่าสาเหตุการตายของพี่ชาย จะมาจากสาเหตุเรื่องชู้สาวตามที่ตำรวจสรุปคดี โดยอิงจากคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน แต่ตนเชื่อว่าลึกๆ แล้วน่าจะมาจากเรื่องหน้าที่การงานที่พี่ชายของทำงานอยู่มากกว่า ซึ่งอยากให้ทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีรื้อฟื้นคดีใหม่เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง

ขณะที่ทางด้าน นายวิบูลย์ เชื้อชุมพล อายุ 54 ปี เพื่อนร่วมรุ่น ม.รามคำแหง ของนายฉวี และเป็นอดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ และประธานเครือข่ายทนายความไทย แสดงความเห็นว่าคดีนี้มีเงื่อนงำ มีการอำพรางซ่อนเร้นศพ มีการเตรียมการอย่างดี เพราะจากประสบการณ์ของหนุ่มอายุเพียง 22 ปี ไม่น่าจะมีการวางแผนได้เป็นขั้นตอนเช่นนี้

"คำถามมีอยู่ว่า ผู้ต้องหาคนสุดท้ายเหตุใดซ่อนตัวที่เขาลานสกา ไปอยู่กับใคร มีอิทธิพลแค่ไหน ตำรวจในพื้นที่จะต้องรับทราบต้องรู้ ทำไมต้องให้ท่านจเรตำรวจลงมารับมอบตัว ทำไมตำรวจในพื้นที่ไม่มีเลยหรือ จับไม่ได้หรือ รถหลังเกิดเหตุไปอยู่ไหน วงจรปิดมีทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราชทำไมหาไม่เจอเลย รถคันนี้หายไปไหนยังหาไม่ได้จนถึงทุกวันนี้" เพื่อนร่วมรุนกล่าว

นายวิบูลย์ ยังกล่าวอีกว่า การทำงานของ นายฉวี ค่อนข้างที่จะรุนแรงในหน้าที่ราชการ เหตุใดไม่เอาปมเหล่านี้ขึ้นมาตรวจสอบบ้าง ทำไมต้องเน้นประเด็นเรื่องชู้สาว ซึ่งทำให้ปิดคดีได้ง่ายมาก ตนถามว่าเด็กอายุ 20 กว่าปี จะคิดเป็นหรือไม่ แค่ตีก็ตายเต็มที่ก็ทิ้งศพไว้ตรงนั้น

และข้อสงสัยมากที่สุดคือ แม่น้ำเชียรใหญ่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมากที่สุด ทำไมต้องพาอ้อมไป 40 กิโลเมตร นำศพไปพาทิ้งที่คลองบางจาก อ.ปากพนัง ยิ่งทำให้เชื่อว่าน่าจะมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และอาจจะเป็นอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับนายฉวี ในตำแหน่งยุติธรรมจังหวัดพังงาด้วย

"ผมและญาติๆ ของนายฉวี ทำหนังสือถึง รมว.กระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีดีเอสไอ และอธิบดีกรมคุมประพฤติ เพื่อเรียกร้องให้ร่วมกันรื้อคดีสอบสวนคดีนายฉวีใหม่อย่างเป็นจริงเป็นจัง ไม่ต้องเกรงใจผู้ใดผู้หนึ่ง เพราะผมเชื่อว่ายังมีผู้มีอิทธิพลด้านใดด้านหนึ่งจะเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้"

ทนายความรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า มีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือระบุว่า ผู้ต้องหาจำนวน 5 คนที่เอ่ยชื่อมา ทั้งหมดล้วนเคยเป็นผู้ถูกคุมประพฤติในท้องที่ จ.นครศรีธรรมราช ยิ่งทำให้เชื่อว่าน่ามาจากปัญหาที่ดินใน จ.พังงา หากเป็นเรื่องของชู้สาวจริง เหตุทำให้ต้องไปนอนบ้านฝ่ายหญิง ควรนัดที่โรงแรมไม่ดีกว่าหรือ ทำให้ประเด็นชู้สาวไร้น้ำหนัก และอยากจะสืบสวนคดีนี้ใหม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook