เปิดใจ "ครูไพฑูรย์" ยังห่วงศิษย์เสมอ ยืนยันไม่ตั้งใจปาแก้วใส่

ครูปาแก้วใส่นักเรียนปากเบี้ยว พูดเปิดใจทางโทรศัพท์ บอกยังห่วงใยลูกศิษย์เสมอ แต่ไม่ขอชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น กลัวลูกศิษย์เสียหาย ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ และเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

(18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี นายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูพละศึกษา โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ที่ก่อเหตุปาแก้วกาแฟโดนหน้าลูกศิษย์นักเรียนชั้น ม.5 ของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าผิดรูปเสียโฉม

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับ นายไพฑูรย์ ครูพละผู้ก่อเหตุ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ต้องการชี้แจงใดๆ เพราะเกรงจะมีผลกระทบต่อน้องทรายผู้เสียหาย ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของตนเอง โดยเรื่องที่เกิดขึ้นขอให้ปล่อยเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ตนฐานะที่เป็นครู มีความรัก และผูกพันกับลูกศิษย์ทุกคน รวมถึงตัวน้องทรายด้วย ตนไม่คิดจะทำร้ายลูกศิษย์อย่างแน่นอน ยังมีความรักและเป็นห่วงน้องทรายในฐานะครูกับลูกศิษย์เหมือนเดิม ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเวลาจะช่วยคลี่คลายให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ตอนนี้ตนขอมุ่งมั่นพาเด็กนักเรียนไปเข้าร่วมแข่งขันกีฬานักเรียนในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ก่อน

ด้าน ดร.ชูเกียรติ วิเศษเสน ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 31 นครราชสีมา (สพม.เขต31 นม.) เปิดเผยว่า กรณีคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปความผิดของนายไพฑูรย์ ครูผู้ก่อเหตุปาแก้ว ว่ามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงนั้น ทุกอย่างว่าไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนและครูที่อยู่ในเหตุการณ์ เห็นตรงกันว่าครูปาแก้วกระทบหน้าต่างก่อนกระเด็นไปโดนหน้าเด็กนักเรียน ไม่ได้เป็นการปาใส่หน้าโดยตรง และเป็นการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจ

ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการชุดที่ 2 เพื่อสอบสวนทางวินัย ครูไพฑูรย์ โดยมี นายสุพนธ์ จอกทอง ผอ.โรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 เป็นประธาน ซึ่งจะลงพื้นที่ในวันจันทร์ที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อสอบปากคำทั้งครูไพฑูรย์ ผู้ก่อเหตุ รวมทั้งน้องทราย ผู้เสียหายซึ่งหากผู้เสียหายมีหลักฐานยืนยันได้ว่า ครูปาแก้วใส่หน้าโดยตรงสามารถนำมายืนยันเพื่อนำไปสู่การพิจารณาเพิ่มโทษได้