โรสแมรี่ เล่ามรสุมชีวิต! เคยท้อจนถอดใจ แต่ต้องสู้เพื่อคนข้างๆ

โรสแมรี่ เล่ามรสุมชีวิต! เคยท้อจนถอดใจ แต่ต้องสู้เพื่อคนข้างๆ

โรสแมรี่ เล่ามรสุมชีวิต! เคยท้อจนถอดใจ แต่ต้องสู้เพื่อคนข้างๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดีตนักร้องดังยุค 90's "โรสแมรี่ คาฮันดิง" เจ้าของเพลงฮิต "ให้ทำอย่างไร", "เปล่ามีน้ำตา" และ "ใจเป็นของเธอ" ได้ออกมาเปิดใจเรื่องราวมรสุมชีวิต ในรายการ "ปากโป้ง" ช่อง 8 หลังสูญเสียคุณพ่ออันที่รัก ซึ่งจากไปด้วยโรคหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา รวมถึงกระแสข่าวชีวิตตกอับกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องรับจ้างร้องเพลงและเปิดร้านขายเครปหน้าบ้านเพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว อีกทั้งยังต้องแบกรับหนี้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลร่วมแสนบาท ให้เราฟังว่า...

สภาพจิตใจของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"ก็ถือว่าดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แต่วันแรกก็ตกใจนิดหน่อย คือแกก็ทรมานมามากแล้ว พี่เลยคิดว่าแกน่าจะไปสบายมากกว่าที่จะอยู่ ถามว่ายังเศร้าไหม เอ่อ...มันก็เป็นวูบๆ นะ เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ร้องไห้ คือคิดถึงเป็นวูบๆ แต่ก็โชคดีที่พี่ยังมีลูกอยู่ข้างๆ ก็เลยทำให้ไม่เศร้ามากนัก"

ได้มีโอกาสพูดอะไรกับคุณพ่อบ้างไหมก่อนที่ท่านจะจากไป ?
"คุณพ่อพี่ท่านเสียวันที่ 18 และวันที่ 17 กันยายน คือวันเกิดพี่ พี่จำได้ว่าวันที่ 17 พี่ยังลงมากราบเท้าท่านอยู่เลย และก็บอกกับท่านว่า "ขอบคุณพ่อนะที่ให้ชีวิตมา เดี๋ยวพ่อก็จะดีขึ้นแล้ว" ซึ่งวันนั้นท่านทานข้าวเยอะมาก ทานเยอะ ยิ้มเยอะ พูดคุยกันเหมือนคนแข็งแรง พี่ยังพูดเลยว่า "ถ้ากินแบบนี้อีกสองวันก็วิ่งได้แล้ว (ยิ้ม)" คือแกดูแข็งแรงมาก พี่ยังคิดเลยว่าเดี๋ยวแกคงต้องดีขึ้นแล้ว แต่สุดท้ายท่านก็มาเสียในวันที่ 18"

หลังจากนี้เราตั้งใจจะทำยังไงต่อไป ?
"ถ้าเสร็จจากงานศพคุณพ่อ ก็ตั้งใจว่าจะนำแพมเพิสที่ทุกคนส่งมาให้ ไปบริจาคให้กับผู้ใหญ่ที่ท่านพักอาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราที่ยังขาดแคลนข้าวของเครื่องใช้ต่อไป ก็ถือว่าเป็นการทำให้กับคุณพ่อครั้งสุดท้ายค่ะ"

ชีวิตตอนนี้เห็นว่าเราเองก็อยู่กับลูก ?
"ใช่ค่ะ อยู่กับเบบี๋ (ยิ้ม) แต่พ่อเขาไม่อยู่ตั้งนานแล้ว"

รายได้ของครอบครัวส่วนใหญ่มาจากทางไหน ?
"ก็รับจ้างร้องเพลงและก็ขายเครปค่ะ เพราะเคยทำงานกลางวันนะแต่ไม่ไหว คือสงสารลูกเพราะตอนกลางวันไม่มีคนดูแลเขา สุดท้ายเลยตัดสินใจว่าออกมาขายเครปอยู่ที่บ้านดีกว่า แต่ถามว่าขายดีไหม เอ่อ...ช่วงแรกๆ ก็ขายดีนะ แต่ช่วงหลังพอมันมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องฝน เรื่องอะไรต่างๆ เข้ามา มันก็เลยดรอปลง"

เงินที่ได้เพียงพอไหมกับค่าใช้จ่ายที่เราต้องดูแลคนเดียว ?
"ลำบากอยู่ค่ะ แต่พอมีคนเข้ามาช่วยก็ดีขึ้น คือก่อนหน้านี้
เขาไม่รู้ไงคะว่าเราลำบาก พอเขารู้ปุ๊ปเขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วย"

"ซึ่งการช่วยเหลือตรงนี้มันเริ่มมาจากพี่ที่สนิทคนหนึ่ง คือเขาเห็นว่าเราอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ไหวแล้ว เขาก็เลยขออนุญาตเอาเรื่องของเราไปโพสต์ ตอนแรกพี่ก็ตัดสินใจอยู่นานนะว่าควรทำไม พี่กลัวไปหมด กลัวความคิดด้านลบจากคนที่เขาเห็น แต่พี่คนนั้นเขาก็ยืนยันว่าไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เพราะสภาพเราตอนนั้นคือต้องการความช่วยเหลือจริงๆ"

ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนสูงมากไหม ?
"หนักอยู่ค่ะ เฉพาะลูกคนเดียวค่าใช้จ่ายก็หนักแล้วนะ และพอพ่อมาล้มอีกคน มันก็เลยกลายเป็นว่ายิ่งสูงขึ้นไปอีก จำได้นะคะว่าเคยลำบากสุดถึงขั้นโทรไปขอให้เพื่อนช่วยซื้อนมมาให้ลูกหน่อย ตอนนั้นคิดว่าเราไม่ไหวจริงๆ ค่าใช้จ่ายมันทุกเรื่องเลย และมีคนที่รู้ว่าเราลำบากน้อยมาก แค่ก้าวเท้าออกจากบ้านมันก็มีค่าใช้จ่ายแล้ว"

"ตอนนี้ค่าโรงพยาบาลแสนกว่าบาทก็ยังไม่ได้จ่ายเขา เพราะเราไม่มีสิทธิตรงนั้น เนื่องจากคุณพ่อเป็นคนฟิลิปปินส์ แต่ล่าสุดได้มีโอกาสคุยกับทางสังคมสงเคราะห์แล้วเหมือนกันว่าอยากจะขอผ่อนก่อน ผ่อนไปเรื่อยๆ ถ้าหากมีเมื่อไหร่ก็จะนำเงินไปจ่ายให้หมด"

ท้อขนาดไหนในวันที่เราคิดว่าเราเหนื่อยที่สุดแล้ว เคยมีมุมที่ทำให้คิดสั้นบ้างไหม ?
"เคยค่ะ คือมันก็มีสักแว่บหนึ่งนะที่เราอยากทิ้งทุกอย่างพอกันที แต่พอเราหันไปเห็นลูกกับพ่อ เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าหากเราทิ้งเขาไปก็คงไม่มีใครรักเขาและดูแลเขาได้ดีเท่าเราอีก อีกอย่างถ้าตอนนั้นพี่ตัดสินใจไปแบบนั้นจริงๆ พี่ก็คงเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากเลยนะ เอาแต่ตัวเอง"

คุณพ่อของลูกได้เข้ามายื่นมือให้ความช่วยเหลือบ้างไหม ?
"เขาเพิ่งกลับมาตอนลูกอายุได้ 3 ขวบนะคะ แต่เขาก็ช่วย ถึงเขาจะมีไม่เยอะแต่เขาก็พยายามที่จะช่วย"

จากกำลังใจและความช่วยเหลือต่างๆ ที่มีเข้ามาจนถึงตอนนี้ เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
"ตอนแรกคิดมาเสมอเลยนะว่าคงไม่มีใครรู้จักเราแล้ว คงไม่มีใครจำเราได้แล้ว แต่พอมีข่าวออกไปปุ๊ป สิ่งที่ทุกคนพยายามช่วยพยายามยื่นมือเข้ามา มันทำให้ความคิดเราเปลี่ยน ขนาดเพื่อนๆ ที่เราไม่ได้เจอกันมานาน เขาก็ยังติดต่อกลับมาให้ความช่วยเหลือ รวมถึงแฟนๆ บางคนก็ยังส่งข้อความมาให้กำลังใจ ส่งสิ่งของมาให้ความช่วยเหลือ ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยค่ะ (ยิ้ม)"

เครดิตภาพประกอบจาก Facebook Rosemarie Cahanding , Milk Kaewalin

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ ของ โรสแมรี่ เล่ามรสุมชีวิต! เคยท้อจนถอดใจ แต่ต้องสู้เพื่อคนข้างๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook