5 สิ่งที่ควรจับตาในคืนวันดีเบต “คลินตัน – ทรัมป์”
ฮิลลารี คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกในเวทีดีเบต คืนวันจันทร์ (26 ก.ย.59) ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ หรือตรงกับเช้าวันอังคาร (27 ก.ย.) ตามเวลาในไทย ในขณะที่โพลจากหลายสำนักชี้ว่า ทั้งคู่ยังมีคะแนนสูสีกันอย่างมาก ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นว่า มีอยู่ 5 สิ่งที่ควรจับตาในคืนวันดีเบตระหว่างคลินตัน กับทรัมป์
1. โดนัลด์ ทรัมป์ จะมาไม้ไหน? ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่า บุคลิกของทรัมป์ค่อนข้างกระโชกโฮกฮาก พร้อมจะน็อกคู่ต่อสู้ได้ทุกเมื่อด้วยประเด็นการโจมตีทุกรูปแบบ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า หากทรัมป์เอาแต่รุกโจมตีคลินตันอย่างก้าวร้าวในการดีเบท ไม่น่าจะส่งผลดีต่อทรัมป์ เพราะจะถูกมองว่า เขาไม่นิ่งพอที่จะเป็นประธานาธิบดี การดีเบตครั้งนี้ยังเป็นเวทีทดสอบความรู้ความสามารถของทรัมป์อีกด้วย เพราะที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า เขาไม่ค่อยจะรู้นโยบายในเชิงลึกสักเท่าไหร่
2. คลินตันจะทำตามคำแนะนำของโอบามาที่ว่า "ให้เป็นตัวของตัวเอง" ได้หรือไม่ ? ประธานาธิบดี โอบามา ว่า เนื่องจากสหรัฐฯไม่เคยมีประธานาธิบดีที่เป็นผู้หญิงมาก่อน และคลินตันก็กำลังจะทลายกำแพงในเรื่องนี้ลง แต่ก็มีบางคนยังไม่ไว้ใจว่า จะให้ผู้หญิงมาเป็นผู้นำประเทศดีหรือไม่ ดังนั้น สิ่งที่คลินตันควรทำคือ เป็นตัวของตัวเองและชี้แจงให้ทุกคนเข้าใจว่า อะไรคือแรงกระตุ้นให้เธอมายืนอยู่ตรงจุดนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ คลินตันก็ยอมรับว่า ตัวเธอเองไม่มีเสน่ห์เหมือนกับโอบามา หรือสามีของเธอ คือ บิล คลินตัน ที่สามารถพูดเอาชนะใจมวลชนได้
3. การดีเบตครั้งนี้ คลินตันและทรัมป์ อาจขุดเอาด้านมืดของแต่ละฝ่ายมาแฉ เริ่มจากทางฝั่งของทรัมป์ ซึ่งออกมาขู่ว่า อาจจะเอาอดีตพนักงานรัฐอาร์คันซอว์ ซึ่งอ้างว่า เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับบิลล์ คลินตัน อยู่นานหลายปี มาเป็นแขกร่วมเวที ก่อนจะยกเลิกคำขู่ในเวลาต่อมา แต่ถ้าทรัมป์ทำเช่นนั้นจริง ก็คงได้เห็นทางฝ่ายของคลินตัน ขุดเอาเรื่องการแต่งงานสามครั้ง และการใช้ชีวิตเยี่ยงเพลย์บอยของทรัมป์มาแฉบ้าง
4. นโยบายเรื่องเชื้อชาติ เพราะต้องยอมรับว่า ตอนนี้ สหรัฐฯกำลังเกิดปัญหาความขัดแย้งด้านเชื้อชาติระหว่างคนขาวและคนผิวสี จากการที่ตำรวจอเมริกันยิงคนผิวสีเสียชีวิต จนก่อให้เกิดการประท้วง ดังนั้น ทรัมป์และคลินตันมีความเห็นและนโยบายในเรื่องนี้อย่างไร จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตา รวมถึงนโยบายรับผู้ลี้ภัย ซึ่งทรัมป์ต่อต้านมาแต่ไหนแต่ไร โดยอ้างความปลอดภัยของบ้านเมือง
5. ที่น่าจับตาสำหรับการดีเบต ก็คือ เลสเตอร์ โฮลท์ ผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการในเวทีดีเบทครั้งนี้ โฮลท์ เป็นผู้ประกาศข่าว "ไนท์ลี่ นิวส์ " ของเอ็นบีซี และเป็นผู้ดำเนินรายการที่มีชั่วโมงบินสูง แต่ครั้งนี้ เขาจะต้องมาแบกรับแรงกดดันไม่แพ้ทรัมป์ กับคลินตัน เพราะจะต้องคอยควบคุมรายการให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น คำถามไม่เอนเข้าข้างผู้สมัครรายใดมากเกินไป และ ต้องตรึงคนดูให้อยู่หมัด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย