หยก จบคือจบ! ตัดขาด แอมป์ ไม่จำเป็นต้องร่วมงานด้วย

ถือว่าเป็นนักแสดงสาวที่มีจุดยืนชัดเจนเอามากๆ สำหรับ "หยก ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์" ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาอัพเดทสถานะความสนิทถึงอดีตคนเคยคุ้น "แอมป์ พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์" กลางงานแถลงข่าวเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น "Sushi Otaru" ว่าได้ตัดขาดความสัมพันธ์กันแบบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว และไม่รู้สึกว่ามีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีก

ส่วนเรื่องการร่วมงานกันในอนาคตจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น สาวหยกเองก็ยอมรับว่าคงเป็นไปได้ยาก และยินดีหากคนจะมองว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ เพราะตนเชื่อว่าเรื่องของความรู้สึกเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจได้...

วันนี้หลายคนก็จับตามองว่าเราจะเชิญ แอมป์ มาร่วมงานเปิดร้านด้วยไหม ?
"ไม่อยู่ในหัวเลยค่ะ ไม่อยู่ในหัวเลย (หัวเราะ) แต่ก็มีเพื่อนแซวนะคะว่าให้ชวนมาสิ ร้านจะได้ดังๆ ซึ่งหยกมองว่ามันคงไม่ใช่การตลาดที่ดีสักเท่าไหร่ (หัวเราะ) ก็เลยไม่ชวน"

เขาทราบข่าวไหมว่าเราเปิดร้านอาหาร ?
"ทราบค่ะ เพราะว่าเรายังอยู่ในกรุ๊ปแชทเดียวกัน อย่างเวลาที่หยกแชทเข้าไปชวนเพื่อนๆ เขาก็จะทราบดีว่าวันนี้เป็นวันเปิดร้านของหยก"

จริงๆ ได้มีการอวยพรกันในกรุ๊ปบ้างหรือเปล่า ?
"ไม่มีค่ะ เราไม่ได้คุยกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีการติดต่อใดๆ เลยค่ะ"

สมมุติอยู่ดีๆ วันนี้เขาโผล่มาเราจะโอเคไหม ?
"ไม่มีทางแน่นอนอยู่แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ (หัวเราะ) แต่ถ้าหากเขาโผล่มาจริงๆ อันนี้หยกก็ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีนะ เพราะเขาตั้งใจมาแสดงความยินดีกับเรา ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่ไม่มาก็ดีกว่า (ยิ้ม)"

ทุกวันนี้เวลาเจอหน้ากันก็คือเจอได้แต่ไม่ได้มีการพูดคุยหรือว่ายังไง ?
"ใช่ค่ะ ไม่ได้คุยกัน คือเดินผ่านกันเฉยๆ เหมือนคนไม่รู้จัก ซึ่งมันคงจะเป็นเพราะเรื่องราวที่ผ่านๆ มา บวกกับเราไม่ได้มีอะไรที่ต้องเกี่ยวดองกันหรือต้องคุยกันอีก"

แต่ตอนนี้ตัวเราเองก็ไม่ได้โกรธเขาแล้วใช่ไหม ?
"ตอนนี้เฉยๆ แล้วค่ะ ต่างคนต่างอยู่ เขาเองก็มีชีวิตที่ดีของเขา ส่วนเราเองก็มีชีวิตที่ดีของเราค่ะ"

ถือว่าเราสองคนก็ตัดขาดกันไปเรียบร้อยแล้ว ?
"ค่ะ ตัดขาด 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ"

ด้วยความที่เรายังอยู่ในกรุ๊ปแชทเดียวกันแบบนี้มันทำให้รู้สึกแปลกๆ ไหมทั้งกับเราและก็เพื่อนๆ ?
"ไม่ค่ะ เพื่อนทุกคนเข้าใจดี และอีกอย่างเราเองก็มีวิธีการอยู่ของเราด้วย ซึ่งเพื่อนๆ ก็จะชินแล้ว เหมือนเขารู้ว่าสถานการณ์มันเป็นยังไง"

กลัวไหมว่าในอนาคตถ้าสถานการณ์มันยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อาจจะส่งผลให้กรุ๊ปแชทแตก ?
"ไม่ค่ะ หยกคุยกับเพื่อนๆ แล้วค่ะว่าถ้าหากหยกจะยังอยู่ในกรุ๊ปนี้ หยกก็ต้องมีวิธีการอยู่ที่ไม่ทำให้เพื่อนอึดอัด และเพื่อนๆ ก็จะรู้ด้วยว่าเขาเองก็จะไม่ทำอะไรให้หยกอึดอัดเหมือนกัน เราคุยกันเรียบร้อยแล้ว"

การที่เราตัดขาดกันแบบนี้ มันจะส่งผลถึงการร่วมงานด้วยไหม ?
"ไม่ร่วมดีกว่าค่ะ"

แต่บางคนก็อาจจะมองนะว่าทำไมเราไม่แยกระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ?
"ไม่ดีกว่าค่ะ โอเคมันอาจจะดูไม่ค่อยโปรสักเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ซึ่งเรายังไม่พร้อม ถึงแม้มันจะนานมาแล้วก็จริง แต่มันก็ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรขนาดนั้น เพราะมันก็ยังมีอีกหลายงานที่เราสามารถรับได้"

อย่างทาง แอมป์ เขาเองก็เคยบอกนะว่ายินดีร่วมงานกับเราได้หากว่ามีโอกาส ?
"ให้เขาร่วมงานไปเถอะค่ะ (หัวเราะ) ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรืออะไรนะ แต่ก็ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า"

ทางช่องว่ายังไงบ้างที่เราตัดสินใจแบบนี้ ?
"ช่องไม่ได้ว่าอะไรเลยค่ะ"

ถามถึงสถานะหัวในของเราบ้างตอนนี้มีคนเข้ามาจีบบ้างไหม ?
"มีบ้างค่ะประปราย ส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกวงการ แต่ก็ดูๆ ไปก่อนละกัน โค้งสุดท้ายแล้ว"

เรียกว่าเราเองก็เข็ดคนในวงการไปเลยไหม ?
"ไม่เรียกว่าเข็ดหรอกค่ะ แต่หยกมองว่าคนนอกน่าจะโอเคกว่า เพราะคนในวงการจริงๆ มันก็ใกล้ตัวเกินไป"

ถือว่าตอนนี้เราเองก็พักใจและอยากดูไปเรื่อยๆ ?
"ถ้าหากเจอคนที่ถูกใจหยกก็โอเคเลยนะ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เจอไง และด้วยความที่เราเองก็อายุ 30 แล้ว เราก็อยากมองไปไกลถึงการมีครอบครัวมีลูก หากได้เจอคนที่ถูกใจก็คงคิดว่าจะต้องเป็นคนที่แต่งงานด้วยเลย เพราะหยกอยากมีลูก"

คนที่เราบอกว่าถูกใจต้องเป็นแบบไหน ?
"คนดี ตามใจ ดูแลครอบครัวได้"

อย่างตอนนี้คนก็สังเกตว่าเรากับ เชน ดูสนิทกันมากเหมือนกัน ?
"ใช่ค่ะ หยกกับพี่เชนเราสนิทกันมาก มีแฟนคลับเชียร์เหมือนกันให้เราเป็นคู่จิ้น แต่ก็...ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกค่ะ เพราะเขาเป็นพี่ชายที่ดี เป็นพี่ที่หยกสนิทมาก เราสนิทกันมาเป็น 10 ปีแล้ว (ยิ้ม)"

แต่ก็แค่สนิทในฐานะพี่น้องไม่ได้พิเศษอะไร ?
"สนิทปกติเลยค่ะ กระโดดขี่คอ เล่น ตบหัว คือสนิทเหมือนพี่เป็นน้องกันจริงๆ ดังนั้นโอกาสพัฒนาไปมากกว่านี้ไม่มีเลย เพราะถ้าหากเราพัฒนาจริงๆ โลกคงแตกค่ะ (หัวเราะ) เป็นไปไม่ได้"