รวบแล้ว! ไอ้หื่นจี้ชิงทรัพย์ หวิดข่มขืนหญิงสาวใต้สะพาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายสุนันท์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี จ. 358/1/2559 ลง ณ วันที่ 29 ก.ย.2559 ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด

พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ พร้อมซิมโทรศัพท์ กล้องส่องพระ และเมมโมรี่การ์ดโทรศัพท์จำนวน 2 อัน เสื้อยืดสีส้มแขนสั้นหน้าอก ปักสกรีนอักษร Class of 2003 5 Year Reunion หมวกแก๊ป ซึ่งเป็นชุดที่ใส่ในวันก่อเหตุ และรถจยย.ฮอนด้าคลิก สีดำคาดลายทอง ที่ใช้เป็นยานพาหะนะในวันก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังมีโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง พวงกุญแจรถจยย.ฮอนด้า 1 พวง ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย มารับทราบในข้อกล่าวหาของคดี

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งรูปถ่ายของผู้ต้องสงสัยให้ผู้เสียหาย 2 ราย ยืนยันว่าเป็นคนร้ายในคืนวันก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งทั้งสองรายยืนยันตรงกันว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน โดยจำหน้าได้อย่างชัดเจน โดยที่นายสุนันท์ จำนนต่อหลักฐานและภาพวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ทุกขั้นตอน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายสุนันท์แถลงต่อสื่อมวลชนเป็นทางการอีกครั้ง

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.ย.59 ที่ผ่านมา น้องทราย (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.พิกุลทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้โพสต์ข้อความเตือนภัย หลังรอดเงื้อมมือจากโจรโรคจิตที่ตะเวนขี่รถจยย.ดักจี้ หมายข่มขืนใต้อุโมงค์สะพานโคกหม้อ ถนนเพชรเกษม อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยระบุข้อความว่า

"เมื่อคืนเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ เราถูกจี้มันเอากุญแจรถเราและกระเป๋าตังค์เราไป ในนั้นมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง แล้วถอดเสื้อผ้าเราหมดเลย พยายามจะข่มขืน แต่เราหนีออกมาได้ทัน ระวังกันด้วยนะตรงสะพานโคกหม้ออ่ะ" โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ย.

ซึ่งก่อนหน้า 1 สัปดาห์ วันอาทิตย์ที่ 18 ก.ย. นางสาวส้ม (นามสมมุติ) แฟนสาวของนายทัศ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ได้ถูกคนร้ายจับหน้าอก และหอมแก้ม และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายขี่รถจยย.รอบเมือง เพื่อหาเหยื่อสาวที่มาลำพังกลางดึก และเป็นคนเดียวกันกับกรณีน้องทราย

ด้าน ผู้เสียหายทั้งสองราย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พวกตนรู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมคนได้สำเร็จ โดยจากภาพที่ปรากฏตามสื่อออนไลน์ขณะนี้ว่าสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว ยืนยันว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันที่ก่อเหตุ เพราะเสื้อที่สวมใส่รถจยย.ที่ใช้ขับขี่มา โดยเฉพาะโทรศัพท์ที่ยึดได้ตามในรูปก็เป็นของตน จึงมั่นใจได้ว่าจับกุมไม่ผิดตัว

ทั้งนี้ ต้องขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานกันจนเต็มที่ และสามารถจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ และขอบคุณพลังโซเชียลฯที่ให้กำลังใจ ซึ่งตอนนี้พวกตนเองก็สบายใจสามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ ไม่ต้องมาหวาดระแวง แต่ก็ไม่ประมาทที่จะเดินทางโดยลำพังในเวลายามวิกาล โดยเฉพาะในพื้นที่เปลี่ยวและมืด