แฉด้วยคลิป! กระบะไม่หลบให้รถฉุกเฉิน ย้ายผู้ป่วยวิกฤต วัย 70

แฉด้วยคลิป! กระบะไม่หลบให้รถฉุกเฉิน ย้ายผู้ป่วยวิกฤต วัย 70

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เผยคลิปรถกระบะไม่ยอมหลีกทางให้รถฉุกเฉิน กำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยวิกฤต อายุ 70 กว่าปี แม้เปิดไฟขอทางหลายครั้ง ญาติวอนอยากเห็นสังคมมีน้ำใจ

วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ได้รับคลิปวีดีโอ ซึ่งถ่ายจากโทรศัพท์มือถือของญาติผู้ป่วยรายหนึ่ง ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ซึ่งเป็นชาว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2559 ที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ที่รถกระยะคันหนึ่งที่ไม่ยอมหลีกทางให้รถผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่กำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยชราที่อยู่ในอาการวิกฤต

โดยญาติผู้ป่วย ระบุว่า ขณะที่รถฉุกเฉินของ รพ.สังขะ กำลังนำตัวผู้ป่วยสูงอายุ อายุประมาณ 70 กว่าปี ซึ่งอยู่ในอาการป่วยขั้นวิกฤต กำลังถูกนำตัวส่งต่อยัง รพ.สุรินทร์ ระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร อย่างเร่งรีบ โดยมีลูกหลานและญาติขึ้นรถฉุกเฉินมาด้วย เพื่อติดตามอาการด้วยความเป็นห่วง

ระหว่างที่รถฉุกเฉิน เดินทางมาถึงถนน 4 เลน บริเวณเลยปั๊มน้ำมัน ปตท.สลักได ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ มาเล็กน้อย ก็พบกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ 4 ประตู สีน้ำเงิน ไม่เปิดเผยหมายเลขทะเบียน วิ่งอยู่เลนขวา โดยไม่ยอมหลีกทางหรือหลบซ้ายให้รถผู้ป่วยฉุกเฉิน แม้ว่ารถฉุกเฉินจะพยายามส่งสัญญาณเปิดไฟขอทางแล้วหลายครั้งก็ตาม ก็ไม่เป็นผล

ประกอบกับถนนเลนซ้าย ก่อนเข้าตัวเมืองดังกล่าว เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดเส้นทางหลายกิโลเมตร ซึ่งผู้ที่สัญจรบนถนนดังกล่าวจะทราบดีว่าถนนเส้นนี้ มีปัญหาเรื่องผุพังเป็นหลุมเป็นบ่อมานาน ตั้งแต่สร้างถนนเสร็จใหม่ๆ และเกิดอุบัติเหตุบ่อย โดยเฉพาะกับผู้ขับขี่รถจยย. ถึงแม้จะมีการปะถนนซ่อมแซม แต่ก็ไม่เรียบนัก

จึงทำให้รถผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่สามารถแซงซ้ายได้ เพราะเกรงจะเกิดอันตรายและสะเทือนถึงอาการผู้ของป่วยได้ จนต้องขับตามมาอีกกว่า 3 กิโลเมตร จนถึงบริเวณ 4 แยกเลี่ยงเมืองไอคิว อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งถนนเริ่มดีขึ้น รถผู้ป่วยฉุกเฉินจึงเบี่ยงซ้ายแซงรถคันดังกล่าวออกไป และรีบไปส่งผู้ป่วยต่อที่ รพ.สุรินทร์ ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU

ทั้งนี้ สาเหตุที่ญาติผู้ป่วยตัดสินใจนำคลิปวีดีโอดังกล่าวให้สื่อมวลชนนำเสนอนั้น เพราะอยากให้สังคมในประเทศไทยมีน้ำใจ เมื่อพบเห็นรถฉุกเฉิน กรุณาช่วยกันหลีกทางให้รถฉุกเฉินด้วย เพื่อย่นระยะเวลาการเดินทางของรถฉุกเฉิน เวลาแค่เสี้ยวนาที อาจเป็นเวลาชีวิตที่สำคัญที่สุดของผู้ป่วยหนักคนหนึ่งก็เป็นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook