เปิดคำสารภาพโจรโรคจิตใต้สะพาน เซ็กส์จัด-หวังข่มขืนอย่างเดียว
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ก.ย.59 ที่ผ่านมา น้องทราย (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.พิกุลทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้โพสต์ข้อความเตือนภัย หลังรอดพ้นจากโจรโรคจิตที่ตะเวนขี่รถจยย.ดักจี้ หมายข่มขืนใต้อุโมงค์สะพานโคกหม้อ ถนนเพชรเกษม อ.เมือง จ.ราชบุรี
ล่าสุด (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ชินพันธ์ พราหมณ์พันธุ์ ผกก.5 บก.ปคม. นำตัวนายสุนันท์ อายุ 38 ปี มาที่บริเวณอุโมงค์ใต้สะพานถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 3 ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 200 นาย คุมล้อมพื้นที่เพื่อป้องกันการเกิดความวุ่นวายและการทำร้ายตัวผู้ต้องหา
นายสุนันท์ ให้การรับสารภาพสิ้นทุกข้อกล่าวหา ซึ่งนายสุนันท์ยอมรับว่าเมื่อวันที่ 18 กันยายน และวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา ตนได้ออกมาตะเวนหาเหยื่อที่เป็นหญิงสาวขับขี่รถจักรยานยนต์มาเพียงลำพัง และเลือกใช้ที่บริเวณอุโมงค์ใต้สะพานโคกหม้อเป็นสถานที่ในการก่อเหตุเนื่องจากเป็นสถานที่เปลี่ยวและมืด มีผู้ใช้สัญจรน้อย โดยที่ตนเองจะออกขับขี่รถจักรยานยนต์ตะเวรไปตามตัวเมืองราชบุรี และคอยดูหญิงสาวที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เพียงลำพัง
ซึ่งในคืนเกิดเหตุเห็นผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ ออกมาจากที่ทำงานที่ร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ตนจึงขับขี่รถจักรยานยนต์สะกดรอยตามหลัง และมาถึงที่เกิดเหตุตนจึงนำรถเข้าขวางหน้าและคว้ามือไปจับกระเป๋าของผู้เสียหายและบิดลูกกุญเจรถจากนั้นขอผู้เสียหายมีเพศสัมพันธ์ และลากผู้เสียหายไปที่บริเวณหลังตอหม้อสะพานก่อนจะทำการถอดเสื้อผ้าของผู้เสียหายจนหมด
ซึ่งขณะนั้นรถของตนเองและผู้เสียหายจอดขวางถนนอยู่ตนจึงบอกให้ผู้เสียหายอยู่กับที่และได้ออกไปขยับรถก่อนที่ผู้เสียหายจะรีบวิ่งหนีออกไป ซึ่งตนเองก็ได้รีบขับรถวิ่งตามแต่ไม่ทัน และเห็นว่าผู้เสียหายไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีตนจึงรีบขับขี่รถจักรยานยนต์หนีหายไป และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติไม่ได้หลบหนีก่อนที่จะมาถูกจับกุมดังกล่าว โดยที่ตนเองยอมรับสารภาพว่ามีความต้องการทางเพศ สาเหตุที่ออกมาตะเวนหาเหยื่อเพราะตนเองไม่มีเงินที่จะไปเที่ยวหญิงบริการ จึงได้ออกมาก่อเหตุดังกล่าว
เจ้าหน้าที่เผยว่า จากการสืบประวัติและการรับสารภาพของผู้ต้องหา ทราบว่าได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง และต้องโทษในคดีจนถูกตัดสินให้จำคุกมาแล้วนับ 10 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดโดยตัดสินในคดียาเสพติด ติดคุกมา 2 ปี 8 เดือน และเพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 3 เดือน และมาก่อเหตุซ้ำอีก จากการรายงานทราบว่าก่อเหตุมา 3 ราย โดยรายแรกเกิดที่พื้นที่ สภ.บางแพ และ ล่าสุดที่บริเวณจุดกลับรถสะพานโคกหม้อ มีผู้เสียหาย 2 ราย โดยนายสุนันท์จะเลือกใช้เวลาช่วงค่ำ และเป็นวันอาทิตย์เพราะเป็นวันหยุด ส่วนในวันปกตินายสุนันท์จะประกอบอาชีพก่อสร้าง ซึ่งพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ จะเป็นคนโรคจิตและมีความต้องการทางเพศสูง การก่อเหตุจะไม่ค่อยหวังต่อทรัพย์ มีจุดหมายที่จะหวังข่มขืนผู้เสียหายอย่างเดียว ทั้งนี้ก็ได้ควบคุมตัวนายสุนันท์ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนางส้ม (นามสมมุติ) พี่สาวของของนายสุนันท์ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายสุนันท์ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ยอมรับว่าน้องชายเป็นคนโรคจิต ถูกจับทั้งในคดีลักทรัพย์และยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 3 เดือน โดนขอให้น้องชายมาทำงานช่วยเหลือทางบ้าน ซึ่งน้องชายก็ทำงานก่อสร้างตามปกติ กลับเข้าบ้านก็จะอยู่แต่ในห้องและช่วงกลางคืนก็จะออกไปนอกบ้าน
หลังจากที่เห็นข่าวทางสื่อต่างๆ ก็ตกใจ ซึ่งก็บอกน้องชายว่าตำรวจกำลังติดตามจับกุมอยู่และก็ถามว่าไปก่อเหตุจริงไหม ซึ่งน้องชายก็ยอมรับว่าทำจริงแต่ยังไม่ได้ทำร้ายหรือล่วงเกินเขา จนวันที่ตำรวจมาจับกุมน้องชายก็ไปช่วยทำความสะอาดที่วัดเพราะกำลังมีงานบุญ ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษแทนน้องชายที่ได้กระทำเรื่องไม่ดีแบบนี้ กับหญิงสาวผู้เสียหาย และหลังจากนี้ก็ให้น้องชายตนไปรับโทษตามกฎหมายและหากพ้นโทษมาจะพาไปรักษาและบำบัดเพื่อไม่ให้กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก
ขณะที่บรรยากาศการทำแผนมีผู้เสียหายทั้ง 2 รายและญาติๆ รวมไปถึงประชาชนที่ทราบข่าวต่างก็มามุงดู ซึ่งระหว่างที่จะนำตัวนายสุนันท์มาทำแผนที่บริเวณจุดที่ผู้เสียหายหลบหนี ทางญาติผู้เสียหายรายหนึ่งเกิดอาการไม่พอใจด่าทอผู้ต้องหาและจะมุ่งเข้าทำร้ายผู้ต้องหาทำให้เจ้าหน้าที่ต้องห้ามและนำผู้ต้องหาขึ้นรถไปทันที