ตาพาหลานพิการไป รพ.ทำเงินก้อนสุดท้ายหาย วอนช่วยส่งคืน

ตาวัย 72 พาหลานต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาล ทำเงินเบี้ยผู้สูงอายุคนพิการที่เก็บสะสมไว้กว่า 15,000 บาท หล่นหายวอนคนเก็บได้ส่งคืน

(4 ต.ค.) คุณตาวัย 72 ปี พาหลานสาวพิการวัย 6 ขวบ นั่งรถประจำทางไปต่ออายุบัตรผู้พิการที่โรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าทำกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินสดที่เก็บสะสมเอาไว้ราวๆ 15,000 บาท หล่นหายไปโดยไม่รู้ตัว โร่แจ้งความ-พร้อมวอนพลเมืองดีหากเก็บได้ช่วยส่งคืน เพราะเป็นเงินเบี้ยยังชีพคนพิการเบี้ยผู้สูงอายุที่เก็บสะสมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

ผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็น 2 ตาหลานจูงแขนกันเดินไปมาอยู่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์อยู่พักใหญ่ โดยคุณตามีท่าทางร้อนรนและสีหน้าเป็นทุกข์ใจจึงได้เดินเข้าไปสอบถามจึงทราบว่า คุณตาคนดังกล่าวชื่อ นายแผน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี พร้อมเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าได้นั่งรถประจำทางออกมาจากบ้าน เพื่อจะพา น้องแพม หลานสาววัย 6 ขวบ ที่พูดไม่ได้ตั้งแต่กำเนิด ไปทำเรื่องต่ออายุบัตรผู้พิการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์

แต่พอลงจากรถโดยสารจะเดินเข้าโรงพยาบาล ตนล้วงหากระเป๋าสตางค์สีดำ ซึ่งใส่ไว้กระเป๋าเสื้อไม่เจอคาดว่าน่าจะหล่นหายโดยไม่รู้ตัว โดยในกระเป๋าสตางค์ดังกล่าวมีเงินสดอยู่กว่า 15,000 บาท ที่ตนได้เก็บสะสมจากเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งของตนเองและภรรยา

รวมถึงเงินเบี้ยคนพิการของหลานสาว และเงินที่ลูกชายส่งมาเป็นค่าเล่าเรียนอีกเดือนละ 3,000 บาท พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองและภรรยา บัตรคนพิการของหลานก็หายไปด้วย จึงได้พาหลานสาวเดินทางมาแจ้งความที่โรงพักให้ช่วยประกาศตามหากระเป๋าสตางค์ที่หล่นหาย

ด้วยความสงสารและเห็นใจคุณตากับหลานสาว ผู้สื่อข่าวและประชาชนที่ผ่านมาเจอ จึงได้มอบเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่ารถให้คุณตาพาหลานสาวเดินทางกลับบ้าน

คุณตาแผน ยังบอกด้วยว่า เงินจำนวนดังกล่าวได้เก็บสะสมมานานกว่า 1 ปีแล้ว เพื่อไว้ใช้ในยามจำเป็นหรือฉุกเฉิน แต่ก็มาหล่นหายโดยไม่รู้ตัวจึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่เก็บกระเป๋าตางค์ได้เห็นใจนำมาส่งคืน เพราะเป็นเงินก้อนเดียวที่เหลือติดบ้าน โดยจะต้องนำเงินไปใช้จ่ายที่สำคัญต้องดูแลหลานสาวพิการด้วย หากผู้ที่เก็บได้นำมาส่งคืนตนก็พร้อมจะมอบเงินจำนวน 2,000 บาทเป็นสินน้ำใจ