บุกปล้นตัดไม้พะยูงอายุกว่า 100 ปี ในวัด ขู่ฆ่าหลวงตา 82 ปี

บุกปล้นตัดไม้พะยูงอายุกว่า 100 ปี ในวัด ขู่ฆ่าหลวงตา 82 ปี

บุกปล้นตัดไม้พะยูงอายุกว่า 100 ปี ในวัด ขู่ฆ่าหลวงตา 82 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (10 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมด้วย ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจตระเวนชายแดน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้งจากชาวบ้าน มีเหตุกลุ่มคนร้ายขบวนการค้าไม้พยุงข้ามชาติ เข้าไปข่มขู่ปล้นไม้พะยูงไปจากวัดป่าแสงธรรม บ้านเหล่าหนาด หมู่ 8 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ก่อนตัดไม้พะยูงบรรทุกใส่รถยนต์ กระบะหลบหนีไป

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายในวัดป่าแสงธรรม ซึ่งอยู่ติดถนนหมายเลข 212 นครพนม - บ้านแพง และอยู่ห่างจากหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ นพ.2 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แค่ประมาณ 100 เมตร พบต้นไม้พะยูงขนาดใหญ่ คาดว่าอายุ ไม่ต่ำกว่า 100 ปี มีความสูงเกือบ 20 เมตร อยู่ใกล้กุฏิเจ้าอาวาส ถูกตัดโค่น เหลือเพียงกิ่งไม้ส่วนยอด ทิ้งไว้บางส่วน

ตรวจสอบวัดขนาดโคนต้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร และมีเส้นรอบวงต้นประมาณ เกือบ 2 เมตร แต่ส่วนกลางลำต้น ความยาวประมาณ 4 เมตร ถูกตัดลำเลียงขนหลบหนีไป เชื่อว่าหากนำไปขายจะมีมูลค่าเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เพราะเป็นไม้อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบเก็บหลักฐาน ประกอบการสืบสวนติดตามคนร้าย

จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในช่วงกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะหลวงพ่อคำ อธิปุตโต เจ้าอาวาสวัด อายุ 82 ปี กำลังจำวัด พร้อมด้วยแม่ชีและญาติโยม ที่มาปฏิบัติธรรม อีก 4 -5 คน ได้มีกลุ่มคนร้ายนับ 10 คน แต่งตัวชุดดำ มีอาวุธครบมือขับรถเข้ามาจอด และเข้ามาข่มขู่ไล่พระเจ้าอาวาส ญาติโยมเข้าไปในกุฏิพระ พร้อมมีการตะโกนข่มขู่ห้ามออกมา

และห้ามติดต่อแจ้งขอความช่วยเหลือจากใคร หากไม่เชื่อจะยิงทิ้งทั้งหมด จึงพากันเข้าไปหลบในกุฏิ จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ทำการตัดโค่นต้นไม้พะยูงในวัด อย่างรวดเร็วใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนตัดลำเลียงไม้พะยูงบรรทุกใส่รถกระบะหนีไป จนกระทั่งทางพระเจ้าอาวาส และญาติโยม เห็นว่าปลอดภัย จึงออกมาดูและประสานผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ แต่ไม่สามารถเห็นหน้าคนร้าย เพราะอยู่ในความมืด

ล่าสุด พ.ต.อ.ธานัท จิราธนะกุล ผกก.สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เปิดเผยว่า เชื่อว่าน่าจะมีคนในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่บางส่วนรู้เห็น และถือว่าเป็นมืออาชีพ ที่มีการทราบความเคลื่อนไหวภายในวัด และจังหวะก่อนเข้าไปก่อเหตุเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดูแล รักษาความปลอดภัยในวัดเกิดเหตุ รวมถึงวัดที่มีความเสี่ยง ป้องกันการก่อเหตุซ้ำอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook