ศรีวราห์ถกมั่นคงรับมือข่าวคาร์บอมบ์ ป่วนกทม.25-30 ต.ค.

ศรีวราห์ถกมั่นคงรับมือข่าวคาร์บอมบ์ ป่วนกทม.25-30 ต.ค.

ศรีวราห์ถกมั่นคงรับมือข่าวคาร์บอมบ์ ป่วนกทม.25-30 ต.ค.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"พล.ต.อ.ศรีวราห์" ถกความมั่นคง รับมือข่าวคาร์บอมบ์ป่วน 3 จุด กทม. 25 - 30 ต.ค. นี้ กำชับหาข่าวเชิงลึก ป้องกันการก่อเหตุ จ่อขอหมายจับศาลคดีระเบิดกระบี่อีก

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนในพื้นตำรวจนครบาล/ ตำรวจภูธรภาค 1, 2 และ 7 ตำรวจสันติบาล/ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจสอบสวนกลาง หลังการข่าวแจ้งเตือนว่าจะมีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงระหว่างวันที่ 25 - 30 ต.ค. นี้ จำนวน 3 จุด โดยมีเป้าหมายบริเวณห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีวิทยุสั่งการกำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการป้องกันเหตุการณ์ก่อการร้ายและการก่อวินาศกรรมโดยให้สำรวจพื้นที่เป้าหมายหรือจุดเสี่ยง/ จัดทำแผนเผชิญเหตุทั้งก่อนเกิดเหตุ/ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ/ เน้นสืบสวนหาข่าวเชิงลึกด้านความมั่นคง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเป้าหมาย โดยบูรณาการด้านการข่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน/ เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด จุดตรวจความมั่นคง ยานพาหนะในพื้นที่เป้าหมาย ตลอดจนเส้นทางในจังหวัดปริมณฑล และเส้นทางจากภาคใต้

พร้อมประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของ หรือผู้รับผิดชอบห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบรถยนต์ รถจักรยานที่ผ่านเข้าออก จอดทิ้งค้างคืนในห้างหรือลานจอดรถ ตรวจสอบความพร้อมของกล้องวงจรปิดให้พร้อมใช้งาน และให้สำรวจข้อมูลรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม หรือถูกประทุษร้ายย้อนหลังในปี 2558-2559 ในพื้นที่ ภ.7 และ ศชต. เพื่อเป็นข้อมูลให้ตำรวจในแต่ละพื้นที่เฝ้าระวัง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยอมรับว่า การข่าวมีการแจ้งเตือนว่าจะมีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงระหว่างวันที่ 25 - 30 ต.ค.นี้ จำนวน 3 จุด โดยมีเป้าหมายบริเวณห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญจริง โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งมักจะมีการก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากเป็นวันสำคัญของเหตุการณ์ต่าง ๆ ตลอดจนวันครบรอบวันสถาปนาของกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ และเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง

ส่วนกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่อาจเข้ามาก่อเหตุความไม่สงบนั้น เป็นไปได้ว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจ คาดว่าต้องการสร้างสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการแจ้งเตือนเรื่องการก่อการร้ายนั้น เป็นเรื่องปกติที่มีการแจ้งเตือนกันทั่วโลกอยู่แล้ว

โดยในวันนี้ทางเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ก็ได้เดินทางมาสอบถามความคืบหน้า เรื่องการเฝ้าระวังและการป้องกันของไทย เนื่องจากมีความเป็นห่วง อีกทั้ง ไทยและออสเตรเลีย ก็มีความร่วมมือด้านการก่อการร้ายระหว่างกัน ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความมั่นคงมาตลอด จึงได้กำชับให้มีการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะสถานที่สำคัญที่อาจตกเป็นเป้าหมาย เน้นการสืบสวนหาข่าวเชิงลึก ตรวจสอบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย พร้อมจัดทำแผนเผชิญเหตุไว้ด้วย

นอกจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดและวางเพลิง 7 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าเตรียมนำพยานหลักฐานเข้ายื่นต่อศาลทหารเพื่อขอให้พิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก เบื้องต้น เป็นผู้ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ส่วนจะมีกี่รายนั้นยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนความคืบหน้าการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ นอกจาก นายอับดุลกอเดย์ สาและ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในพื้นที่ตรัง ซึ่งจับกุมตัวได้ และอยู่ระหว่างการฝากขังแล้ว ทราบว่าขณะนี้ทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย ส่วนจะเป็นบุคคลตามหมายจับและก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดใดนั้นยังไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากต้องให้ทหารส่งตัวให้ โดยทหารยังสามารถควบคุมตัวได้อีกประมาณ 20 วัน ทั้งนี้หากส่งตัวมาก็จะดำเนินการสอบปากคำตามขั้นตอนหาหาความเชื่อมโยงและติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook