"๙ รอยเท้าพ่อ" ที่อยากให้ลูกก้าวเดิน ได้ด้วยตัวเอง
"ทุกย่างก้าวของพ่อ...ไม่เคยมีก้าวใดที่สูญเปล่า" ตามรอย ๙ รอยเท้าพ่อ กับ ๙ โครงการตามพระราชดำริ ที่มีพระราชประสงค์ที่จะช่วยเหลือประชาชนให้สามารถทำกินและยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวเอง จนสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาศึกษาและเยี่ยมชม
๑. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงตระหนักถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ การทำไร่เลื่อนลอย การปลูกฝิ่นและการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาไม่เฉพาะในท้องถิ่นแห่งนั้น จึงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะช่วยเหลือชาวเขาให้มีพื้นที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง ส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนฝิ่น พร้อมทั้งถ่ายทอดวิชาความรู้การเกษตรแผนใหม่ เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ปรับปรุงฐานะความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น ตลอดจนป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ต้นน้ำลำธาร
ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๒ มูลนิธิโครงการหลวงได้จัดตั้ง "สถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์" บนพื้นที่ ๑๕๐ ไร่ ซึ่งเป็นสถานีวิจัยอีกแห่งหนึ่งของมูลนิธิโครงการหลวง ที่ดำเนินงานด้านวิจัยค้นคว้าข้อมูล เป็นแนวทางที่จะนำเอาผลจากการวิจัยมาส่งเสริมอาชีพเป็นรายได้ของครอบครัวเกษตรกร
สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในสถานีฯ ให้มีความสวยงามเพิ่มขึ้น และเพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ศึกษาเรียนรู้พรรณไม้ต่างถิ่นหลากหลายชนิด ที่ทางสถานีได้ศึกษาวิจัยและทดลองปลูกขึ้นมา โดยได้จัดแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ได้แก่
กิจกรรมการท่องเที่ยว
จุดท่องเที่ยวในสถานี
- สวน ๘๐ พรรษา ซึ่งจัดในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระชนมพรรษา ครบ ๘๐ พรรษา และเป็นสถานที่จัดแสดงขึ้นเพื่อรองรับการศึกษาดูงานของผู้มีความสนใจศึกษาเกี่ยวกับพรรณไม้ดอกเมืองหนาว โดยพรรณไม้ที่อยู่ในสวนเป็นการนำพรรณไม้ดอก ไม้ยืนต้น ที่ได้จากงานวิจัยของนักวิชาการ ที่นำออกมาสาธิต ในรูปแบบของการจัดภูมิทัศน์ให้สวยงาม ภายในสวนตกแต่งด้วยไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด
- สวนหลวงสิริภูมิ เป็นสวนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์เฟิน ภายในมีน้ำตกขนาดเล็กซึ่งเป็นน้ำตกชั้นล่างของน้ำตกสิริภูมิ มีลำธารไหลไปตามบริเวณสวนตลอดปี เป็นแหล่งเก็บรวมรวมเฟินทั้งของไทยและต่างประเทศ ประมาณ ๓๐ สกุล ๕๐ ชนิด จุดเด่นภายในสวน คือ กูดต้น หรือ ทรีเฟิน (Tree Fern) เป็นเฟินขนาดใหญ่และมีลำต้นสูงร่วม ๑๐ เมตร ซึ่งมีประมาณกว่า ๑๐ ชนิด
- โรงเรือนจัดแสดงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ จัดแสดงดอกไม้ ไม้ประดับชนิดต่างๆ ที่หมุนเวียนไปตามฤดูกาล อาทิเช่น กุหลาบหิน รองเท้านารี ซิมบิเดี้ยม
- สวนกุหลาบพันปี เป็นสวนที่เกิดจากการศึกษาและขยายพันธุ์กุหลาบพันปีพืชในสกุล Rhododendron จากแหล่งต่างๆ ที่มีการกระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่สูง ทั้งในและต่างประเทศ เช่น พม่า มาเลเซีย ทิเบต ภายในสวนประกอบไปด้วย กุหลาบพันปีจำนวน ๓ สายพันธุ์ คือ
กลุ่มที่ ๑ Rhododendron
- Rhododendron สีแดง ได้แก่ คำแดง ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในดอยอินทนนท์และชื่อเสียง, กุหลาบแดงอีสาน ซึ่งมีการกระจายพันธุ์อยู่ทางภาคอีสานของไทย
- Rhododendron สีขาว ได้แก่ สีขาวอินทนนท์, สีขาวเชียงดาว, กุหลาบขาว
กลุ่มที่ ๒ Azalea - เป็นพืชกลุ่มหนึ่งในตระกูล Rhododendron เป็นลูกผสมจากงานศึกษาและค้นคว้า และทดสอบพันธ์ ซึ่งมีจัดแสดงอยู่ในสวนกุหลาบพันปี
กลุ่มที่ ๓ Vireyas เป็นพันธุ์ลูกผสม ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย
- โรงเรือนรวบรวมและจัดแสดงเฟิน ซึ่งรวบรวมเฟินที่หายากชนิดต่าง ๆ ไว้มากมายหลายชนิด ทั้งของไทย และต่างประเทศ ซึ่งบางชนิดใกล้สูญพันธุ์แล้วเป็นโรงจัดแสดงเฟินที่มีความสำคัญทางด้านพืชสวนและเศรษฐกิจ ซึ่งมีประมาณ ๕๐ สกุล ๒๐๐ กว่าชนิด และยังมีเฟินรัศมีโชติ ซึ่งเป็นเฟินประจำถิ่นของพื้นที่ ที่ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร
- โรงเรือนรวบรวมและจัดแสดงพืชกินสัตว์ รวบรวมพืชกินสัตว์หรือพืชกินแมลง เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง, พิงกุย ชนิดต่าง ๆ ที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศบนพื้นที่สูง
- โรงเรือนผักไฮโดรโพนิกส์ (Hydroponics) รวบรวมผักเมืองหนาวประเภทสลัด ปลูกโดยวิธีไร้ดิน เน้นผักสลัด ๕ ชนิด ของโครงการหลวง อาทิ ผักกาดหวาน กรีนโอ๊ค เรโอ๊ค บัตเตอร์เฮด ฟิลเล่ย์ไอส์เบริ์ก
หน่วยวิจัยขุนห้วยแห้ง เป็นหน่วยย่อยของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ได้ดำเนินงานวิจัยพัฒนาและพัฒนาพันธุ์พืชเมืองหนาว ทำให้มีคณะเข้ามาศึกษาดูงานวิจัย ซึ่งได้มีการวิจัยและพัฒนาขึ้น ได้แก่
- งานวิจัยและสาธิตการผลิตไม้ดอก ได้แก่ กุหลาบ เดเลีย หน้าวัว เจอบีร่า
- งานวิจัยและสาธิตการผลิตไม้ผลขนาดเล็ก ได้แก่ สตอเบอรี่ ราสพ์เบอรี่ มัลเบอรี่ องุ่น
- งานวิจัยและสาธิตการผลิตไม้ผลเขตหนาว ได้แก่ พี้ช พลับ อาโวคาโด กีวี่ฟรุ๊ต
จุดท่องเที่ยวชุมชน
- บ้านแม่กลางหลวง ชุมชนปกาเกอญอที่มีวิถีชีวิต สมถะเรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติ มีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติเรียนรู้ความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการ ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นศึกษาดูนก ประจำถิ่นในเส้นทางเดินป่าดอยหัวเสือ เส้นทางดูนกห้วยน้ำขุ่น และเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอก นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความสวยงามของนาข้าวขั้นบันได การทำนาข้าวจะแบ่งเป็น ๒ ช่วงคือ
- ก.ย. - กลาง ต.ค . ช่วงหน้าฝนต้นข้าวจะเริ่มเขียว เคล้าสายหมอกบางๆในฤดูฝน
- ปลายต.ค.-ต้นพ.ย. เป็นช่วงที่ต้นข้าวออกรวงเป็นสีทองเต็มท้องทุ่งเหลืองอร่าม
- บ้านหนองหล่ม ชุมชนชาวปกาเกอญอที่นี่มีต้นกาแฟประวัติศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จพระดำเนินด้วยพระบาทเป็นชั่วโมง เพื่อทอดพระเนตรต้นกาแฟเพียง ๒-๓ ต้น ทรงมีรับสั่งเองว่าการที่เสด็จไปทำให้ชาวเขานั้นเห็นว่ากาแฟนั้นสำคัญ จึงสนใจปลูก ปัจจุบันบนดอยมีกาแฟมากมายก็เริ่มจากกาแฟ ๒-๓ ต้นนั่นเอง
กิจกรรมท่องเที่ยว
เส้นทางเดินชมธรรมชาติสวนบริเวณในสถานีฯ และนักท่องเที่ยวสามารถนำจักรยานมาปั่นชมรอบ ๆ สถานีและในหมู่บ้านได้
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
- อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ยอดดอยที่สูงที่สุดในไทย ๒,๕๖๕ จากระดับน้ำทะเลเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยมีสภาพป่าที่หลากหลายมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ น้ำตกแม่ยะ น้ำตกวชิรธาร น้ำตกแม่กลาง ถ้ำบริจินดา เส้นทางชมธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เส้นทางชมธรรมชาติอ่างกา
- อำเภอแม่แจ่ม จากตัวสถานีไปยังอำเภอแม่แจ่ม ระยะทาง ๒๕ กิโลเมตร แต่เส้นทางค่อนข้างแคบ ลาดชัน ไปจนถึงอำเภอแม่แจ่ม มีจุดชมวิวธรรมชาติ น้ำตก วัดต่างๆ และวิถีชีวิตชาวบ้านที่ยังเงียบสงบ และที่นี่ยังเป็นแหล่งทอผ้าซิ่นตีนจกที่มีชื่อเสียงมานาน http://www.paiduaykan.com/76_province/north/chiangmai/maechaem.html
- วัดพระธาตุศรีจอมทอง ตั้งอยู่ถนนเชียงใหม่-ฮอด หมู่ ๒ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ ๕๘ กิโลเมตร วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๖
การเดินทาง
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ เชียงใหม่-ฮอด ผ่าน อำเภอหางดง สันป่าตอง จอมทอง ถึงหลักกิโลเมตรที่ ๕๗ ซึ่งอยู่ก่อนถึงตัวอำเภอจอมทองประมาณ ๑ กิโลเมตร จะมีทางแยกขวามือเข้าทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๙ สายจอมทอง-อินทนนท์ ไปตามเส้นทางสายนี้จนถึงหลักกิโลเมตรที่ ๓๑ มีทางแยกขวามือเข้าบ้านขุนกลางไปอีกประมาณ ๑ กิโลเมตร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ๒๐๒ หมู่ ๗ บ้านขุนกลาง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ๕๐๑๖๐
๒. สถานีเกษตรหลวงปางดะ
ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ มูลนิธิโครงการหลวงได้เลือกพื้นที่ในสถานีทดลองข้าวไร่ และธัญพืชเมืองหนาวสะเมิง ของกรมวิชาการเกษตรหมู่บ้านปางดะ เป็นแหล่งทำการขยายพันธุ์พืช เมื่อปริมาณความต้องการด้านพันธุ์พืชเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผลิตต้นพันธุ์ได้ไม่เพียงพอ มูลนิธิโครงการหลวงจึงเปิดสถานที่แห่งใหม่ขึ้น เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ บนพื้นที่ประมาณ ๒๕ ไร่ ติดอ่างเก็บน้ำโครงการพระราชดำริห้วยปลาก้าง ซึ่งไม่ไกลจากบริเวณเดิมมากนัก
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ - ๒๕๒๙ จึงซื้อที่ดินเพิ่มอีกประมาณ ๖๕ ไร่ ขยายพื้นที่สำหรับการขยายพันธุ์พืชอย่างถาวร โดยดำเนินงานภายใต้ชื่อ “ศูนย์ขยายพันธุ์พืชปางดะโครงการหลวง” จนเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเยี่ยมศูนย์ขยายพันธุ์พืชปางดะโครงการหลวงเป็นครั้งแรก โดยทอดพระเนตรกิจกรรมต่างๆ ภายในศูนย์ และในโอกาสนี้หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวงได้ทูลขอพระราชทานชื่อใหม่ว่า “สถานีเกษตรหลวงปางดะ” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้ทรงพระกรุณาพระราชทานให้ใช้ชื่อนี้ พร้อมกับได้ขยายพื้นที่เพิ่มเติมรวม ๑๕๐ ไร่ ในปีเดียวกัน
ปัจจุบันสถานีเกษตรหลวงปางดะได้ขยายขอบเขตการปฏิบัติงาน เป็นสถานีวิจัยขยายพันธุ์พืชหลายชนิด นอกจากไม้ผลเมืองหนาว ไม้ดอกเมืองหนาว ไม้ผลเมืองร้อนและกึ่งร้อน ถั่วแขกและไม้ป่าไม้โตเร็ว
กิจกรรมการท่องเที่ยว
จุดท่องเที่ยวในสถานี
- แปลงวิจัยทดสอบสาธิตไม้ผล เช่น กีวี่ฟรุ๊ต โลควัท ไม้ผลขนาดเล็ก เช่น มะเดื่อฝรั่ง องุ่นไร้เมล็ด เสาวรส ราสพ์เบอรี่ มัลเบอรี่ และไม้ผลเขตร้อน เช่น อาโวคาโด้ มะม่วง ลิ้นจี่ มะเฟือง
- แปลงวิจัยทดสอบสาธิตผัก เช่น มะระหัวใจ มันเทศญี่ปุ่น สลัดรวม ถั่วแขก
- แปลงทดสอบพืชสมุนไพร เช่น จิงจูฉ่าย เลมอนทาร์ม เสจ หญ้าหวาน ชาหอม มิ้นต์
- แปลงวิจัยทดสอบสาธิตไม้ดอก เช่น ยูโคมิส กอลิโอซ่า เฮลิโคเนีย ดอกกุหลาบสายพันธุ์ต่าง ๆ
- นอกจากนี้ยังมีแปลงทอดสอบไผ่หวาน ไผ่หยก และพืชนำเข้า เช่น ทับทิมเมล็ดนิ่ม เชอรี่สเปน
จุดท่องเที่ยวชุมชน
น้ำพุร้อนโป่งกว๋าว ที่บ้านโป่งกว๋าว มีน้ำพุร้อนธรรมชาติ ท่ามกลางหุบเขา มีบ่อแช่น้ำแร่ บ้านพัก และลานกางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว
กิจกรรมท่องเที่ยว
เส้นทางเดินชมสวน แปลงผัก นักท่องเที่ยวสามารถนำจักรยานมาปั่นชมรอบ ๆ บริเวณในสถานีฯ ได้
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
- ไร่สตรอเบอรี่บ้านบ่อแก้ว ที่บ้านบ่อแก้วเป็นแหล่งปลูกสตรอเบอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีหลากหลายสายพันธุ์ นักท่องเที่ยวสามารถชิมและเลือกเก็บเองจากแปลง (ช่วงเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์) และทาง
- อำเภอสะเมิงยังจัดงานสตรอเบอรี่ของดีอำเภอสะเมิง ช่วงเดือนกุมภาพันธ์บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสบสะเมิง (น้ำแม่ขาน) ในพื้นที่บ้านทรายมูล ตำบลสะเมิงใต้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสะเมิง เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลสู่แม่น้ำปิง มีโขดหิน หาดทราย สำหรับพักผ่อนเล่นน้ำ
- จุดชมวิวอำเภอสะเมิง ตั้งอยู่ สาย แม่ริม-สะเมิง กิโลเมตรที่ ๒๕ เป็นจุดผ่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภูเขา ป่าไม้
- โครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านแม่ตุงติงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตัวอย่างการทำเกษตรแบบผสมผสานทั้งการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์
- ม่อนแจ่ม โครงการหลวงหนองหอย ห่างจากสถานีฯปางดะ ๑๕ กิโลเมตร จุดชมวิวิบนสันเขาที่มองวิวได้สวยงามและมีที่พักแบบเต็นท์
- ม่อนกุหลาบห้วยผักไผ่ โครงการหลวงทุ่งเริง ห่างจากสถานีฯ ปางดะ ๑๕ กิโลเมตร เป็นที่รวบรวมกุหลาบกว่า ๑๘๐ สายพันธุ์ ให้ได้ชมและมีกุหลาบกระถางเลือกซื้อกลับ
การเดินทาง
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ระยะทางรวม ๕๐ กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๗ ผ่าน อำเภอแม่ริม เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๖ แม่ริม-สะเมิง ถึงสามแยกสะเมิง แล้วเลี้ยวขวา ไปอีก ๑ กิโลเมตร สถานีปางดะจะตั้งอยู่ด้านขวาสังเกตป้ายด้านหน้าสถานี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สถานีเกษตรหลวงปางดะ ๑๙๒ หมู่ ๑๐ ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ๕๐๒๕๐
๓. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เพื่อช่วยเหลือชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้ง ให้ได้รับการดูแลในด้านสาธารณูปโภคที่เพียงพอ ลดปัญหาการบุกรุกป่าทำไร่เลื่อนลอย และขจัดปัญหาการปลูกฝิ่น โดยสร้างอาชีพหลักทดแทน พระองค์ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้มูลนิธิโครงการหลวงโดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เสด็จสำรวจพื้นที่และสภาพความเป็นอยู่เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านจำนวน ๑๔ หมู่บ้าน ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชัน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๐๓๕ เมตร ดินมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะกับการปลูกพืชผัก และพืชไร่ รวมทั้งผลไม้อื่นๆ
กิจกรรมการท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวเชิงเกษตร
- ชมแปลงส่งเสริมผลผลิต เช่น พลับ อะโวกาโด ดอกไฮเดรนเยีย สมุนไพร และพืชไร่
- ชมนาขั้นบันไดของชาวกะเหรี่ยง เป็นที่กว้างลดหลั่นตามความสูง
การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
- ชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยง การละเล่นช่วงเทศกาล
- ปีใหม่ม้ง
- การทอผ้าของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง และย้อมสีจากวัสดุธรรมชาติ ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวเขา การปักลวดลายและเครื่องประดับ
- การนวดสมุนไพรของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง
การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
- น้ำตกขุนแปะ เป็นที่พักผ่อนเล่นน้ำ มีธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งยังเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า และแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร จึงได้รับฉายาว่า น้ำตกแห่งแสงสว่าง
- น้ำตกห้วยขี้เหล็ก อยู่ในป่าลึก เป็นแหล่งอาศัยของตัวซาลามานเดอร์ และเขียดแลวที่หายาก
- ถ้ำป่ากล้วย ตั้งอยู่เหนือน้ำตกขุนแปะ บริเวณรอบๆ เป็นป่าโปร่ง มีทิวทัศน์สวยงาม
- เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เส้นทางโครงการหลวงขุนแปะ – ผาขาว และเส้นทางโครงการหลวงขุนแปะ – ดอยอมติง นำเที่ยวชมโดยไกด์ท้องถิ่นเป็นชาวบ้านที่มีความชำนาญเส้นทาง
- ผาขาว ผาแตก เป็นผาจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
การเดินทาง
จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ (สายเชียงใหม่ – ฮอด) ถึง กม.๘๒-๘๓ บริเวณสามแยกไปบ้านแปะและวัดตอง ให้เลี้ยวขวา ตรงไปผ่านบ้านแปะ บ้านทุ่งพัฒนา บ้านบนนา บ้านขุนแปะ ประมาณ ๒๒ กิโลเมตร เส้นทางนี้ไม่ควรเดินทางด้วยรถเก๋ง เป็นถนนลาดยางสลับกับลูกรัง ยกเว้นช่วงฤดูฝนควรใช้โฟร์วีลไดรฟ์ หรือใช้บริการรถยนต์รับจ้าง จุดจอดหน้าวัดบ้านแปะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ บ้านขุนแปะ หมู่ ๒ ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ๕๐๑๖๐
๔. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ด้วยแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาอันเกิดจากการขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีพ และขาดการสนับสนุนในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในด้านอาชีพที่ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาดูแลให้ความรู้ทางด้านเกษตรกรรมศูนย์ฯ มุ่งเน้นพัฒนาอาชีพทางด้านการเกษตรที่เหมาะสม นำรายได้ที่มั่นคงมาสู่ชุมชน ยับยั้งการบุกรุกป่าจากการทำไร่เลื่อนลอย และสกัดกั้นการปลูกฝิ่น
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง ตั้งอยู่ในหุบเขา ทัศนียภาพจึงมีความงดงามเป็นพิเศษ พื้นที่เหมาะแก่การทำนาและปลูกพืช ส่วนพื้นที่ลาดเชิงเขาเหมาะแก่การปลูกผลไม้และพืชไร่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ๙๘๐ เมตร อุณหภูมิต่ำสุด ๗ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด ๓๗ องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ย ๒๒ องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย ๑,๓๓๐ มิลลิเมตร / ปี มีพื้นที่รับผิดชอบ ๑๐๒.๐๘ ตารางกิโลเมตร หรือ ๖๓,๘๒๐ ไร่ ครอบคลุม ๑๑ หมู่บ้าน ๖๐๙ ครัวเรือน ประชากรในพื้นที่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้ง นับถือศาสนาพุทธและคริสต์
กิจกรรมการท่องเที่ยว
จุดท่องเที่ยวในศูนย์
- แปลงสาธิตการผลิตพืชผักเมืองหนาว ได้แก่ ผักกาดหอมห่อ ผักกาดหวานโอ๊คลีฟเขียว โอ๊คลีฟแดง ตลอดจนการ เพาะกล้าผักชนิดต่างๆ
- แปลงสาธิตการผลิตไม้ผล ได้แก่ พลับ องุ่น กีวี่
- แปลงสาธิตการผลิตไม้ดอก ได้แก่ จิ๊ปโซฟิลล่า ปักษาสวรรค์ สนช่อดาว สร้อยไก่ และบอลลูนฟราวเวอร์
- คอกสาธิตการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ นกกระจอกเทศ กวาง ไก่ฟ้า ไก่เบรส
- การสาธิตการผลิตปุ๋ยหมัก การเลี้ยงไส้เดือนดิน
จุดท่องเที่ยวในชุมชน
- แปลงผลิตพืชผัก ไม้ดอก ไม้ผลตามฤดูกาล พืชผัก ได้แก่ ผักกาดหอมห่อ ผักกาดขาวปลี กะหล่ำปลี แครอท และเบบี้แครอท ไม้ผล พลับ องุ่น กีวี่ พลัม ไม้ดอก ได้แก่ จิ๊ปโซฟิลล่า ปักษาสวรรค์ สนช่อดาว สร้อยไก่ และบอลลูน
- น้ำตกห้วยกระแส เดินทางจากศูนย์ฯทุ่งหลวงประมาณ ๕ กิโลเมตรและเดินเท้าอีกประมาณ ๑ กิโลเมตร จะได้สัมผัสกับป่าสนเขาน้ำตกหลายชั้น ซึ่งแม้จะมีปริมาณน้ำไม่มากนักแต่ก็มีน้ำไหลรินชุ่มชื่นอยู่ตลอดทั้งปี
- น้ำตกบ้านโป่งสมิต เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีอย่างน้อย ๓ จุดที่ต้องเดินเท้าผ่านทุ่งนาเพื่อชมวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง การทำนาละปลูกพืชแบบนาขั้นบันได
- วัดพระธาตุศรีพุทธชินวงศ์นักท่องเที่ยวสามารถไปนมัสการพระธาตุได้ตลอดทั้งปีและชมทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ ทั้งสภาพบ้านเรือนที่กลมกลืนกับธรรมชาติและแปลงผัก
- ชมวิถีชีวิตชาวปกาเกอญอ (กะเหรี่ยง) ภูมิปัญญาในการรักษาป่า ข้อมูลที่น่าสนในและเกี่ยวกับการเดินป่า คือ ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้านที่ได้ตกลงร่วมกันแบ่งพื้นที่ป่าออกเป็น ๓ ส่วน คือป่าอนุรักษ์ เป็นส่วนที่ห้ามตัดทำลาย ป่าใช้สอยเป็นป่าสำหรับการปลูกพืชทำกินและหาของป่าและอีกส่วนหนึ่งคือป่าชุมชนซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย งานปีใหม่กะเหรี่ยง จัดพร้อมช่วงปีใหม่สากล ช่วงวันที่ ๓๑ ธันวาคม และ ๑ มกราคม มีการเฉลิมฉลองและจัดพิธีกรรมต่างๆ งานหัตถกรรม เป็นสินค้าผ้าทอมือของกลุ่มคนในชุมชน โดยมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ถุงย่าม กระเป๋า เสื้อผู้ชายหญิง ผ้าพันคอ พวงกุญแจ เป็นต้น เครื่องดนตรีกะเหรี่ยง
- อ่างเก็บน้ำห้วยตอง เป็นอ่างเก็บน้ำเพื่อใช้ในการทำการเกษตรของหมู่บ้านบ้านห้วยตองและหมู่บ้านใกล้เคียง มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
- ปางช้างแม่วิน ห่างจากศูนย์ประมาณ ๑๕ กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมการล่องแพ ขี่ช้าง ตามลำน้ำแม่วาง
- ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ห่างจากศูนย์ประมาณ ๑๗ กิโลเมตร เป็นแหล่งที่มีการปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งมีความสวยงามซึ่งจะออกดอกช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม ของทุกปี
- หน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะงะ อยู่ห่างจากศูนย์ประมาณ ๑๗ กิโลเมตร เหมาะแก่การท่องเที่ยวแบบเดินป่า บริเวณพื้นที่มีลานกางเต้นค้างแรมเพื่อซึมซับกับธรรมชาติจากผืนป่าและต้นไม้นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ
การเดินทาง
ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงศูนย์ประมาณ ๖๕ กม.ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหมายเลข ๑๐๘ สายเชียงใหม่-ฮอด ผ่านอำเภอสันป่าตองประมาณ ๗๐๐ เมตร ให้เลี้ยวขวาไปตำบลบ้านกาด ผ่านอำเภอแม่วางและปางช้างแม่วิน กระทั่งถึงวัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ ศูนย์ฯ อยู่ห่างไปประมาณ ๕๐๐ เมตร ระยะทางแยกอำเภอสันป่าตองถึงศูนย์ฯ ๔๘ กิโลเมตร
หมายเหตุ.- ใช้รถยนต์ได้ทุกประเภท ถนนลาดยางเดินทางได้ตลอดทั้งปี แต่ไม่ควรบรรทุกสัมภาระจนหนักเกิน เพราะเป็นเส้นทางขึ้นเขาและคดเคี้ยว (ไม่มีบริการรถยนต์รับจ้าง)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง บ้านห้วยตองเลขที่ ๗๙ หมู่ที่ ๑๐ ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
๕. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย
ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ รัชกาลที่ ๙ เยี่ยมราษฎรหมู่บ้านหนองหอย ทรงมีพระราชดำริว่าควรจะมีการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร จากนั้นกรมป่าไม้ได้จัดส่งหน่วยงานร่วมกับหน่วยพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๒๗ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงเห็นว่าบ้านหนองหอยมีประชากรเพิ่มมากขึ้น และมีการขยายหมู่บ้านออกเป็น ๒ หมู่บ้าน คือ บ้านหนองหอยใหม่และหนองหอยเก่า อีกทั้งยังมีการปลูกฝิ่นเป็นจำนวนมาก จึงได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยขึ้น เพื่อให้มีบทบาทในการแก้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะพืชเสพติด
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำแม่แรมและแม่สา มีพื้นที่ ๒๑.๑๗ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๑๓,๒๓๑ ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเล ๗๘๐ -๑,๔๓๐ เมตร ครอบคลุมพื้นที่จำนวน ๖ หมู่บ้าน ๓๗๑ ครัวเรือน ประกอบด้วยชาวเขาเผ่าม้ง เผ่าลีซอ คนพื้นเมืองและจีนยูนนาน นับถือศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธลัทธิผี และศาสนาคริสต์ลัทธิผี ซึ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๑
กิจกรรมการท่องเที่ยว
จุดท่องเที่ยวในศูนย์
- ม่อนแจ่ม เป็นจุดชมวิวบนสันเขาสามารถมองวิวภูเขาได้ ๓๖๐ องศา สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก ทะเลหมอกช่วงฤดูหนาว มีบริการร้านอาหาร มุมนั่งจิบกาแฟ และชาสมุนไพรสด ๗ ชนิด ด้านหน้าทางเข้าม่อนแจ่มมีร้านค้าของที่ระลึกชุมชนจำหน่ายสินค้าผลผลิตตามฤดูกาล งานหัตถกรรมชาวเขา และรถล้อเลื่อนไม้ (ฟอมูล่าม้ง)ให้นักท่องเที่ยวได้ลองขับ
- สถานีวิจัยพัฒนาพืชผักโครงการหลวง มีผักหลากหลายชนิดหมุนเวียนปลูกตามฤดูกาลเพื่อทำงานวิจัยเก็บข้อมูล เช่น อาติโช๊ค เรดโอ๊ค มะเขือเทศโครงการหลวง พืชสุมนไพร และผักไฮโดรโพนิคส์ปลูกโดยไม่ใช้ดิน
- แปลงผักแบบขั้นบันได เนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาลาดชัน ชาวบ้านก็เลยทำแปลงผักแบบขั้นบันไดเพื่อให้ง่ายกับการปลูกผัก ช่วงที่สวยที่สุดจะเป็นกลางฤดูฝนจนถึงกลางฤดูหนาว (สิงหาคม-ธันวาคม) มีผักหลากชนิด เช่น ผักกาดหอมห่อ ผักกาดขาว กะหล่ำปลี
- แปลงสาธิตไม้ผล
จุดท่องเที่ยวชุมชน
- ชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้ง ที่ยังมีการปักผ้าลวดลายต่างๆ มีการละเล่นต่างๆ เช่น การเป่าแคน โยนลูกช่วง ยิงหน้าไม้ ลูกข่างม้ง แข่งล้อเลื่อนไม้ ช่วงเทศกาลงานปีใหม่ม้งจัดช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม ชาวบ้านจะแต่งกายชุดประจำเผ่าสวยงามมาร่วมกิจกรรม บริเวณลานหมู่บ้าน
- จุดชมวิวดอยม่อนล่อง มีลักษณะเป็นหน้าผามองไปไกลๆจะเห็นถึงเมืองลำพูนเป็นที่ตั้งของศาลขุนหลวงวิลังคะตามตำนาน
- แปลงสตรอเบอรี่พันธุ์พระราชทาน (ออกผลผลิตช่วง ธันวาคม-มีนาคม ) มีหลากหลายแปลงให้นักท่องเที่ยวได้สนุกเพลิดเพลินกับการเก็บ-ชิม สตรอเบอรี่สดๆ ตลอดจนมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสตรอเบอรี่จำหน่าย เช่น น้ำสตรอเบอรี่ สตรอเบอรี่อบแห้ง
- สวนอีเดน ตั้งอยู่ซ้ายมือก่อนถึงม่อนแจ่ม ๑.๕ กิโลเมตร เป็นสวนองุ่นไร้เมล็ดของเกษตรกรที่ปลูกในโรงเรือนมีกิจกรรมให้เก็บองุ่นเอง และจำหน่ายองุ่นสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่น เช่น น้ำองุ่นสด องุ่นอบแห้ง
กิจกรรมท่องเที่ยว
- เส้นทางเดินชมสวนบริเวณในสถานีฯ
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
- สถานีเกษตรหลวงปางดะ เป็นสถานีทดลอง วิจัยการปลูกผักไม้ผลต่าง ๆ ของโครงการหลวง
- สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นแหล่งรวบรวมพืชพรรณไม้ สมุนไพร เขตร้อน ตกแต่งไว้เป็นหมวดหมู่ให้ได้ศึกษาประโยชน์คุณค่าของต้นไม้ชนิดนั้น
- ปางช้างแม่สา ปางช้างแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 version 2008 เนื่องจากมีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอปางช้างยุคใหม่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้ถึงการดูแลเอาใจใส่ที่ดีต่อช้างทุกเชือก มีหอศิลปะภาพวาดของช้าง การแสดงช้าง ให้ชม
- น้ำตกแม่สา เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ชั้นน้ำตก ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ทั่วบริเวณ ทำให้สภาพอากาศร่มรื่นเย็นสบายตลอดปี เป็นสถานที่พักผ่อนเล่นน้ำ
การเดินทาง
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ๓๙ กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ ๔๕ นาที เส้นทางหลวงหมายเลข ๑๐๗ เชียงใหม่-แม่ริม แล้วเลี้ยวซ้าย กม.ที่ ๑๗ ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๖ แม่ริม-สะเมิง ระหว่างกิโลเมตรที่ ๑๓-๑๔ จะเจอป้ายศูนย์ทางด้านขวา ขึ้นไปอีก ๖ กิโลเมตร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ๕๐๑๘
๖. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองเขียว
ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมราษฎรชาวเขาในพื้นที่ด้วยชีวิตความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นและยากจนของชาวเขา พระองค์ทรงช่วยเหลือและรับหมู่บ้านแห่งนี้ไว้ในโครงการหลวง ต่อมามูลนิธิโครงการหลวงจึงได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองเขียวขึ้น ทั้งนี้ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองเขียวมีหมู่บ้านในความรับผิดชอบคือ หมู่บ้านหนองเขียว หมู่บ้านหนองวัวแดง และหมู่บ้านใหม่สามัคคี ในท้องที่ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
กิจกรรมการท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวเชิงเกษตร
- ชมแปลงสาธิตภายในศูนย์ฯ เช่น อะโวกาโดพันธุ์ต่างๆ มะม่วง น้อยหน่า ฯลฯ แปลงผัก และงานส่งเสริมพืชไร่ เช่น งาดำ ข้าวไร่ ข้าวฟ่างกระเจี๊ยบ ฟักทองญี่ปุ่น ฯลฯ
การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
- ชมวิถีชีวิตของชาวเขา ๖ เผ่า คือ ลั๊วะ มูเซอ คะฉิ่น (บ้านหนองเขียว) ลีซอ (บ้านรินหลวง) อาข่า (บ้านใหม่สามัคคี) จีนยูนนาน (บ้านอรุโณทัย)
- ศูนย์วัฒนธรรมบ้านตัวอย่างของชาวคะฉิ่น เป็นแหล่งรวมกิจกรรม ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าประจำเผ่า โดยชนเผ่าคะฉิ่นนิยมการเต้นรำ จะมีการแสดงตามวาระสำคัญต่างๆ เช่น งานมะหน่าว จะจัดช่วงเดือนธันวาคม ในทุกๆ ๒ ปี สำหรับชนเผ่าคะฉิ่นนั้นได้ทำการอพยพมาจากประเทศพม่า ซึ่งในประเทศไทยจะมีอยู่ที่บ้านหนองเขียวแห่งเดียวเท่านั้น
การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
- น้ำตกศรีสังวาลย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแดง เป็นน้ำตกหินปูน อยู่ระหว่างถนนสายเชียงใหม่-ฝาง ประมาณ กม.๒๔
- โป่งน้ำร้อน โป่งอ่าง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอยู่ระหว่างถนนสายเชียงใหม่-ฝาง ประมาณหลัก กม.๒๒
การเดินทาง
ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ๑๒๒ กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๗ (สายเชียงใหม่-ฝาง) ถึงอำเภอเชียงดาว กม.ที่ ๗๙ แยกเมืองงาย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๑๑๗๘ สายเมืองงาย-อรุโณทัย ถึง กม.ที่ ๓๒ จะพบด่านตรวจบ้านรินหลวง เลี้ยวขวาไปอีก ๕ กิโลเมตร จะพบปากทางเข้าศูนย์ฯ เข้าไป ๑ กิโลเมตร สามารถใช้รถยนต์เดินทางได้ทุกประเภท และเส้นทางนี้ยังสามารถเดินทางต่อไปยังดอยอ่างขาง ระยะทางอีก ๔๕ กิโลเมตร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองเขียว บ้านใหม่สามัคคี หมู่ ๑๐ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ๕๐๑๗๐
๗. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง
ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง ก่อตั้งขึ้นบนพื้นที่ ๑๐ ไร่ โดยมอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบและประสานงาน ส่งเสริมการปลูกพืชให้เพียงพอแก่ความต้องการของคนในท้องถิ่น หาพันธุ์พืชชนิดใหม่ทดแทนฝิ่น ส่งเสริมการทำการเกษตรถาวร เน้นการปลูกไม้ผลเมืองหนาว ปลูกพืชระยะยาว และพัฒนาปัจจัยพื้นฐานให้มีมาตรฐานทางสังคมที่ดีขึ้น
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๐๐๐-๑,๕๐๐ เมตร มีพื้นที่รับผิดชอบ ๗๖.๙๑ ตารางกิโลเมตร หรือ ๔๕,๙๓๐.๘๘ ไร่ ครอบคลุม ๑๗ หมู่บ้าน ๑,๐๖๑ ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยงซึ่งอยู่อาศัยก่อตั้งหมู่บ้านมานานกว่า ๕๐ ปี ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน พื้นที่ราบอยู่ตามหุบเขา ต้นน้ำสายสำคัญไหลผ่าน คือลำน้ำแม่หยอดและลำน้ำปางเกี๊ยะ อุณหภูมิเฉลี่ย ๒๐ องศาเซลเซียส