แฉพระเถระแปลงเพศท่องราตรี ออฟนศ.หนุ่ม-ให้เงินแสนใช้หนี้
แฉพระผู้ใหญ่วัดดังแปลงเพศ ฉีดนม สวมบท เจ๊ดาว แต่งหญิงใส่วิกท่องราตรี แถมออฟหนุ่มนักศึกษาค้างคืนประจำ ล่าสุดติดใจเด็กหนุ่ม เคลียร์หนี้พนันบอลให้เกือบแสน จี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตรวจสอบ พร้อมสั่งฟันหากแปลงเพศจริงเพราะถือเป็น ปาราชิก
หลังจาก นายนที ธีระโรจนพงษ์ เลขานุการกลุ่มเชียงใหม่อารยะ ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมพระตุ๊ด เณรแต๋ว และพระเกย์ ใน จ.เชียงใหม่ และมีโอกาสออกโทรทัศน์หลายรายการ ปรากฏว่ามีประชาชนโทรศัพท์มาแจ้งข้อมูล เบาะแสเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก โดยนายนทีกล่าวว่า ล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 4 กุมภาพันธ์ มีนักศึกษาหญิงรายหนึ่งโทรศัพท์มาให้ข้อมูลว่า มีพระผู้ใหญ่ของวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ลำพูน มีพฤติการณ์เป็นพระตุ๊ด ออกเที่ยวกลางคืน และซื้อบริการทางเพศจากกลุ่มนักศึกษาชายเป็นประจำ ที่สำคัญพระรูปนี้ยังแปลงเพศและเสริมหน้าอกแล้ว
นายนทีกล่าวต่อว่า หากข้อมูลที่ได้รับเป็นเรื่องจริง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าละอายเป็นอย่างยิ่ง และเห็นว่าพระรูปดังกล่าว ซึ่งเป็นที่เคารพของชาว จ.ลำพูน ไม่ควรจะอยู่ในสมณเพศอีกต่อไป จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบทันที
จากคำบอกเล่าของนายนที ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" ได้ติดต่อไปยังนักศึกษาหญิงคนดังกล่าว เพื่อสอบถามรายละเอียด โดย น.ส.กวาง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ เปิดเผย "คม ชัด ลึก" ว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตนกับแฟนหนุ่มอายุ 24 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกัน มีเรื่องทะเลาะและเลิกกัน เพราะแฟนหนุ่มมีปัญหาติดหนี้พนันฟุตบอลเป็นเงินหลายหมื่นบาท กระทั่งต้นปีที่ผ่านมาได้กลับมาคบกันอีกครั้ง โดยแฟนหนุ่มบอกว่าเคลียร์หนี้พนันฟุตบอลหมดแล้ว
"ตอนแรกก็ถามแฟนว่าไปหาเงินมาจากไหน แต่ไม่ได้คำตอบ พอเค้นถามนานเข้า ในที่สุดจึงรับว่าไปนอนกับพระกะเทยมาหลายครั้ง ได้เงินมากว่า 7 หมื่นบาท โดยแฟนยอมเล่าให้ฟังว่า หลังเลิกกันก็ไปพักอยู่กับเพื่อนในหอพักแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ต่อมาเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับกะเทยคนหนึ่ง ชื่อ เจ๊ดาว อายุประมาณ 50 ปี โดยเจ๊ดาวอ้างว่าเป็นหุ้นส่วนของผับเพื่อชีวิต ตะวันแดงสาดแสงเดือน ใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และพาแฟนและกลุ่มเพื่อนไปเที่ยว รวมทั้งร้านตำนานโฟล์คเป็นประจำ พอร้านปิดก็จะพาแฟนหนุ่มเข้าโรงแรม ก่อนแยกย้ายกันกลับ" นักศึกษาสาว กล่าว
น.ส.กวาง เล่าต่อว่า ทุกครั้งที่ไปเที่ยวผับ พระรูปนี้จะแต่งตัวเป็นผู้หญิง และสวมวิกผม ครั้งแรกแฟนของตนไม่รู้ว่าเป็นพระ จึงยอมไปด้วย เพราะคิดว่าเป็นกะเทยทั่วไป โดยรับว่าที่ยอมไปนอนด้วย เพราะพระรูปนี้แปลงเพศเรียบร้อยแล้ว แถมยังเสริมหน้าอกอีกด้วย ซึ่งแฟนยืนยันว่า หากไม่แปลงเพศคงจะไม่ตกลงไปนอนด้วย เพราะไม่มีรสนิยมทางเพศแบบชายรักชาย แต่เมื่อแปลงเพศแล้วก็ยังพอรับได้ เพราะคล้ายกับผู้หญิงแท้ๆ ที่สำคัญได้เงินใช้หนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังทราบว่าพระรูปนี้ยังซื้อบริการหนุ่มนักศึกษาหน้าตาดีมาก่อนหน้านี้หลายราย แต่ละครั้งจะติดต่อทางโทรศัพท์ผ่านนักศึกษาคนหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับแฟนหนุ่มของตน
"ตอนแรกจะขอเบอร์โทรศัพท์เจ๊ดาวจากแฟน เพื่อโทรไปต่อว่า แต่แฟนสั่งห้าม โดยบอกว่า เจ๊ดาว เป็นคนกว้างขวาง ไปเที่ยวแต่ละครั้งจะมีกะเทยรุ่นใหญ่ใน จ.เชียงใหม่ ติดสอยห้อยตามหลายคน และเจ๊ดาวยังรวยมาก เพราะใช้จ่ายแต่ละคืนนับหมื่นบาท จึงไม่อยากให้ไปวุ่นวายด้วย เพราะอาจไม่ปลอดภัย" น.ส.กวาง กล่าว
น.ส.กวางยังกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ออกมาเปิดเผย เนื่องจากระยะนี้มีข่าวพระตุ๊ด เณรแต๋ว จึงเห็นว่าน่าจะเป็นโอกาสดี ที่จะมีการตรวจสอบพระรูปนี้ เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียศาสนาต่อไปได้อีก
ด้านพระอาจารย์ธีรวิทย์ ฉนฺทวิชฺโช ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากพระรูปดังกล่าวมีการแปลงเพศจริง ก็ถือว่าปาราชิก หมดจากความเป็นพระนับแต่วันที่มีการแปลงเพศ กรณีที่เกิดขึ้นถือว่าสร้างความเสื่อมเสียเป็นอย่างมากต่อพุทธศาสนา ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตำรวจเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ลงนามในคำสั่งดังกล่าว และแจ้งไปยังตำรวจภูธรทุกภาคแล้ว ทำให้ตำรวจมีอำนาจเข้าไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาทั่วประเทศ
นายภุชงค์ ชวพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่เคยมีข้อมูลมาก่อนว่ามีพระแปลงเพศใน จ.ลำพูน ขณะที่พระผู้ใหญ่ที่อ้างถึง ที่ผ่านมาก็ไม่ปรากฏพฤติการณ์ลักษณะดังกล่าวให้เห็นมาก่อน และพระผู้ใหญ่รูปนี้ยังเป็นพระอาจารย์ที่มีศรัทธาเหนียวแน่นมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูนจะดำเนินการตรวจสอบ หากมีข้อเท็จจริงก็จะมีการลงโทษตามวินัยสงฆ์และถือว่าปาราชิก แต่ยอมรับว่าในการตรวจสอบ โดยเฉพาะการแปลงเพศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากไม่มีการแปลงเพศจริงอาจมีผลกระทบต่อศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ที่สำคัญ แม้เจ๊ดาวจะเป็นพระจริง แต่ก็อาจแอบอ้างตัวเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงได้ จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ