บทสรุป ยกสุดท้ายการดีเบตผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
การดีเบตครั้งที่ 3 และเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้งชิงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัย ลาส เวกัส ในรัฐเนวาดา เวลา 21:00น. คืนวันพุธ หรือเวลา 8:00น. เช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย
ซึ่ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน และ นางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ผู้สมัครทั้งสองคนได้ถกเถียงกันใน 6 ประเด็นใหญ่ คือนโยบายคนเข้าเมือง, เศรษฐกิจ, นโยบายต่างประเทศ, ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, หนี้ภาครัฐ และ ความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
โดยการดีเบตครั้งสุดท้าย นายโดนัลด์ ทรัมป์ และ นางฮิลลารี คลินตัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันและตอบโต้กันอย่าดุเดือด ซึ่งนางฮิลลารี คลินตัน กล่าวหาว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ คือ หุ่นเชิดของ ประธานาธิบดีปูติน และทั้งสองฝ่ายต่างไม่ได้จับมือทักทายกันทั้งก่อนและหลังการดีเบตครั้งสุดท้ายนี้
นางฮิลลารี คลินตัน กล่าวว่า ปูตินต้องการให้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี เพราะว่าเขาต้องการให้หุ่นเชิดได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์เชื่อมั่นในตัวประธานาธิบดีปูตินมากกว่าเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองพลเรือนที่สาบานตนว่าจะปกป้องคุ้มครองชาวอเมริกันเสียอีก
ขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบโต้กลับไปว่า เขาเองไม่รู้จักปูติน แต่ปูตินพูดถึงเขาในเรื่องดี ๆ
ประเด็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ฮิลลารี คลินตั้น กล่าวว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องยืนหยัดเคียงข้างประชาชนอเมริกัน ในประเด็นสิทธิสตรี
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าจำเป็นต้องรักษาบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญบทที่ 2 และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ที่ตนจะเสนอชื่อจะต้องไม่สนับสนุนการทำแท้งเสรี
ในเรื่องของกฎหมายควบคุมอาวุธปืน ฮิลลารี คลินตั้น กล่าวว่าตนสนับสนุนให้มีมาตรการอุดช่องโหว่ทางกฎหมายในการซื้ออาวุธปืน
ประเด็นนโยบายคนเข้าเมือง
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหา ฮิลลารี คลินตั้น ว่าต้องการอภัยโทษให้กับคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทรัมป์ยินยันด้วยว่าตนยังยึดมั่นต่อนโยบายสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดน สหรัฐฯ - เม็กซิโก
อดีต รมต.ฮิลลารี คลินตั้น กล่าวว่าหากเธอได้รับเลือก ในช่วง 100 วันแรกในตำแหน่ง เธอจะประกาศแผนเกี่ยวกับการทำให้คนต่างด้าวสามารถได้รับสิทธิพลเมืองอเมริกันได้
ประเด็นเศรษฐกิจ
ฮิลลารี คลินตั้น กล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจของตนในการสร้างงาน สนับสนุนพลังงานสะอาด เพิ่มเพดานค่าจ้างขั้นต่ำ เพิ่มความเท่าเทียมทางรายได้ระหว่างชาย - หญิง และลดต้นทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโจมตี ฮิลลารี คลินตั้น ว่านโยบายของเธอจะเพิ่มภาษีอัตราสูงในกับคนอเมริกัน และบอกว่าตนมีความสามารถในการเจรจาการค้าและข้อตกลงต่างๆ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เจริญรุ่งเรืองภายใต้การนำของตน
โดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้กล่าวโจมตีข้อตกลงการค้าเสรีแถบอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ซึ่งลงนามในสมัยประธานาธิบดี บิล คลินตั้น ว่าทำลายเศรษฐกิจอเมริกันและการจ้างงาน
ประเด็นความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าข้อกล่าวหาจากสตรีหลายคนว่าตนทำรุ่มร่ามต่อพวกเธอนั้น เป็นเรื่องเหลวไหลที่ถูกสร้างขึ้นโดยทีมหาเสียงของ นางฮิลลารี คลินตั้น
ฮิลลารี คลินตั้น ตอบโต้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวระหว่างการหาเสียงว่าสตรีเหล่านั้นไม่ดึงดูดเพียงพอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าไม่เหมาะสมต่อตำแหน่งผู้นำประเทศ
จากนั้นผู้ดำเนินรายการถาม โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงเรื่องที่เขากล่าวหาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการกำหนดผลล่วงหน้า และถามว่าหากพ่ายแพ้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะยอมรับผลการเลือกตั้งหรือไม่? ซึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่าตนไม่พร้อมที่จะตอบคำถามนี้
ทางด้าน นางฮิลลารี คลินตั้น กล่าวว่า สหรัฐฯ มีประชาธิปไตยมากว่า 200 ปี และมีประวัติศาสตร์เรื่องการเลือกตั้งที่โปร่งใสและยุติธรรม ซึ่งคำพูดของ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังทำลายความน่าเชื่อถือนี้
ประเด็นนโยบายต่างประเทศ
ฮิลลารี คลินตั้น กล่าวว่าตนยังไม่เห็นประโยชน์ของการส่งทหารอเมริกันเข้าไปในอิรัก อดีต รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้นี้ยังได้กล่าวถึงแผนในการยึดเมืองโมซุลและปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม รวมถึงยุทธศาสตร์หลังจากนั้น
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า นางฮิลลารี คลินตั้น คือต้นเหตุของสงครามในอิรักและซีเรีย และว่าสหรัฐฯ สูญเสียการครอบครองเมืองโมซุลในช่วงที่ นางฮิลลารี คลินตั้น เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าแผนของตนในการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามนั้นเต็มไปด้วยความน่าตื่นตะลึง และว่าทั้งหมดของเรื่องนี้คือความผิดของประธานาธิบดีโอบาม่า
ประเด็นหนี้ภาครัฐ
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าแผนเศรษฐกิจของตนจะช่วยลดหนี้ภาครัฐ และกล่าวโจมตีโครงการปฏิรูประบบประกันสุขภาพของ ปธน.โอบาม่า ว่าเป็นสาเหตุของปัญหาหนี้สะสมของรัฐบาล
ฮิลลารี คลินตั้น กล่าวว่าข้อเสนอทางเศรษฐกิจของเธอจะไม่ก่อหนี้เพิ่ม และเธอจะเพิ่มอัตราภาษีสำหรับคนร่ำรวย เพื่อจัดหาเงินทุนในการช่วยเหลือคนรายได้น้อยและชนชั้นกลางในอเมริกา