ย้อนรอยพระตำหนักเขียวชัยภูมิ ครบ 61 ปี
ราษฎรชัยภูมิปลาบปลื้ม "พระตำหนักเขียว" ครบรอบ 61 ปี ย้อนรอยพระบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยือนประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ ของประเทศ โดยจังหวัดชัยภูมิก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่พระองค์ท่านทรงพระกรุณาเสด็จผ่านมาเยี่ยมราษฎรของพระองค์และประทับแรมที่พระตำหนักเขียวเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2498
เรื่องราวความซาบซึ้งในพระเมตตาที่ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจประชาชนชาวชัยภูมิตลอดมา เมื่อ นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิคนปัจจุบัน ได้พาย้อนรอยพระบาทเผยประวัติประวัติศาสตร์ พระตำหนักเขียวด้วยความปลาบปลื้มแทนราษฎรของพระองค์ว่า บันทึกประวัติศาสตร์จังหวัดชัยภูมิได้จารึกไว้ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดชัยภูมิ และได้ประทับแรมที่พระตำหนักเขียว ซึ่งปัจุบันตั้งอยู่ภายในบริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 เป็นวันครบรอบ 61 ปี ของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดชัยภูมิ
"พระตำหนักเขียว" เดิมเป็นบ้านพักของผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิสมัยนั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2498 ได้ปรับปรุงเป็นพระตำหนักที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2498 ทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินจากจังหวัดนครราชสีมา ถึงสี่แยกหนองบัวโคก แล้วหยุดประทับให้ราษฎรอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ซึ่งมีข้าราชการและประชาชนจำนวนมากเข้าเฝ้าฯ หลังจากนั้นเสด็จพระราชดำเนินหยุดประทับ ณ ที่ว่าการอำเภอจัตุรัส เพื่อให้ราษฎรอำเภอจัตุรัส เข้าเฝ้าฯ และเสด็จพระราชดำเนินถึงตัวจังหวัดชัยภูมิ เวลา 11.30 น. เสวยพระสุธารส ณ บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และเสด็จพระราชดำเนินไปประทับหน้ามุขศาลากลางจังหวัด มีราษฎรชาวชัยภูมิจำนวนมากเฝ้ารับเสด็จฯ และชื่นชมพระบารมีอย่างล้นหลาม ทรงมีพระปฏิสันถารกับราษฎรอย่างใกล้ชิด ไม่ถือพระองค์ ยังความปลาบปลื้มแก่ราษฎรผู้เข้าเฝ้ารอรับเสด็จ
หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จกลับเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ต่อไปนั้นทางจังหวัดชัยภูมิจึงได้เก็บเพื่ออนุรักษ์พระตำหนักเขียว ไว้ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าและศิลปวัฒนธรรมแห่งความภาคภูมิใจอันเป็นมงคลยิ่ง พร้อมได้จัดแสดงภาพประวัติศาสตร์ เครื่องใช้ส่วนพระองค์เมื่อครั้งเสด็จฯเยือนจังหวัดชัยภูมิ และจำลองเป็นห้องประทับ ห้องทรงงาน และห้องเสวยพระสุธารส ส่วนด้านล่างของพระตำหนัก จัดให้เป็นสถานที่เรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมด้านการทอผ้าไหมอันล้ำค่าของจังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะผ้าไหมชัยภูมิ ที่มีลายผ้าเป็นเอกลักษณ์มากกว่า 150 ลาย ซึ่งได้จัดแสดงและบันทึกไว้ในแฟ้มประวัติ ณ พระตำหนักเขียว แห่งนี้ด้วย
ขณะที่โครงการพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระองค์ได้ริเริ่มไว้เพื่อหาทางช่วยเหลือราษฏรในพื้นที่ขาดแคนน้ำกินน้ำใช้เช่น โครงการส่งเสริมศิลปาชีพทุ่งกระมังที่บ้านหนองหอย ต.กุดชุมแสง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ฝายบ้านท่าหว้า บ้านท่าหว้า ต.หนองแวง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ
สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านหนองนาแซง-บ้านโจดใต้ บ้านหนองนาแซง ต.สามสวน อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ
สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านหนองเขื่อง (กุดตุ้ม) ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
อ่างเก็บน้ำทุ่งกระมัง บ้านทุ่งกระมัง ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ อ่างเก็บน้ำบ้านคลองเจริญ บ้านคลองเจริญ ต.นางแดด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ
อ่างเก็บน้ำห้วยหินลับ บ้านโนนสะอาด ต.หนองบัวแดง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ เป็นต้น
และทฤษฏีเศรษฐกิจแบบพอเพียงต่างๆ รวมกว่า 20 แห่ง ที่มอบให้ราษฏรจังหวัดชัยภูมิได้เรียนรู้เพื่อนำไปพัฒนาและใช้ประโยชน์ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิและจังหวัดใกล้เคียงอีกจำนวนมาก โดยโครงการพระราชดำริทั้งหมดนี้ได้มีหน่วยงานเข้ามาดูแลและสานงานต่อไปขณะที่ทางจังหวัดชัยภูมิพร้อมสนับสนุนทุกโครงการฯที่พระองค์ทรงพระกรุณาทำประโยชน์ให้แก่ราษฏรของพระองค์ต่อไปอีกด้วย
ซึ่งในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 นี้เป็นวันครบรอบ 61 ปี ของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดชัยภูมิ โดยทางจังหวัดชัยภูมิได้จัดพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แสดงความรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงขอเชิญชวนข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมพิธีในครั้งนี้โดยทั่วกัน หากผู้ที่สนใจจะเข้าชมสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานจังหวัดชัยภูมิ โทร 044-811573 ในวันและเวลาราชการอีกด้วย