ฉลองพระบาทของพ่อ ต้นแบบชีวิตความพอเพียง
ชิ้นส่วนพื้นฉลองพระบาทที่ได้รับการเก็บรักษาไว้บนหิ้งบูชา ภายในร้านตัด รองเท้า ก.เปรมศิลป์ ถือเป็นสิ่งมงคลที่สุดในชีวิตของร้านตัดรองเท้าแห่งนี้ ที่มีโอกาสได้ถวายงาน "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช"
ศรไกร แน่นศรีนิล หรือ "ช่างไก่" เจ้าของร้านซ่อมรองเท้าแห่งนี้ เล่าย้อนความประทับใจเมื่อครั้งเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ถือพานใส่รองเท้าเดินเข้ามาในร้าน วางลงแล้วก็ก้มลงกราบพาน ว่าสิ่งที่เห็นตอนนั้นทำให้ตกใจ จนต้องถามออกไปว่าเอาอะไรมาให้ผม เมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นรองเท้าที่ทรงโปรดของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้ขนลุกจนบรรยายไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง เพราะร้านของเขาเป็นเพียงร้านตัดรองเท้าเล็กๆ แต่กลับได้มีโอกาสถวายงานที่สำคัญถึงเพียงนี้
ช่างไก่ เล่าว่าฉลองพระบาทคู่แรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงส่งมาซ่อมเป็นรองเท้าหนังสีดำสภาพทรุดโทรมมาก ดูแล้วใช้งานมาหลายสิบปี ภายในรองเท้าผุกร่อนหลุดลอกหลายแห่ง เช่นเดียวกับพื้นรองเท้าที่สึกอย่างเห็นได้ชัด หากเป็นคนทั่วไปคงซื้อคู่ใหม่ไปนานแล้ว แต่พระองค์ท่านยังทรงส่งซ่อมแล้วซ่อมอีก หลังจากนั้นเลยถือโอกาสตัดฉลองพระบาทถวายพระองค์ท่านเพิ่มอีก 1 คู่
"เหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุดคือ ได้ซ่อมฉลองพระบาทคู่หนึ่งซึ่งเก่ามาก หนังข้างนอกหลุดลุ่ยจนต้องเลาะหนังเก่าออก ซึ่งตอนที่เลาะออกมาเห็นรอยพระบาทนั้นตื่นเต้นมาก เคยเห็นแต่ในทีวีตอนคนไปรับเสด็จ แล้วมีผ้าเช็ดหน้ารองให้ทรงเหยียบ แต่เราเห็นรอยพระบาทปรากฏอยู่ใกล้ๆ เราจะทิ้งได้ยังไง ผมเลยเอาไปใส่กรอบแล้วตั้งเอาไว้บนหิ้งสูงสุดตกแต่งอย่างดี มีพานและผ้าคลุมพานสีเหลือง เก็บไว้บูชาในร้านเสมอมา"
ช่างตัดรองเท้า ร้าน ก.เปรมศิลป์ บอกว่า ที่ผ่านมามีโอกาสถวายฉลองพระบาทรวมทั้งหมด 15 คู่ และรับซ่อมฉลองพระบาทของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อีก 3 คู่ นับเป็นสิ่งมงคลที่สุดในชีวิต จนไม่อาจหาคำใดมาเปรียบเทียบ
สำหรับค่าซ่อมรองเท้านั้น สำนักพระราชวังให้เขียนรายละเอียดค่าใช้จ่าย แต่ผมตอบกลับไปว่าไม่สามารถรับได้ แค่ได้รับใช้พระองค์ท่านก็ถือเป็นบุญแค่ไหนแล้ว คงไม่มีพระมหากษัติริย์พระองค์ไหนในโลก ทรงงานหนักเท่าพระองค์ท่าน ขนาดรองเท้า ที่ถูกใช้งานยังทรงส่งซ่อมแล้วซ่อมอีก พระองค์ทรงเป็นต้นแบบของความพอเพียงอย่างแท้จริง หากคนไทยทุกคนเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ผมเชื่อว่าทุกคนจะมีความสุขอย่างแน่นอน