ช่างภาพเล่าเบื้องหลังสีหบัญชร "พ่อหลวง" ทรุดพระวรกายพิงพระเก้าอี้

ช่างภาพเล่าเบื้องหลังสีหบัญชร "พ่อหลวง" ทรุดพระวรกายพิงพระเก้าอี้

ช่างภาพเล่าเบื้องหลังสีหบัญชร "พ่อหลวง" ทรุดพระวรกายพิงพระเก้าอี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(20 ต.ค.) นายวสันต์ วณิชชากร ช่างภาพผู้อยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จออกมหาสมาคม ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Wason Wanichakorn เล่าถึงภาพเบื้องหลังสีหบัญชรก่อนที่พระวิสูตร (ม่าน) จะปิดลง ข้อความระบุว่า...

"เรื่องเล่าผ่านวิวไฟน์เดอร์ ช่างภาพบ้านนอก"

เมื่อครั้ง ในหลวงเสด็จออกมหาสมาคม ในพระราชพิธี 5 ธันวาคม 2555 @สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต พระบรมรูปทรงม้า

วันชื่นคืนสุข วันที่เหล่าพสกนิกรของพระองค์ต่างเฝ้ารอที่จะได้เห็น ได้ชื่นชมพระบารมี ทุกคนไม่ว่าใกล้ไกล ต่างเดินทางมาหาที่ มาจับจองพื้นที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ใครมาก่อนก็อยู่ด้านหน้า ใครมาหลังก็อยู่ถัดออกไป บางกลุ่มบางคนมานั่งจับจองพื้นที่ตั้งแต่ช่วงค่ำก่อนวันงาน

ในฐานะช่างภาพที่ต้องเข้าถวายงาน พวกเราต้องเข้าจุดที่ทางราชการจัดให้ไว้ตั้งแต่ตี 4 ตี 5 เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเข้าไปที่จุดที่กำหนดไม่ได้เลย เพราะมีประชาชนแน่นขนัดไปทุกตารางนิ้ว เราขอใช้คำว่าตารางนิ้ว เพราะคนที่ได้ไปในวันนั้นทุกคนจะสัมผัสได้ว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ

เมื่อพระราชพิธีได้เริ่มขึ้น ท่ามกลางเสียงตะโกนร้อง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ขนลุกแล้ว ขนลุกอีก แม้ตัวช่างภาพบ้านนอกจะเคยเข้าถวายงานมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งพระราชพิธีเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้

ข้าพเจ้ามองพระพักตร์ของพระองค์ท่านผ่านวิวไฟน์เดอร์ติดเลนส์เทเล่ระยะไกลขนาดใหญ่อยู่ ตลอดเวลา ไม่ทิ้งตาจากวิวไฟน์เดอร์ไปไหน ในการเสด็จออกมหาสมาคมครั้งนี้ พระองค์ท่านเพิ่งหายจากอาการประชวร พระพักตร์ของพระองค์ที่มองผ่านวิวไฟน์เดอร์ดูเหนื่อยและอ่อนล้าพระองค์รับสั่ง ด้วยพระสุรเสียงที่สั่นเทา แผ่วเบา จนข้าพเจ้าแอบน้ำตาเอ่อซึม เพราะพระองค์ท่านคงเหนื่อยทั้งกายและใจกับเรื่องราวในประเทศที่ผ่านมา

ในท้ายสุดของราชพิธี เมื่อทุกอย่างดำเนินไปเสร็จสิ้น พระที่นั่งที่ทรงประทับอยู่ก็ค่อยๆ เคลื่อนถอยหลังเข้าไปด้านใน พร้อมกับม่านที่ค่อยๆ เลื่อนมาปิดลงมา วินาทีนั้น ภาพที่มองเห็นผ่านวิวไฟน์เดอร์ผ่านเลนส์ถ่ายภาพระยะไกล 600 มม. "พระองค์ท่านค่อยๆ ไหลทรุดพระวรกายลงไปกับที่พิงของเก้าอี้พระที่นั่ง" ด้วยชุดคลุมทองทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ พร้อมเครื่องแบบเต็มยศ ที่มีน้ำหนักถึง 20 กิโลกรัม ที่เพิ่งได้รับรู้ข้อมูลมาจากกรมวัง ในวันที่ได้เข้าไปถ่ายภาพพระราชพิธีสรงน้ำพระบรมศพในวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โอ้...พระองค์ท่าน เครื่องทรงที่มีน้ำหนักมากถึง 20 กิโลกรัม พระองค์ทรงขืนพระวรกายที่ยังไม่แข็งแรงดีของพระองค์ ยันพระองค์เองเอาไว้ด้วยเวลาเนิ่นนานหลายชั่วโมง ท่ามกลางแสงแดดร้อนที่สาดส่องทั่วบริเวณ เพียงเพื่อให้ประชาชนของพระองค์ได้เห็น ได้ชื่นชมพระบารมี

หลังวิวไฟน์เดอร์ ที่เคยมีน้ำตาที่แค่เอ่อๆ แต่ไม่ไหลล้น คราวนี้มันไหลล้นออกมาพร้อมเสียงสะอื้นไห้ "ผมรักในหลวงเหลือเกิน"

#ช่างภาพบ้านนอก #เรารักในหลวง #ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook