คู่รักดารา เอมี่ ซี และ เมย์ เจ ชวนกันมาทำดีถวายพ่อหลวง
ยังคงทยอยเดินทางมาทำงานจิตอาสาที่ท้องสนามหลวงอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำความดี แจกจ่ายอาหารและเครื่องดื่มให้กับประชาชนที่เดินทางมาถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำหรับคนในวงการบันเทิง สำหรับในวันนี้ (21 ต.ค.) มี 2 คู่รักดารา เอมี่ กลิ่นประทุม, ซี ศิวัฒน์,เมย์ พิชญ์นาฏ และ เจ ชนาธิป นักฟุตบอลทีมชาติไทย เดินทางมาทำดีถวายพ่อหลวง พร้อมเปิดใจว่า
เอมี่: "เพื่อนๆ ชวนกันมา ก็มีแจกข้าว แจกน้ำ แจกทิชชู่ คอยช่วยอำนวยความสะดวกและคอยสร้างกำลังใจให้กันเพราะทุกคนกำลังเศร้า ก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราพอทำได้เราก็จะนำมาสมทบ มีไก่ทอด ข้าวเหนียวด้วย ส่วนตัวมี่ได้ทำบราวนี่มาแจกเท่าที่พอจะทำไว้ค่ะ"
ได้เห็นน้ำใจคนไทยที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันในตอนนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
ซี: "ตั้งแต่เกิดเรื่องเราก็คิดว่าต่อจากนี้ความรู้สึกของเราจะเป็นยังไง ความรู้สึกเกิดขึ้นสองอย่างครับ อย่างแรกเราควรจะเสียใจไหมที่พ่อต้องมาจากเราไป หรือกับอีกอย่างที่เราต้องดีใจเมื่อเห็นคนไทยกลับมารักกันกว่าเดิมด้วยซ้ำ ผมว่าวันนี้ความรู้สึกมันได้เกิดขึ้นทั้งสองอย่าง แต่ในฐานะที่เราเป็นคนไทยและพูดภาษาไทยเหมือนกัน เราต้องแสดงความจงรักภักดี แสดงความรักที่มีให้กันมากกว่าเดิม และทำหน้าที่ของพสกนิกรชาวไทยต่อไปให้ดีที่สุด
ผมว่าวันนี้มันเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งครับที่ได้เห็นว่าคนไทยรักพ่อมากขนาดไหน เราก็แค่เป็นส่วนหนึ่งที่มาให้กำลังใจ อีกอย่างพ่อแม่พี่น้องที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเขาไม่ได้เตรียมตัวอะไรมามากแต่อยากจะมากราบพ่อ เพราะฉะนั้นในฐานะที่เราเป็นคนเมืองอยู่ที่กรุงเทพฯ เรามีการเตรียมตัวที่ง่ายกว่า เราแค่มาช่วยอำนวยความสะดวกแค่นั้นเองมันไม่ได้มีอะไรมากเลย
หลังจากเสร็จภารกิจนี้เราต่างคนก็ต่างต้องกลับไปรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองในฐานะคนไทยต่อไป ปฏิบัติ บูชาต่อไป มีโครงการในพระราชดำริ หรือพระบรมราชโอวาทอะไรที่เราสามารถปฏิบัติได้เราก็ต้องทำต่อไป วันนี้เหมือนเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเราร้องเจ็บช้ำ เรา
ส่วนตัวมีความผูกพันในตัวพ่อหลวงอย่างไรบ้าง?
ซี: "ต้องบอกว่าโชคดีที่สุดในโลกเลย ที่ผมมีโอกาสได้เขียนบทความตั้งแต่วันที่ทราบว่าพระองค์ท่านจากเราไป ผมมีโอกาสได้ทำโครงการอยู่หลายโครงการมาหลายปีมาก ได้อ่านข่าวในพระราชสำนัก ได้ดูพระบรมราชโอวาทหลายๆ ตอน มันทำให้เราอินเข้าไปในสายเลือดมากแล้ว ถ้าใครถามว่ารักพ่อมากแค่ไหน ผมต้องบอกว่าคงต้องใช้เวลาในทั้งชีวิตในการบอก เราโชคดีมากที่ได้เกิดในช่วงรัชกาลที่ 9 และผมโชคดีมากที่มีโอกาสได้เห็นท่านทรงงานด้วยตาของเราเอง
เพราะฉะนั้นไม่รู้จะบอกว่าผูกพันจนไม่รู้จะผูกพันยังไงแล้ว ผมได้ทำโครงการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมา 4 ปีแล้ว ได้เห็นมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 38 ที่ท่านเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการแก้มลิง โครงการฝนหลวง หรือโครงการอะไรต่างๆ ผมเชื่อว่าคนไทยบางคนที่ไม่ได้รู้จักท่านก็จะรู้จักท่านมากขึ้น คนไทยท่านใดที่ไม่ได้รักท่านมากก็จะรักท่านมากขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน คือมันต้องสัมผัสด้วยตัวเอง ต้องมองด้วยตาตัวเองจริงๆ วันนี้ผมไม่อยากจะบอกว่าผมรักท่านมากแค่ไหน แต่ผมอยากจะปฏิบัติให้เห็นมากกว่าว่าความรักที่ผมมีให้ในฐานะคนไทยคนนึงอยากจะสืบสานและส่งต่อ ตรงนั้นต่างหากที่จะเป็นเครื่องวัดว่าผมรักพ่อมากแค่ไหน"
เคยมีโอกาสถวายงานเพื่อพระองค์ท่านบ้าไหม?
ซี: "ตลอดครับ อย่างที่บอกจะทำเกี่ยวกับโครงการในพระราชดำรัสของในหลวง คือถ้าวันนี้จะพูดเดี๋ยวมันจะเหมือนเรามาโฆษณาตัวเองว่าทำอะไรมาบ้าง ผมว่าวันนี้ผมไม่ต้องบอกหรอกครับว่าผมทำอะไรมาบ้าง แต่จะบอกว่าผมจะทำอะไรต่อไปดีกว่า ผมจะปฏิบัติมันต่อไป และสิ่งที่ผมมีความรู้เกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผมจะนำไปสืบทอดและส่งต่อคนรุ่นหลังว่าโครงการที่เราอยู่ดีกินดีจนถึงทุกวันนี้ใครเป็นคนต้นคิด"
เรามีความประทับใจด้านไหนเกี่ยวกับพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่าน?
ซี: "ในเรื่องของแง่คิดทุกๆ อย่างเลยครับ อย่างปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมันเป็นปรัชญาแห่งการหลุดพ้น เป็นปรัชญาแห่งการเมตตาจริงๆ ถ้ามนุษย์เราทุกคนยอมรับในข้อนี้ได้คุณคงไม่ต้องเป็นทาสของเงินทอง หนี้สิน เพราะคุณสามารถปลูกเอง กินเอง และเก็บไว้ดูแลซึ่งกันและกันได้เองโดยไม่ต้องหวังพึ่งใครแล้ว เหมือนมันเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดแล้วครับ"
ในสถานการณ์ที่โศกเศร้าแบบนี้ เราให้กำลังใจกันอย่างไรบ้าง?
เอมี่: "อย่างที่คุณซีบอกว่าพอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทำให้รู้ว่าทุกคนรักกันมากขึ้น ทุกคนพร้อมใจอยากที่จะมากราบ เป็นอีกครั้งนึงในชีวิตที่มีโอกาสได้มาอยู่ตรงนี้ เราก็ดีใจที่เห็นทุกคนตรงนี้ ทุกวันนี้เราได้เห็นคลิปพระราชกรณียกิจต่างๆ มันทำให้เรารู้จักท่านมากขึ้น ได้เห็นว่าท่านทรงทำอะไรมากกว่าเดิม จากที่ปกติที่เราเห็นแต่อาจไม่ได้ตั้งใจดูจริงๆ พอวันนี้เราได้ตั้งใจดูมันทำให้เรารู้สึกว่าเราโชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดมาในช่วงสมัยนี้ เราคงไม่มีวันเจอกษัตริย์แบบนี้อีกแล้ว (น้ำตาคลอ)"
ด้าน ดาราสาวชื่อดัง เมย์ พิชญ์นาฏ เปิดเผยว่า "วันนี้มาแจกพัด กระดาษทิชชู่ ลูกอม และยาดมค่ะ เมย์มาตอนสี่โมงเย็น เจก็มาด้วยช่วยแจกด้วยค่ะแต่อยู่อีกซุ้มนึง พอดีเขาแจกเสร็จก่อนเลยได้แวะมาช่วยเราค่ะ"
เห็นว่าที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปช่วยย้อมผ้าด้วยใช่ไหม?
"ใช่ค่ะ ไปช่วยย้อมผ้าตรงกรุงไทยเทคเตอร์ ซึ่งตรงนั้นสารเคมีแรงมาก แต่พอได้เห็นคิวคนที่มารอเยอะทำให้เราเลิกไม่ได้ก็ต้องทำต่อไปค่ะ เมย์ได้ชวนเจมาทำอีกวันด้วยค่ะ"
กับที่นี่เรามีโอกาสได้มากี่ครั้งแล้ว?
"วันนี้เป็นวันที่สองค่ะ แต่พรุ่งนี้ก็กะจะมาร้องเพลงด้วยค่ะ คือเมย์มาครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วยังไม่มีโอกาสได้ไปกราบตรงกำแพงเลย อยากไปค่ะ"
ได้เห็นประชาชนยังหลั่งไหลมาถวายความอาลัยอย่างต่อเนื่อง เราเห็นแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง?
"ปลาบปลื้มค่ะ คนไทยมีน้ำใจ วันนี้ที่เมย์เอาของมาแจกถือว่าเป็นอะไรที่เล็กมากๆ เพราะยังมีคนมาแจกเยอะกว่าเมย์เยอะ ซึ่งบางคนก็มาตั้งแต่เช้า ก็ถือว่าร่วมด้วยช่วยกันค่ะ เมย์ภูมิใจมากที่ได้เกิดมาบนแผ่นดินนี้ที่ทุกคนก็รักพ่อหลวงค่ะ"
ความประทับใจอะไรบ้างที่เรามีต่อพระองค์ท่าน?
"โห พระราชกรณียกิจของท่านมีเยอะมาก ตอนนี้โซเชียลต่างแชร์เรื่องของพระองค์ท่านเยอะมาก เรื่องบางเรื่องที่เราไม่เคยรู้ว่าท่านทำอะไรบ้าง เราก็เพิ่งได้รู้ เราร้องแต่เพลงชาติแต่เราไม่เคยรู้ว่าจริงๆ พระองค์ท่านทำอะไรให้บ้าง พอได้เปิดเข้าไปดูถึงเพิ่งรู้ว่ามันเยอะกว่าที่เราคิดไว้มากๆ จนเมย์รู้สึกว่าเมย์ไม่รู้จะทดแทนบุญคุณของพระองค์ท่านและประเทศชาติยังไง ถ้าจากนี้มีอะไรที่ช่วยกันได้เราก็ต้องช่วยกันค่ะ"
มีคำสอนไหนที่เราน้อมนำมาปฏิบัติต่อชีวิตประจำวันบ้าง?
"น่าจะเป็นความพอเพียงค่ะ จริงๆ เราทุกคนมีความอยากได้ อยากมีอยู่แล้ว แต่เราจะอยู่ยังไงให้มีความสุข เราต้องรักสามัคคีกัน รู้จักพอเพียง และรู้จักแบ่งปัน รู้จักการให้ค่ะ"
แต่ก็ยังมีกลุ่มมิจฉาชีพใช้เหตุการณ์นี้แอบอ้างชื่อดาราเพื่อหลอกลวงประชาชนกันเอง?
"เมย์เห็นแล้ว พี่อั้ม พัชราภาโดน คืออยากจะบอกอย่างแรกว่ามันบาปมากนะคะ และอย่างที่สองมันแย่มากๆ มาหากินในช่วงที่ทุกคนกำลังโศกเศร้ามันไม่ดีเลยค่ะ ไม่อยากให้ทุกคนทำ ส่วนคนที่ทำหากใครรู้เบาะแสก็ให้ช่วยกันแจ้งด้วย เมย์ว่าไม่ควรปล่อยคนแบบนี้อยู่ค่ะ"
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ