รวมกองทัพดาราเดินหน้าทำจิตอาสา ถวายพ่อหลวง
ยังคงทยอยเดินทางมาทำงานจิตอาสาที่ท้องสนามหลวงอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำความดี แจกจ่ายอาหารและเครื่องดื่มให้กับประชาชนที่เดินทางมาถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำหรับคนในวงการบันเทิง สำหรับในวันนี้ (21 ต.ค.) ได้มีดารา นักร้องชื่อดังเดินทางมาเป็นจำนวนมาก
เริ่มกันที่ดารานักร้องชื่อดัง "ฟิล์ม รัฐภูมิ" เปิดเผยว่า "เราเห็นทุกคนเศร้ากันอยู่ก็เลยอยากจะมาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับคนไทย อยากทำให้พี่น้องชาวไทยที่กำลังเศร้าโศกรู้ว่ายังมีพวกเราศิลปินที่อยู่ในผืนแผ่นดินไทย ยังมาให้กำลังใจทุกคนอยู่ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องช่วยกันถึงจะผ่านเวลาที่เศร้าโศกเสียใจนี้ไปได้ อีกอย่างพ่อหลวงของเราก็คงไม่อยากให้คนไทยเศร้า"
"และจริงๆ วันนี้ผมไม่ได้นัดใครเลยนะครับ แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ดารานักแสดงทุกคนที่เข้าไปดูอินสตาแกรมของผมที่ได้โพสต์เอาไว้ว่าจะออกมาแจกของ อีกอย่างด้วยสถานการณ์ตอนนี้ที่มีคนนำของมาแจกเยอะมากจนทำให้พ่อค้าแม่ค้าในละแวกนี้ขาดรายได้ ซึ่งผมเองก็รู้สึกสลดเลยไปขอจ้างพ่อค้าแม่ค้าแถวรอบบริเวณสนามหลวงให้มาช่วยขายให้ผม
วันนี้ผมก็เลยจ้างร้านค้าจำนวนกว่า 10 ร้าน ให้มาช่วยทอดไก่ ทำขนมเบื้อง นึ่งข้าวเหนียว รวมถึงต้องขอบคุณผู้ที่มีจิตศรัทธาหลายๆ ท่านที่ส่งของมาช่วยเหลือเยอะแยะมากมายดีใจมากครับ และคุณแม่ผมท่านก็ช่วยทำยาหม่องมาแจกด้วย เพราะท่านเห็นว่าที่สนามหลวงตอนนี้มีคนเฒ่าคนแก่มากันเยอะ"
"เห็นคนไทยรักกันแบบนี้ผมก็ดีใจมากครับ แต่ก็สงสารพี่ทหารเพราะต้องมาคอยกันให้พวกเราเนื่องจากรอบๆ บริเวณค่อนข้างวุ่นวาย แต่ทุกคนก็อยู่ด้วยบรรยากาศที่มีความสุข ผมเชื่อว่าทุกคนต้องการที่จะเห็นรอยยิ้มแบบนี้"
"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเป็นแบบอย่างในทุกๆ เรื่อง และสำหรับผมสิ่งที่ผมยึดเป็นหลักและเป็นแบบอย่างมาเสมอนั่นก็คือความเพียรพยายามของพระองค์ท่าน ทั้งในด้านของงานแสดงและงานธุรกิจ ผมไม่เคยมีคำว่าท้อ และผมก็ตั้งใจไว้ด้วยว่าจะทำดีเพื่อพระองค์ท่านต่อไป ซึ่งในเดือนหน้านี้เป็นเดือนเกิดของผมด้วย ผมก็เลยวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะสร้างบ้านถวายพ่อ เป็นการสร้างบ้านเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้"
"ตอนนี้หลังจากสืบค้นข้อมูลมาก็ได้สถานที่แล้วเป็นแถวๆ ลำลูกกา เอาไว้มีความคืบหน้าอะไรจะออกมาแจ้งพี่ๆ สื่อมวลชนกันอีกทีครับ แต่ที่ผมตั้งใจไว้ก็คือจะสร้างบ้าน 1 หลัง เพราะบ้าน 1 หลัง ใช้งบโดยประมาณ 250,000 บาทครับ"
"สำหรับตัวผมเองตอนนี้หยุดงานหมดทุกอย่างครับ ว่างงาน แต่ก็ดีครับได้อยู่กับครอบครัวและวันนี้ก็ได้พาคุณแม่มาช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยกันด้วย ถามว่าจะหยุดนานแค่ไหน อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าสภาพจิตใจของแต่ละภาคส่วนทั้งรัฐบาลและเอกชนจะกลับมาพร้อมตอนไหน แต่ถามว่ามีผลกระทบอะไรผมไหม จริงๆ ก็ไม่เลยนะครับ มันเป็นผลกระทบของคนไทยทั้งประเทศมากกว่า ซึ่งเราต้องช่วยกันให้เตือนตัวเองในการก้าวไปข้างหน้า เราสามารถเศร้าโศกเสียใจได้ครับแต่ว่าไม่ควรนาน เพราะว่ามันจะดึงทั้งเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของเราทุกสิ่งทุกอย่างให้ลงตามไป เพราะฉะนั้นเราต้องรีบช่วยกันให้ฟื้นกลับคืนมา ให้ก้าวต่อไปให้ได้ครับ"
ขณะที่ "น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา" ก็เปิดใจถึงความรู้สึกที่มีต่อพ่อหลวงว่า "พระองค์ท่านทรงเป็นทุกอย่างของคนไทยจริงๆ ในช่วงนี้ผมมีโอกาสได้ทำรายการพิเศษ เกี่ยวกับบุคคลที่เคยเข้าเฝ้าถวายงานท่าน ได้ฟังเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับพระองค์ท่าน ที่คนไทยหลายคนยังไม่รู้ ไม่ว่าจะเป็นพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรี ศิลปะ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์และความสามารถทางภาษา ทรงมีความสามารถด้านกีฬา เป็นความรู้สึกที่ภาคภูมิใจมาก ที่ได้เกิดมาในรัชสมัยของท่าน ผมได้แต่บอกตัวเองว่าทั้งชีวิตที่เหลืออยู่จะต้องศึกษาและเดินตามรอยพระองค์ท่าน ผมไม่เคยโชคดีที่มีโอกาสถวายงานใกล้ชิดท่านหรือเข้าเฝ้าพระองค์ท่าน ได้แต่อิจฉาคนที่ได้มีโอกาสทำให้พระองค์แย้มพระสรวล"
"ถามว่าผมจะนำเอาหลักคำสอนข้อใดของพระองค์ท่านมาใช้ในชีวิต ก็คงต้องเป็นเรื่องของความพอเพียง เราสามารถนำหลักนี้มาใช้ได้ในทุกระดับชั้น คำว่าพอเพียงหมายถึงทุกเรื่องในชีวิต เป็นคนดี พลเมืองดี ไม่สร้างความเดือดร้อน และสามัคคี เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องท่องจำให้ขึ้นใจ ตอนนี้เป็นเวลาที่คนไทยทุกคนเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ถ้าสามารถกราบบังคมทูลด้วยจิตภาวนาถึงพระองค์ท่านได้ ก็อยากจะขอบคุณที่พระองค์ท่านทำเพื่อพวกเรามาโดยตลอด"
ด้าน พระเอกชื่อดัง "อ๋อม อรรคพันธ์" ซึ่งในวันนี้เดินทางมาทำหน้าที่จิตอาสา ด้วยการช่วยเก็บขยะ กล่าวว่า "วันนี้ผมก็มาทำหน้าที่เป็นจิตอาสาเก็บขยะครับ รวมถึงมาแจกริบบิ้นด้วย ซึ่งบรรยากาศที่ผมได้เห็นในวันนี้คือมันก็เป็นความตื้นตันในความโศกเศร้านะ ได้เห็นคนไทยรักกันสามัคคีกันยิ่งพอมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมันก็ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าทุกคนช่วยเหลือกันจริงๆ มันคือการปลอบในซึ่งกันและกัน และมันก็คือสิ่งที่ดีที่สุดเลยครับในช่วงเวลานี้"
"สำหรับคำถามของชาวต่างชาติหลายคนที่อาจจะสงสัยว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวง ผมก็อยากจะบอกนะครับว่า คนที่เขาได้มาเห็นคนไทยทุกคนในตอนนี้เขาน่าจะสัมผัสถึงความรู้สึกสัมผัสถึงแววตาของคนไทย ณ ตอนนี้ได้ว่าคนไทยเรามีศูนย์กลางเดียวกันซึ่งก็คือพระองค์ท่าน ผมเชื่อว่าถ้าชาวต่างชาติได้เห็นเขาต้องได้อะไรดีๆ กลับไป รวมถึงได้ความประทับใจกลับไปแน่นอนครับ"
ส่วน นางเอกชื่อดัง "เชียร์ ฑิฆัมพร" ซึ่งเดินทางมาทำหน้าที่จิตอาสาอีกครั้ง กล่าวว่า "เชียร์ก็พยายามมาทุกวันเท่าที่มาได้นะคะ ช่วงนี้สภาวะทางใจทุกคนก็อาจจะรู้สึกลงๆ กันไปบ้าง แต่เชียร์ก็เชื่อว่าทุกคนสามารถเข้มแข็งได้ หน้าที่ไหนที่เราต้องทำเราก็ต้องดำเนินต่อไป ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดตามที่พ่อสอนไว้ ซึ่งส่วนตัวเชียร์เองแล้วเชียร์จะชอบมาช่วงเวลาดึกๆ เสร็จงานเมื่อไหร่ก็จะรีบมาเพราะเชียร์รู้สึกว่าเชียร์คิดถึงพระองค์ท่าน อยากจะมาอยู่ใกล้ๆ พระองค์ท่านให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้"
"หากเชียร์สามารถบอกอะไรกับพระองค์ท่านได้ เชียร์ก็อยากนะบอกว่าเชียร์รักท่านมาก รักค่ะ รักสุดๆ เลย รักและเทิดทูนที่สุดในชีวิต ชีวิตของเชียร์เองก็เป็นลูกคนหนึ่งที่เทิดทูนพระองค์ท่านสุดหัวใจมากๆ แต่เหนืออื่นใดก็รู้สึกดีอยู่อย่างหนึ่งที่พระองค์ท่านทรงหายเหนื่อย ทรงได้พักผ่อน เชื่อค่ะว่าทุกคนอยากอยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่านตลอดไป แต่ว่าสัจธรรมของโลกยังไงแล้วมันก็ต้องมีสักวันที่เราจะต้องลาจากกัน ฉะนั้นสิ่งที่พระองค์ทรงทิ้งไว้ให้เราทุกคน เราก็จะยึดถือและปฏิบัติตามไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ สัญญาค่ะว่าจะทำทุกๆ อย่างที่พ่อทำให้ดีที่สุดค่ะ"
ปิดท้ายที่ดาราสาว "ครีม เปรมสินี" ซึ่งในวันนี้ได้มีโอกาสมาทำหน้าที่จิตอาสา กล่าวว่า "จริงๆ ตลอดอาทิตย์หนึ่งที่ผ่านมาตัวครีมเองยังไม่มีโอกาสได้มาแจกของนะคะ แต่ครีมก็มาที่สนามหลวงทุกวัน และพอวันนี้มีเพื่อนๆ ชวนให้เรามาช่วยทำของมาช่วยแจกของก็เลยได้มา ซึ่งพอได้มาเห็นน้ำใจคนไทยแบบนี้เราเองก็ตื้นตันนะคะ และถึงแม้ในอนาคตเหตุการณ์นี้จะผ่านไปแล้วครีมก็ยังอยากให้ทุกๆ คนจำความรู้สึกนี้เอาไว้ อยากให้คนไทยรู้สึกสามัคคีและกลมเกลียวกันแบบนี้ตลอดไปค่ะ"
"ต่อจากนี้ไปครีมก็คงจะนำพวกปรัชญาชีวิตหรือสิ่งที่พระองค์ท่านสอนมาปรับใช้ นั่นคงเป็นสิ่งที่เราพอจะทำได้ อย่างเช่นพวกความพอเพียง ความประหยัด ความสามัคคี ครีมเชื่อว่าคำสอนทุกอย่างยังอยู่ในใจของพวกเราค่ะ"