คนบันเทิงร่วมใจถวายอาลัย ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี

คนบันเทิงร่วมใจถวายอาลัย ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี

คนบันเทิงร่วมใจถวายอาลัย ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(22 ต.ค.) คนบันเทิงก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เดินทางเข้าร่วมแสดงพลังประสานเสียงขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่บริเวณหน้าพระลาน กำแพงมหาราชวัง ท้องสนามหลวง ซึ่งจะมีการบันทึกภาพเพื่อแสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เพราะมีประชาชนนับแสนคนร่วมร้องเพลงจนดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ

โดยกองทัพคนบันเทิงที่มาร่วมบันทึกอีกหน้าของประวัติศาสตร์ อาทิ มด ณปภัช, แก้ม-โดมเดอะสตาร์, ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, นิว วงศกร, เอส กันตพงศ์,กุญแจซอล ป่านทอทอง และดาราอีกคับคั่ง

(ฟลุ๊ค จิระ)

ด้าน "ฟลุ๊ค จิระ" เผยความรู้สึกหลังได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีว่า "ก่อนหน้านี้เคยมาสักการะเองเมื่อคืนวันที่ 15 มากับเปิ้ลและเพื่อนๆ ส่วนวันนี้ความรู้สึกก่อนและหลังถ่ายทำมันคนละแบบเลย ก่อนถ่ายทำรู้สึกว่าคนเยอะจังเลย แต่ก็ได้ร่วมจารึกประวัติศาสตร์ว่าคนไทยมารวมตัวเยอะขนาดนี้เพื่อแสดงพลังเพื่อพ่อหลวง พอเริ่มได้ร้องเพลงสรรเสริญฯจริงๆ เรารู้สึกได้ถึงความตั้งใจของคนรอบตัว ขนาดเวลาอยู่ในกองถ่ายที่มีคนเยอะๆ ยังมีคนเล่นอะไรกันบ้าง แต่ทุกคนที่มาวันนี้ตั้งใจ"

"ได้ฟังเสียงพี่อั้ม พี่นัทพูดบนเวที ทุกคนก็ตั้งใจอยากให้ออกมาดี บางคนถือโทรศัพท์ขึ้นมา คนข้างๆ ก็บอกว่า คุณเอาลงหน่อย พูดให้กันแบบดีๆ มันเห็นถึงความตั้งอกตั้งใจของประชาชน แต่ที่เห็นชัดเจนมากคือความมีน้ำใจ ทุกคนไม่รีรอที่จะช่วยเหลือคนที่ป่วย คนใส่สูทแบกคุณป้าหนักๆ พอบอกว่ามีคนป่วยทุกคนก็เปิดทางแหวกเลย เราไม่เคยเห็นภาพแบบนี้"

"ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าคนไทยมีน้ำใจ แต่พออยู่บนท้องถนนมีรถพยาบาลเปิดไซเรนก็ไม่มีคนหลบทางให้ แต่วันนี้พอได้เห็นคนเจ็บทุกคนต่างพร้อมใจหลบให้ ทุกคนคอยช่วยเหลือกัน"

"ได้มาเห็นภาพวันนี้แล้วผมรู้สึกดีมาก ผมไม่ได้มาเก็บแค่บรรยากาศ แต่เป็นโมเม้นต์ที่ควรเก็บไว้ในใจคนไทยทุกคน ว่าถ้าเกิดวันนึงเราทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรก็ตาม อยากให้คนไทยกลับมามองความรู้สึกวันนี้ ทุกคนใส่เสื้อสีดำ ไม่มีเสื้อสีไหน ไม่มีความแตกแยก ทุกคนมาแสดงใจว่ารักประเทศชาติ รักในหลวง อยากให้กลับมามองภาพนี้ แล้วความบาดหมางที่มีมันจะเบาบางลง อยากให้ทุกคนนึกวันนี้ นึกถึงภาพความลำบากที่เราทำร่วมกัน"

ความรู้สึกขนาดที่เราเปล่งเสียงร้องออกมาเป็นอย่างไรบ้าง?

"ส่วนตัวผมเคยร้องเพลงเทิดพระเกียรติหนึ่งเพลง คือเพลงพ่อของลูก ช่วงปี 2557 เป็นปีที่พระองค์ท่านทรงประชวร ได้มีการทำเพลงขึ้นมา ท่อนที่ผมได้ร้องคือ 'ได้ข่าวพ่อไม่สบาย ลูกไม่อาจหลับตา' ซึ่งผมก็ร้องไม่ผ่านเสียที คิดว่าตัวเองร้องไม่เพราะ เราได้พยายามดีไซร์การร้องหลายแบบแต่ก็ไม่ผ่าน พี่บั๋ง สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา โปรดิวเซอร์ก็เรียกออกมาคุยกัน บอกว่าพี่ไม่ได้ต้องการให้เพลงออกมาเพราะ แต่พี่ต้องการให้เพลงออกมามีความหมาย ให้นึกถึงว่าทำไมพ่อป่วยแล้วเราถึงรู้สึกไม่ดี เพราะพ่อคนนี้ทำอะไรเพื่อประเทศชาติบ้าง ทำอะไรมาบ้าง นึกถึงว่าประเทศไทยเจริญมาขนาดไหนเพราะท่าน และท่านเหนื่อยขนาดไหนเพื่อเราทุกคน พอเราได้นึกย้อนกลับไปร้องครั้งเดียวผ่านเลย ร้องจากใจ เราถึงนำมาใช้ในวันนี้"

"ตอนร้องรอบแรกที่เป็นการซ้อมผมก็ไม่ไหวแล้ว น้ำตาไหล แต่รอบต่อมาเราก็ตั้งใจมาก คนข้างๆ จะทำอะไรเราก็ไม่สน พอรอบที่สามมันมาจากใจจริงๆ ทุกท่อนทุกประโยค โดยไม่ได้สนใจว่ามีกล้องตัวไหนมาจับ ผมอยู่กับตัวเองและรังรู้ถึงความรู้สึกของคนรอบข้าง คุณป้าข้างๆ ร้องด้วยความเสียใจ ต้องหันไปปลอบ ซึ่งผมก็ร้องไห้ด้วย มันเป็นบรรยากาศที่คนไทยได้ปลอบใจซึ่งกันและกัน ทำให้ประชาชนได้เข้มแข็ง มันเหมือนชีวิตจริง ถ้าพ่อเราจากไปเราก็ต้องยืนให้ได้ด้วยตัวเอง และเราต้องทำให้พ่อเรามันใจว่าเราอยู่ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องรวมพลังเพื่อเดินหน้าต่อไปอย่างเดียว โศกเศร้าได้ ไว้อาลัยได้ แต่ต้องกลับมาทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด"

ถามถึงความรู้สึกของแอปเปิ้ล แฟนสาว เป็นอย่างไรบ้าง?

"แอปเปิ้ลอยู่เมืองไทยมา 10 ปี ช่วงแรกๆ เขาก็สงสัยไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมคนไทยรักในหลวง ในหลวงมีความสำคัญยังไงกับคนไทย ไม่เหมือนกับประเทศเขา ผมเลยบอกว่ามันบอกเป็นความรู้สึกไม่ได้เหมือนกัน เพราะพี่เกิดมาก็ถูกซึมซับโดยพลังของคนรอบข้าง พลังจองความจงรักภักดีความรักที่มีต่อท่าน"

"ตอนเด็กๆ ผมจัดบอร์ดนิทรรศการผมก็ไม่รู้หรอกว่าท่านทำอะไรมา ต้องไปเปิดหาข้อมูล แต่เดี๋ยวนี้เปิ้ลดูอินเตอร์เน็ต เปิ้ลก็รู้หมดแล้วว่าท่านทำอะไรมาบ้าง ยิ่งทุกวันนี้ยิ่งเต็มในฟีดของเฟซบุ๊ก ก็ค่อยๆ บอกเปิ้ลจนเขาซึมซับไปเรื่อยๆ จนวันที่ 13 เปิ้ลก็ร้องไห้ไปกับผม ทั้งที่เขาไม่ใช่คนบ้านเรา แต่พลังของคนที่มันอยู่ใกล้กันมันรู้สึกได้ ยิ่งคนไทยเองยิ่งรู้สึกต่อท่านแบบคณานับไม่ได้"

เราได้นำหลักคำสอนเรื่องอะไรของพระองค์ท่านมาใช้ในชีวิตบ้าง?

"คำสอนของท่านมักพูดถึงคนหมู่มาก พูดถึงการให้ เศรษฐกิจพอเพียง แต่ที่เคยได้ยินเฉพาะกลุ่มในวัยทำงานคือเรื่องความอดทน ถ้ามีความอดทนในการทำงานยังไงก็ทำงานนั้นได้ แม้งานนั้นจะยากแค่ไหนก็ตาม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนเพิ่งเรียนจบและเพิ่งเริ่มทำงาน สำหรับผม ผมทำบริษัทคลินิกที่มีพนักงานผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเยอะมาก ผมก็ยกพระราชดำรัสของท่านไปบอกพนักงาน"

"ผมคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงนี้เป็นวิกฤตที่มีความวิเศษ เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่แค่ทำให้คนไทยกลับมารักกันมากขึ้น มันมากจริงๆ ผมไม่เคยเห็นภาพแบบนี้เลยที่คนมาสนามหลวงเพื่อมาช่วยเหลือกัน จนซับพลายมากกว่าดีมานด์ คือให้มากกว่าได้รับ"

"เมื่อวานผมดูข่าวประทับใจมาก กลุ่มนักเรียนอาชีวะที่เคยขีดเขียนบนฝาผนังเละแถวบางปู สมุทรปราการ ร่วมมือกันสองสถาบันเพื่อลบสิ่งที่ตัวเองเขียน มันขนลุกมาก เขาคิดใหม่ทำใหม่ ซึ่งมันตะมีใครทำให้เขาเปลี่ยนได้ขนาดนี้บ้าง"

"และอีกหนึ่งเรื่องคือเรื่องการกระแสที่คนทำดีอวดโซเชียล บางคนบอกว่าทำความดีอย่าไปอวดเลย แต่ผมว่าวัฒนธรรมแบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน คนที่ไม่เคยทำเลยเขาได้ทำสักครั้งหนึ่งอาจจะได้รับรู้ความรู้สึก มีคนชื่นชม ถ้าเขารู้สึกดีเขาก็อยากทำอีก แม้กระทั่งคนแกล้งทำเป็นอยากทำเพื่อให้คนมาชมก็ดีแล้ว ดีกว่าเขาไม่ทำอะไรเลย ถ้าทุกคนหันมาทำดีหมดถึงจะอวดลงโซเชียลแต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่ดี อย่าไปว่าเขาเลย เขาจะอวดว่าเก็บขยะแต่เก็บเพียงชิ้นสองชิ้นอย่างน้อยก็ยังได้เก็บ"

อัลบั้มภาพ 58 ภาพ

อัลบั้มภาพ 58 ภาพ ของ คนบันเทิงร่วมใจถวายอาลัย ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook