คุณหญิงแมงมุม แจงดราม่า เชิญคนออกขณะถ่าย MV เพลงสรรเสริญพระบารมี

จากกรณีที่มีการเผยแพร่มิวสิควีดีโอการรวมตัวร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ครั้งประวัติศาสตร์ของพสกนิกรชาวไทย เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ท้องสนามหลวง เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ต.ค. โดยทีมถ่ายทำของ "ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล" หรือ "ท่านมุ้ย" เพื่อนำไปฉายภายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศและทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ออกมาให้ได้ชมกันบ้างแล้วนั้น

ล่าสุด (26 ต.ค.) ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล หรือ คุณหญิงแมงมุม ธิดาของท่านมุ้ย ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงาน ได้ออกมาแถลงชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า "หลายวันที่ผ่านมาต้องรับโทรศัพท์เยอะมาก เพราะมีคนเข้าใจผิดอะไรหลายอย่าง จริงๆ แล้วเพลงสรรเสริญพระบารมีใครจะตัดต่อก็ได้ ไม่มีเวอร์ชั่นไหนถูกหรือผิด แต่เพียงเวอร์ชั่นที่ออกมาตอนนี้ไม่ใช่ของท่านมุ้ย เนื่องจากของท่านมุ้ยยังอยู่ในขั้นตอนของการทำเสียงและตัดต่อค่ะ"

ตอนนี้ทำไปได้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ?
"ฟุตเทจเยอะมาก เพราะด้วยความที่เรามีกล้องเยอะมากและมีเทคนิคการถ่ายหลายๆ แบบ ไหนจะเรื่องของการวิ่งไปทำเสียงอีก เลยทำให้ต้องมีการไปๆ มาๆ แต่ก็พยายามเร่งมือให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ หวังว่าทุกคนน่าจะได้ชมภายในอาทิตย์หน้า เพราะเราเองก็ได้มีการพูดคุยกับกรมประชาสัมพันธ์เบื้องต้นแล้วเหมือนกัน สำหรับเรื่องที่จะส่งวีดีโอเบื้องหลัง รวมถึงภาพนิ่ง และวีดีโอที่ตัดต่อเสร็จแล้วให้กับทางนั้นแล้ว ซึ่งใครที่อยากไปรับก็ไปติดต่อทางนั้นได้เลยค่ะ"

จากกรณีที่มีเวอร์ชั่นอื่นๆ ออกมา ทำให้มีคนเข้าใจผิดเยอะไหม ?
"มันแค่มีคำถามตามมามากมายมากกว่าค่ะ จริงๆ การที่คนอื่นออกมาทำก็เป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะทุกคนในฐานะประชาชนคนไทยก็มีสิทธิ์ทำอยู่แล้วค่ะ"

พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นท่านมุ้ยทรงกังวลหรือได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม ?
"ท่านพ่อไม่ได้เครียดอะไรเลยค่ะ ท่านยังบอกด้วยว่าไม่เป็นไร ใครจะตัดเวอร์ชั่นอะไรก็ได้แค่นั้นเอง แต่ที่อยากให้ออกมาพูดก็เป็นเพราะมีคนถามเยอะมากกว่า ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับท่านเลย"

กดดันมากแค่ไหนเพราะประชาชนก็ค่อนข้างคาดหวังกับเวอร์ชั่นนี้ ?
"เราก็จะทำให้ดีที่สุดค่ะ ความตั้งใจเราดีอยู่แล้ว เหลือแค่เทคนิคในการผลิตออกมามากกว่า เพราะภาพที่ถ่ายเอาไว้สวยมาก ซึ่งเราต้องขอบคุณประชาชนที่มาร่วมกัน จริงๆ ทีมงานคือส่วนน้อยนะคะ เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าจริงๆ คือประชาชนที่มารวมตัวกันได้เยอะขนาดนั้นจนทำให้งานทุกอย่างออกมาดีตามที่เราหวังไว้"

ส่วนที่ยากที่สุดคือส่วนไหน ?
"ทุกส่วนยากหมดค่ะเพราะว่าเรามีเวลาน้อยในการเตรียมงาน และยังเป็นงานที่มีรายละเอียดเยอะพอสมควร แต่ด้วยความที่ทุกคนมีความตั้งใจดี และตั้งใจทำงานนี้ให้ออกมาดีที่สุด จึงทำให้ปัญหาที่เข้ามาเราไม่ได้คิดว่ามันเป็นปัญหา แค่คิดถึงทางแก้อย่างเดียวค่ะ"

กับเวอร์ชั่นที่ถูกแชร์ในตอนนี้ ทางทีมงานได้มีการถามไถ่ไหมว่าเป็นของใคร ?
"ไม่ได้ถามค่ะ เขาแชร์มาเราก็เปิดดู และเอาจริงๆ ดูเวอร์ชั่นของใครก็ขนลุกเพราะมันเป็นภาพของประชาชนที่มารวมกัน ซึ่งทำให้เราเห็นถึงความสามัคคี ความจงรักภักดี และความอาลัยที่เรามีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

หลายคนก็ตั้งคำถามว่าภาพบางส่วนที่ถูกแชร์อยู่ในตอนนี้คือภาพจากกล้องของทีมงานจริงไหม ?
"เราไม่มีเวลาที่จะไปเสาะหาหรือนั่งถามไถ่ว่าเป็นของใคร แต่ถ้าบอกว่าเป็นของทีมงานยืนยันค่ะว่าไม่ใช่ เพราะเราคุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่าเราจะขอทำตัวจริงให้เสร็จก่อน และหลังจากนั้นหากใครจะนำอะไรไปเผยแพร่ก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่ของทีมงานแน่นอนค่ะ"

ย้อนกลับไปในวันนั้น พอถ่ายทำเสร็จแล้วความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?
"ตอนทำงานทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองค่ะ ต่างคนต่างทำไม่ค่อยได้คุยได้เจอกัน คิดอย่างเดียวว่าอยากให้งานออกมาดี"

อีกเรื่องที่คนพูดถึงก็คือเหมือนมีปาฏิหาริย์เพราะช่วงเย็นฝนตกหนัก แต่พอถึงเวลาถ่ายทำช่วง 4 ทุ่ม ฝนก็หยุด ?
"จริงๆ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ดูเวลานะคะว่าฝนหยุดกี่โมง แต่พอถ่ายเสร็จก็มีคนมาบอกว่ารู้หรือเปล่าว่าฝนมาหยุดตอน 4 ทุ่ม (ยิ้ม)"

เราภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้มากแค่ไหน ?
"ถึงได้บอกว่าทุกๆ ภาพนิ่งที่พี่ๆ ช่างภาพได้ส่งมา ไม่มีรูปไหนไม่ประทับใจ ไม่มีรูปไหนไม่สำคัญ คือมันเป็นความตั้งใจจริงๆ ทุกคนคงมีความรู้สึกเหมือนกันว่าความสามัคคีของคนไทย เหมือนที่ท่านเคยดำริไว้ว่าอยากให้คนไทยสามัคคีต่อกัน และวันนี้เราก็ทำให้ทุกคนเห็นว่าเราทำได้ (น้ำตาคลอ)"

ทุกภาพที่ออกมาประทับใจแบบนี้ คนไทยจะมีโอกาสที่จะได้เห็นมากกว่า 1 เวอร์ชั่นไหม ?
"ไม่รู้ว่าจะทำได้กี่เวอร์ชั่น แต่ภาพมันเยอะมากจริงๆ และมันก็สวยหมดเลย เรากำลังคุยอยู่ว่าจะมีการทำเพิ่มขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะเราเองก็อยากให้ทุกคนได้เห็นภาพสวยๆ ที่เราได้ร่วมทำกันมา ซึ่งเราก็จะทำเป็นวีดีโอเบื้องหลังด้วย แต่กำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดต่อ รวมถึงภาพนิ่งเราก็พยายามทยอยลงค่ะ ยังไม่กล้าลงเยอะมากกลัวคนมองว่าทำไมลงถี่"

หลังจากเสร็จโปรเจคนี้จะมีโปรเจคพิเศษอื่นๆ ตามมาอีกไหม ?
"ไม่ค่ะ ตอนนี้ก็ทำโปรเจคนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ตามที่ทุกคนคาดหวังไว้ก่อน"

มีกระแสออกมาว่ากำลังจะแปรเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นภาษาอาหรับจริงหรือเปล่า ?
"ตอนนี้ยังไม่มีนะคะ คือเราอยากทำเวอร์ชั่นนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน ส่วนเวอร์ชั่นอื่นหรือแบบอื่นจะออกมายังไงคงต้องรอถามท่านพ่ออีกที"

อยากบอกอะไรกับประชาชนที่ตั้งใจมารวมตัวกันในวันนั้นบ้าง ?
"ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ อยากให้ทุกคนเห็นภาพจังเลย น่าภูมิใจมากที่ได้เกิดเป็นคนไทย (เสียงสั่น) น่าภูมิใจมากที่ภาวใน 3 วัน เรายังสามารถรวมกันมาได้เยอะขนาดนี้ ต่อจากนี้เราทำอะไรก็ได้แล้วแหละ ทุกอย่างมันอยู่ที่ความตั้งใจ อยู่ที่จุดประสงค์ และเมื่อเรามีจุดประสงค์เหมือนกัน หัวใจเราอยู่ตรงนั้น มันก็ทำให้เราเห็นว่าคนไทยแข็งแรงแค่ไหน สามัคคีกันแค่ไหน"

ถามถึงประเด็นดราม่าเนื่องจากมีคนเยอะ จึงทำให้มีการใช้คำพูดเชิญคนออกจนทำให้คนฟังไม่พอใจ ?
"คือเรื่องเชิญออกแมงมุมเป็นตัวเมนเลยค่ะ เพราะแมงมุมจะมีบัตรสตาฟให้ทีมงานทุกคน และถ้าพี่ๆ ได้เห็นเต็นท์ตรงนั้นคือมันเล็กมากจริงๆ ซึ่งเราเอาไว้สำหรับการซัพพอร์ททีมงาน ที่มีทั้งน้ำ อาหาร รถห้องน้ำ รถพยาบาล รถมอนิเตอร์ กล้อง ทีมออเครสต้า 200 คน ซึ่งไม่ได้รวมกับทีมงานทั้งหมดอีก 1,300 คนนะคะ และยังมีทีมคอรัสอีก 130 คน ซึ่งเราก็อยู่กันไม่พอแล้ว เมื่อสตาฟของเราเหนื่อย เราก็ต้องมีที่นั่ง มีอาหารให้เขาทาน พอเรารู้จำนวนพวกนี้เราจึงได้เตรียมเก้าอี้และของอื่นๆ ให้พอกับจำนวนทีมงานของเรา ดังนั้นเมื่อมีคนนอกเข้ามาเราก็เลยต้องขอให้ออกไปจริงๆ เพราะเราทำงานไม่ได้"

"ตอนแรกแมงมุมก็ใช้หลายวิธีค่ะ ตั้งแต่ขออนุญาต หลังๆ พอเราไม่มีเวลาเราก็เลยให้ทีมงานไปช่วยเชิญออก เพราะถ้าหากคนหนึ่งคน มีผู้ติดตามสามคน ก็อยากให้ลองคำนวนตัวเลขกันดูนะคะว่ามันอยู่ไม่ได้จริงๆ และถ้าเราให้หนึ่งคนอยู่ คนอื่นๆ ก็ต้องได้อยู่ หากเป็นแบบนี้แมงมุมจะตอบคำถามเขาได้ยังไงว่าทำไมอาชีพนี้จึงดีกว่าอาชีพอื่น คนนี้สำคัญกว่าประชาชนที่อยู่ข้างนอกแล้วต้องตากแดดยังไง เพราะฉะนั้นคนที่ไม่ได้ทำงานต้องไม่ได้อยู่ค่ะ"

"แมงมุมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่มีการแบ่งโซน จะไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ทุกคนมาในฐานะประชาชนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นต้องเท่าเทียมกันค่ะ ถ้าไม่พอใจก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่ว่ามันเป็นการทำงานค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้คุยกับพี่เอ็มแล้ว ซึ่งพี่เขาก็ฝากขอโทษ เนื่องจากพี่เขาติดวิธีกองถ่ายหากมีการพูดเสียงดังหรือพูดอะไรที่ทำให้คนฟังไม่พอใจ แต่จุดประสงค์เดียวกันเลยคืออยากให้งานออกมาดี คนเป็นแสนๆ คน แต่ทีมงานเรามีอยู่แค่นี้ เราจะสื่อสารกับเขายังไง หากให้ไปกระซิบบอกเขามันคงเป็นไปไม่ได้ เราเลยต้องพูดให้ชัดเจนและดังที่สุดเพื่อที่ทุกคนจะได้รับข่าวสารที่เราต้องการจะสื่อพร้อมๆ กัน"

ปัญหาดราม่านี้กระทบใจทีมงานยังไงบ้าง ?
"จริงๆ ทุกคนได้เห็นผลงานก็ไม่มีใครสนอะไรแล้วนะ เราได้พูดคุยกันว่าเราได้ทำงานของเราดีที่สุดแล้ว เราทำหน้าที่ของเรา เราไม่ได้ไปก้าวก่ายเขา ไม่ได้ไปเบียดเบียนหรือทำอะไรโดยที่ไม่มีเหตุผล เรามีเหตุผลในการทำทุกอย่างค่ะ และเราก็ใช้วิธีการพูดดีๆ ด้วย ซึ่งแมงมุมเห็น แมงมุมคอยดูทีมตลอด ทุกคนพยายามมากเลยค่ะแต่มันต้องมีบ้างเพราะคนมันเยอะ"

"ทั้งทางทีมงานและทางแมงมุม หากผิดพลาดอะไร หรือทำอะไรให้ใครไม่พอใจก็ต้องขอโทษ ณ ตรงนี้ด้วย แต่อย่างที่บอกเมื่อกี้ค่ะ เรามีจุดประสงค์เดียวกันคือต้องการให้งานออกมาดีที่สุด"