"ความสุขในหัวใจผม"

"ความสุขในหัวใจผม"

"ความสุขในหัวใจผม"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผมทำข่าวกีฬามาตลอดชีวิตของการทำงานมาหลายปี ครั้งนี้คือสิ่งที่ผมรับรู้ได้ถึงความสุขและคุณค่าในประสบการณ์ชีวิต

05.00 น. เสียงนาฬิกาปลุกลั่นเรียกตามนัด มันแปลกตรงที่ไม่บ่อยครั้งนักหรอก ที่ผมจะเด้งออกจากเตียงด้วยการเตือนของนาฬิกาปลุกเพียงรอบแรก! 

ในใจของมนุษย์ที่ทำข่าวกีฬามาตลอดชีวิต จะได้ออกไปยัง "พระบรมมหาราชวัง" สถานที่สำคัญที่เหล่าปวงประชาชาวไทย มุ่งหน้าไปในวันนี้ มันดูไม่คุ้นชินจริงๆ ครับ

"29 ตุลาคม 2559" คือวันแรกที่ทางสำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช



ชุดแต่งกายของผม ที่ถึงแม้จะไม่ได้เรียบร้อยมากนัก แต่เข้าหลักและถูกเกณฑ์ที่จะสามารถเข้าไปยังจุดที่เป็นเหมือน "หัวใจ" ของคนทั้งชาติในเวลานี้

ผมเดินทางออกจากที่พัก ด้วยรถไฟฟ้า MRT มุ่งหน้าสู่สถานีปลายทางที่หัวลำโพง เพราะเห็นจากข่าวว่าจุดที่มีรถรับ-ส่ง ไปยังสนามหลวงเพียบ

และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ทันทีที่ก้าวออกมายังประตูหน้าหัวลำโพง มีทั้งอาสา มีทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ คอยแนะนำรถบัสฟรีบ้าง รถตู้ฟรีบ้าง เห็นแล้วรู้สึกดีแบบบอกไม่ถูก

ผมสารภาพนะครับ ห้วงเวลานั้น คือมันดีจริงๆ มันรู้สึกอิ่มเอมในหัวใจ เพราะก่อนหน้านี้ ผมได้ติดตามข่าวสาร ว่าคนโน้นไปช่วย อย่างนั้นอย่างนี้ คนนี้ไปทำความดีแบบนั้น 



คราวนี้ วันนี้ เวลานี้ ผมเจอสิ่งดีๆ ตั้งแต่เช้าตรู่ และทำให้ผมมั่นใจได้ว่าวันนี้จะต้องมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ผมไม่มีวันลืมแน่นอน

ผมใช้บริการรถตู้ฟรี ของทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พี่คนขับก็นอบน้อม ยืนเรียกทุกคนที่ขึ้นมาจากรถไฟฟ้าว่า "ทางนี้เลยครับ รถตู้ฟรีไปสนามหลวงครับ"

จากสายตาของพี่เขา มันบอกอะไรบางอย่างกับผม เขาดูอยากบริการทุกคนจริงๆ เขาไม่ได้ถูกบังคับ เขาไม่ใช่ลูกจ้างที่มาทำงานให้มันเสร็จๆไป แต่เขามาเพราะจิตที่อยากบริการทุกคนให้ได้เข้าไปทำหน้าที่ลูกคนหนึ่งของพ่อ 

ทันทีที่ลงจากรถ ผมยกมือไหว้พี่เขา พร้อมกับรอยยิ้มและคำขอบคุณ และผู้โดยสารทุกคนที่มากับผมในรถตู้คันนี้ ก็ทำในแบบเดียวกัน คือมันเหมือนกับญาติพี่น้องกันจริงๆ



ช่วงที่ต้องเดินเท้าต่อจากหลังกระทรวงกลาโหม เพื่อไปยังสนามหลวง และบริเวณพระบรมมหาราชวัง ผมคิดทำสิ่งหนึ่งนั่นคือ ผมจะเลือกจำแต่เรื่องๆ ราวดีที่เกิดขึ้นในวันนี้เท่านั้น

หลายวันก่อน ผมเห็นคนดราม่าเรื่องไม่ดีไม่งามมาไม่น้อย และผมพยายามที่จะไม่เลือกเสพย์ข่าวเหล่านั้น วันนี้ผมขอเปิดหัวใจรับเรื่องดีๆ ในสถานที่ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ของพ่อที่เรารัก

ผมเลี้ยวเข้าถนนหน้าพระลาน ผู้คนเริ่มขวักไขว่ ของแจก ของฟรี ทั้งอาหาร ผ้าเย็น น้ำดื่ม ยาอม ลูกอม มีให้เห็นตลอดเส้นทาง ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าน้ำจิตน้ำใจตรงนี้พวกเขาทำไปเพื่ออะไร? 

แม้ในห้วงเวลาที่เราอยู่ในความเศร้าโศก แต่เรื่องราวดีๆ เหล่านี้ ก็เป็นภาพมุมบวก ที่พอจะชโลมหัวใจที่แทบจะสลาย มาตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมาได้อย่างดี 

ผมค่อยเดินอย่างช้าๆ ท่ามกลางท้องฟ้าที่ไร้แดด และถือว่าอากาศกำลังสบาย บวกกับเป็นช่วงเช้าๆ แบบนี้ มันยิ่งทำให้ผมอิ่มเอมกับการเข้ามาใกล้พ่อหลวงอันเป็นที่รักยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด



ก้าวแรกที่มองไปยังผู้คนที่กำลังต่อแถวยาวเหยียดรอรับบัตรคิว เพื่อที่จะได้ เข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระบรมมหาราชวัง

ผมได้ถามคุณยายที่ท่านหนึ่งที่ถือกอดพระบรมฉายาลักษณ์ไว้แน่น ว่ายายมาตั้งแต่กี่โมงครับ?

คุณยายที่เดินทางมาจากเมืองกาญจน์ ตอบแบบทันควันว่า "ยายมาตั้งแต่ตี 3 แล้วลูกเอ้ย ยายให้หลานพามากราบในหลวง"

สิ้นเสียงเจรจา คุณยายก็ยกมือขึ้นเหนือหัวของคุณยาย ผมไปต่อไม่เป็นเลยครับ มันเหมือนจุกอยู่ในลำคอ น้ำตามันไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว 

มันทำให้ผมนึกย้อนไปถึงภาพของยายของผม รวมไปถึงคนแก่คนเฒ่า ที่ผ่านมาๆ ที่เห็นในข่าวมาตลอดว่า พวกเขาเต็มไปด้วยความรักความศรัทธาที่เปี่ยมล้น ให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 แบบสุดหัวใจ

 

คนในรุ่นหลังอย่างผมยังรักพระองค์ท่านมากขนาดนี้  แล้วคนในรุ่นก่อนๆ ล่ะ พวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่พระองค์ท่านทรงงานอยากหนัก พวกเขาคงจะรักและเทิดทูนพระองค์มากขนาดไหน?

จากนั้น ผมเดินจนรอบสนามหลวง พร้อมกับมองดูแถวอันยาวเหยียดโค้งเป็นรูปงู โค้งไปโค้งมา...โค้งมาแล้วก็โค้งไป

ผมคิดในใจว่าวันนี้ผมคงยังไม่ได้เข้าไปในพระบรมมหาราชวังแล้วล่ะ

แต่ผมตั้งใจไว้ว่าวันหน้าผมจะมาใหม่ และต้องมาให้เร็วกว่านี้ให้ได้



ส่วนวันนี้ ผมขอไปเก็บภาพและเก็บเรื่องราวอื่นๆ ไว้ในหัวใจก่อนดีกว่า เพราะอย่างน้อยผมยังจะได้ภาพมาฝากหลายๆ คนที่เขายังไม่ได้ไป จะได้ดูเป็นแนวทาง 

จากนั้นผลลองแวะไปที่รถสุขาเคลื่อนที่ทางคุณ"ต๊อด" ปิติ ภิรมย์ภักดี บอสใหญ่จากสิงห์ที่จัดมาให้บริการประชาชน อยู่บริเวณหน้าราชนาวีสโมสร

โอ้ววว คือมันดีมากนะครับ ทั้งความสะอาด แถมมายังติดแอร์อีกด้วย ไม่ผิดหวังจริงๆ



จากนั้นผมเดินออกที่จุดที่ยืนต่อคิวอีกครั้ง ภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ก็ยังเป็นภาพของผู้คน ที่หลั่งไหลเข้ามายังสนามหลวง และบริเวณพระบรมมหาราชวังอย่างไม่ขาดสายเหมือนเดิม

วันนี้เป็นวันแรก ที่ผมได้มายังจุดนี้ ผมรู้แล้วล่ะ ว่าผมสามารถบอกเล่าให้คนอื่นได้ฟังว่า ใน 1 วันที่ผ่านมาผมได้เจอกับอะไรมาบ้าง

มันเป็นวันที่ผมมีความสุขในสิ่งที่ผมได้เห็นกับสายตาตัวเอง ที่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวผ่านจากข่าว หรือตัวหนังสือในหน้าหนังสือพิมพ์



ความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน เรื่องราวที่นี่ ผมเลือกจะจดจำและเสพย์เรื่องราวที่ดีๆ แน่นอนมันช่วยทำให้จิตใจของเรามีพลังที่มากขึ้น

เรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ จะอยู่ในใจของผมตลอดกาล

ไว้วันข้างหน้า....ผมจะมาใหม่นะครับ 


เรื่องโดย : สราวุฒิ จิตชื่น

อัลบั้มภาพ 58 ภาพ

อัลบั้มภาพ 58 ภาพ ของ "ความสุขในหัวใจผม"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook