อดีตครูเล่าเมื่อครั้งไฟไหม้บ้านทั้งหลัง เหลือเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9

อดีตครูเล่าเมื่อครั้งไฟไหม้บ้านทั้งหลัง เหลือเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9

อดีตครูเล่าเมื่อครั้งไฟไหม้บ้านทั้งหลัง เหลือเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดีตครู เล่าถึงพระบารมีเมื่อตอนไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลังเหลือเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงและธนบัตรที่สะสมไม้ถูกไฟไหม้

(29 ต.ค.) จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 183 หมู่ 6 บ้านเดื่อ 1 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พบ นายวัฒนา วิจารณรงค์ อายุ 64 ปี และ นางกองมณี วิจารณรงค์ อายุ 74 ปี สามีภรรยา หลังทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้ไฟไหม้บ้านสองชั้นไม้ครึ่งปูนหมดทั้งหลัง แต่มีสิ่งเกิดสิ่งอัศจรรย์คือพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงผนวช ที่แขวนติดไว้ผนังห้องโถงชั้นล่างกลับไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงรอยไหม้เล็กน้อยบริเวณขอบกรอบพระฉายาลักษณ์เท่านั้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเพื่อนได้มาขอดูรูป

นายวัฒนา นำพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาโชว์ เปิดเผยว่า ตนเคยรับราชการครู ตำแหน่งรอง ผอ.โรงเรียนบ้านนายาด ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้าน มีลูกชาย 1 คน แต่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ต้องอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน ตนและภรรยาชอบสะสมเหรียญและธนบัตรเก่า อีกทั้งนำพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9 ติดไว้ผนังห้องโถงเพื่อกราบไว้ เพราะตนเป็นข้าราชการของพระราชา มีความเคารพ เทิดทูนในหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอยู่ตลอดเวลา

ก่อนเกิดเหตุ ช่วงค่ำของวันที่ 12 พฤษภาคม 2559ที่ผ่านมา มีเกิดพายุฤดูร้อนในเขตเทศบาลนครอุดรธานีและฝนตกอย่างหนัก ทำให้ไฟฟ้าดับ ตนและภรรยาได้หลบฝนอยู่ข้างบ้าน เพราะในบริเวณเดียวกันมีบ้านเรือนไทยที่ตนสร้างไว้อยู่ใกล้ จนกระทั่งเวลา 19.00 น. ฝนหยุดตก และไฟฟ้าตามบ้านเริ่มติด แต่ไฟฟ้าภายในบ้านของตนไม่ติดและยังมีกลิ่นเหม็นไหม้และเสียงปะทุคล้ายฆ้อนทุบบริเวณต้นเสาห้องโถงชั้นล่าง เมื่อตนวิ่งเข้าไปดูก็เห็นไฟลุกไหม้บริเวณสายไฟฟ้า และลุกลามไปอย่างรวดเร็วเพราะยังมีลมกรรโชกตลอด ตนและภรรยาตกใจทำอะไรไม่ถูก ญาติที่มีบ้านอยู่ใกล้กันได้มาช่วยขนเอาทรัพย์สินออกจากบ้าน และแจ้งรถดับเพลิง มาช่วยฉีดน้ำดับไฟ แต่ไฟได้ไหม้บ้านเสียหายหมดทั้งหลังแล้ว

หลังจากเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำดับไฟจนมอดสนิทแล้ว ตนได้เข้ามาสำรวจดูสิ่งของภายในบ้าน ก็พบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งทรงผนวชทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์ติดไว้ผนังห้องโถง ซึ่งกลุ่มครูมอบให้เป็นของที่ระลึกในวันเกษียณอายุราชการ ไม่ได้รับความเสียหายจากกองเพลิงแต่อย่างใด มีเพียงบริเวณขอบรูปที่มีรอยไฟเพียงเล็กน้อย พร้อมกับธนบัตรที่เก็บสะสม อัดกรอบไว้ก็มาได้รับความเสียหาย ตนจึงยกมือไหว้เหนือหัวสาธุบารมีในหลวงคุ้มครอง แล้วนำออกมาให้ภรรยาและญาติดู ซึ่งต่างรู้สึกแปลกใจ ส่วนตนคิดว่าคงเพราะด้วยบุญญาธิการ ส่วนเงินเหรียญสะสมไว้ถูกไฟไหม้เสียหาย แต่สามารถนำมาขัดล้างทำความสะอาดได้

นายวัฒนา วิจารณรงค์ กล่าวว่า ตั้งแต่จำความได้ พ่อแม่สอนไว้ว่า ในหลวงคือสมมติเทพ หรือเทวดามาเกิด คนเฒ่าคนแก่เล่าว่า ในหลวงหรือราชวงศ์เสด็จอุดรธานี เปรียบเสมือนช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง แม้แดดเปรี้ยงยังบด เมื่อครั้งมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ ตนจะกราบไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงตลอด เพื่อขอบารมีปกป้องคุ้มครอง"

ตนก็ได้รื้อบ้านที่ถูกไฟไหม้ลงทั้งหมด และสร้างบ้านใหม่แทนหลังเก่า เป็นบ้านปูนชั้นเดียว เพราะสะดวกต่อผู้สูงอายุเช่นตนและภรรยา หลังจากทราบข่าวว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ตนและภรรยารู้สึกใจหาย เหมือนประเทศชาติขาดร่มโพธิ์ร่มโทร ซึ่งตนขอปฎิญาณตนว่าได้น้อมนำเอาคำสั่งสอน และนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ดำรงชีวิต และสอนลูกหลานให้เป็นคนดี ตลอดไป ดังกล่าว

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ อดีตครูเล่าเมื่อครั้งไฟไหม้บ้านทั้งหลัง เหลือเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook