1 ปีผ่านไปท่องเที่ยวอียิปต์ซบเซา หลังเหตุระเบิดเครื่องบินรัสเซีย
จากเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายวางระเบิดเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย จนเป็นเหตุให้เครื่องบินตกในคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ปีที่แล้ว ขณะนี้เวลาผ่านไปแล้ว 1 ปี แต่การท่องเที่ยวของอียิปต์ ก็ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ความกลัวเรื่องการก่อการร้าย ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ หลีกเลี่ยงที่จะเดินทางเข้ามาในอียิปต์
ศูนย์การค้าในกรุงไคโรที่เคยเป็นที่นิยม มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ซื้อของที่ลึกยังคงซบเซา เจ้าของร้านใช้เวลาให้หมดไปวันๆ กับการนั่งเล่นเฟซบุ๊ครอลูกค้า Amgad Qasabgi วัย 45 ปี นั่งอยู่หน้าร้านของเขา บอกว่า ร้านค้าเงียบเหงา เขาไม่มีอะไรจะทำ
เหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนถึง 224 คน ทำให้รัสเซีย ยกเลิกเที่ยวบินมายังอียิปต์ รวมทั้งอังกฤษด้วย ส่งผลให้การท่องเที่ยวของอียิปต์ ซบเซาลง เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวรัซเซีย และอังกฤษ นั้น มีจำนวนมากถึงร้อยละ 40 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด
เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง รายได้ก็น้อยลง เพราะรายได้จากการท่องเที่ยงของนักท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น เป็นรายได้หลักของอียิปต์ Qasabgi เป็นพ่อที่มีลูกถึง 5 คน กล่าวว่า ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย และรายได้จากการขายของให้กับนักท่องเที่ยวที่เป็นคนอียิปต์ด้วยกัน ก็ไม่เพียงพอสำหรับรายจ่ายประจำวัน ร้านอาหารในศูนย์การค้าก็เหงียบเหงา มีแต่คนอียิปต์ด้วยกันเอง บางครั้ง มีรถบัสนักท่องเที่ยวมาจอด แต่พวกเขาก็ไม่ได้ซื้อของที่ระลึกอะไรกลับไปเลย
Abdel Rahman เป็นพนักงานขาย เขาบอกว่า การท่องเที่ยวเหมือนกับว่าจะไม่รอดแล้ว ครอบครัวชาวยุโรปบางคน เดินเข้าร้านมาเดินดูของแล้วก็จากไปมือเปล่า ตอนนี้ ร้านเขาไม่เปิดไฟแล้ว เพราะต้องประหยัดค่าไฟฟ้า
มีการรายงานตัวเลขด้วยว่า เมื่อปีที่แล้วนักท่องเที่ยวลดลงกว่าครั้ง เหลือแค่ 6.3 ล้านคน จากเมื่อปี 2010 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว 15 ล้านคน ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวจากรัสเซียนั้น ลดลงเหลือ 2.3 ล้านคน จากเมื่อปี 2014 ที่มีอยู่ 3.1 ล้านคน
ส่วนรายได้นั้น ลดลงประมาณ 15 เปอร์เซนต์ เหลือ 6.2 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในปี 2015 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของอียิปต์ ตั้งเป้าว่าจะดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้ได้ 20 ล้านคน และทำรายได้ให้ได้ 26 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ภายในปี 2020