เปิดใจเจ้าของ!! ภัยซื้อบ้านไม่ได้อยู่ กับเหตุการณ์ชวนสะพรึง
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อเจ้าของบ้านได้ออกมาตั้งกระทู้เปิดเผยถึงเรื่องราวอันน่ากลัวของคนซื้อบ้านแล้วยังไม่ได้เข้ามาอยู่ เพื่อฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับคนที่ซื้อบ้านใหม่ หากยังไม่ย้ายเข้าไปอยู่อย่างถาวรควรหมั่นไปตรวจดูสภาพบ้านอยู่เป็นประจำ ไม่เช่นนั้นคุณอาจได้พบกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาอยู่แทนคุณก็เป็นได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แชร์สนั่น! ภัยซื้อบ้านเอาไว้ ยังไม่ทันย้าย..มีคนเข้ามาอยู่แทน
ซึ่งวันนี้ทาง คุณมีน หรือ MeanGirl55 อายุ 31 ปี และสามี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้เปิดใจกับทีมข่าว Sanook! News ถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น และเรื่องชวนหลอนที่ทำให้เข็ดไปอีกนาน
เหตุการณ์วันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
"อย่างที่เราตั้งกระทู้ไปคือ กำลังนั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศแล้วคุณพ่อก็โทรศัพท์มาถามว่า ได้ชาร์ตโทรศัพท์ทิ้งไว้หรือเปล่า ซึ่งตัวเองก็ งง มาก เพราะไม่ได้เข้าบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้ว เนื่องจากว่าบ้านยังตกแต่งไม่เสร็จจะเข้าไปเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น คุณพ่อเลยถ่ายรูปโทรศัพท์มาให้ดู ตัวเองก็ตอบว่าไม่ใช่มือถือที่ใช้อยู่ แล้วจู่ๆ พ่อก็บอกว่ารู้แล้วโทรศัพท์เป็นของใคร เพราะเจ้าของโทรศัพท์เดินลงมาจากบ้านและเป็นคนงานแล้วนั้น มากัน 2 คน คุณพ่อเลยให้เขาไปเก็บของแล้วออกจากบ้านไป"
หลังจากนั้นคุณทำยังไงต่อ
"เรากับแฟน จึงลางานเพื่อกลับไปดูบ้านและสำรวจสิ่งของมีค่าที่อยู่ในบ้านว่ามีอะไรหายไปบ้าง ซึ่งโชคดีที่เค้ายังไม่ได้เอาทีวี ตู้เย็น หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าไป ที่หายไปจะเป็นกระเป๋าเดินทาง รองเท้า เครื่องสำอาง น้ำหอม ที่สะสมไว้ หายเกือบหมด และยังทิ้งเสื้อผ้ากับหมวกกันน็อคไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย นอกจากนี้ยังใช้เครื่องปรับอากาศ แช่น้ำแข็ง ขโมยน้ำหอมไปอีกด้วย"
แล้วก่อนหน้านี้ไม่เคยเอะใจบ้างเหรอ ว่าจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาอยู่ในบ้าน
"ตั้งแต่โครงการที่สร้างไม่เสร็จก็มีสายชาร์ตโทรศัพท์มาเสียบที่บ้าน เราก็นำไปคืนที่โครงการ ทางโครงการก็รับรู้ว่าเป็นของคนงาน ซึ่งเราก็เข้าใจได้เพราะบ้านยังสร้างไม่เสร็จ แต่ตอนนั้นก็โอนบ้านแล้วคนงานก็ไม่น่าจะมีสิทธิ์เข้ามานะ แต่ที่บ้านไม่มีของมีค่าเลยก็เลยไม่ได้ว่าอะไร"
แล้วมีเหตุการณ์อะไรแปลกๆเพิ่มเติมอีกไหม
"มีเรื่องม่านเปิดทิ้งไว้ วางแก้วน้ำไว้ก็หล่นแตกโดยไม่ทราบสาเหตุ และยังมีเหตุการณ์ประหลาดอีกนะ คือเห็นไฟเปิดทิ้งไว้ที่ชั้นสอง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าลืม หรือ เป็นสิ่งลี้ลับอะไรต่างๆ นานา แต่พอเกิดเหตุการณ์มีแขกเข้ามาอยู่ในบ้านโดยไม่ได้รับเชิญ เราก็ถึงบางอ้อว่าสิ่งแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นมาจากอะไร"
ทำไมถึงไม่เอะใจก่อนหน้านี้ ทั้งที่มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นมากมาย
"คือบ้านที่เราซื้อยังไม่ได้ย้ายของเข้ามาอยู่จริงจัง แค่ทยอยขนของเข้ามาไว้ในบ้านและก็วางระเกะระกะเต็มไปหมด จึงทำให้ไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีจุดอะไรผิดแปลกไปจากเดิมมั้ย"
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้รู้สึกอย่างไรบ้าง
"รู้สึกกลัวมาก รับรู้ได้ถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่อยากเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว ความปลอดภัยอยู่ตรงไหน แล้วจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้"
ตอนนี้ได้คุยกับโครงการหรือยัง แล้วโครงการจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง
"ตอนนี้ได้แจ้งเรื่องไปทางสำนักงานใหญ่ของโครงการและทางนั้นได้รับเรื่องเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับจะดูแลติดตามเรื่องนี้ให้ และทางโครงการจะต้องไปปรึกษากับบริษัทยามก่อน เนื่องจากทาง โครงการได้จ้างบริษัทยามให้ดูแลเรื่องการรักษาความปลอดภัย จึงต้องไปตกลงกันและไล่เลียงตรงนั้นก่อน"
สิ่งที่เราอยากให้โครงการรับผิดชอบมีอะไรบ้าง
"อยากให้ทางโครงการทำรั้วข้างบ้านที่ติดกับแคมป์คนงานให้สูงขึ้น เนื่องจากว่ารั้วเดิมมันต่ำเกินไป เพื่อความปลอดภัยของหมู่บ้าน ไม่ใช่แค่บ้านเราหลังเดียว ซึ่งรั้วเดิมมันต่ำทำให้คนสามารถปีนรั้วเข้ามาได้ อยากให้ติดไฟในซอยด้วยเพราะมันมืดดูเปลี่ยว และอยากให้บริษัทรักษาความปลอดภัยมีมาตรการที่เข้มกวดกว่านี้ในการตรวจคนที่จะเข้ามาในหมู่บ้าน สิ่งหลักๆที่เราอยากได้คือความปลอดภัยที่มากกว่านี้"
ส่วนทรัพย์สินที่เสียหาย และถูกขโมยไปเรามีการเรียกร้องอะไรไปบ้างมั้ย
"ตอนนี้ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เพราะทรัพย์สินมันก็มีมูลค่าไม่มากมายอะไร มันน่ากลัวตรงที่มีคนเข้ามาอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว ถ้ามันเกิดเข้ามาตอนที่เราอยู่คนเดียวแล้วทำอะไรมิดีมิร้ายเราขึ้นมาจนถึงขั้นเสียชีวิตเราจะโทษใครได้ เราก็ไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาจะคิดดีหรือไม่ดีกับเรา
คือเราให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก จากเหตุการณ์ที่เคยเจอมันเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้เรารู้ว่าเค้าไม่ได้มาแค่ครั้งเดียว แต่เค้ารู้ถึงความเคลื่อนไหวของเราเลยนะ"
ถ้าเราเลือกได้ อยากจะปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง
"ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขายบ้านคืนอยู่แล้ว แต่มันก็น่าจะเป็นเรื่องยาก เพราะว่าคงไม่มีความสุขที่จะอยู่ในหมู่บ้านนี้อีกแล้ว เราห่วงเรื่องความปลอดภัยและหวาดผวากับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้เราก็มีเด็กอ่อนด้วย เป็นครอบครัวเดี่ยว ถ้ามาไล่เลียงกันจริงๆ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ถ้าเกิดครั้งเดียวคงไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แสดงว่าในอนาคตอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกถ้าหากว่าเราไม่อยู่บ้าน อีกอย่างบ้านเราก็มีทั้งผู้หญิงและเด็กด้วย"
ในอนาคตถ้าจะต้องย้ายเข้ามาอยู่จริงๆ คิดว่าจะอยู่ได้มั้ย
"คือคิดไว้ว่ายังจะไม่เข้ามาอยู่ในเร็วๆนี้แน่นอน รอให้มีเพื่อนบ้านเข้ามาอยู่ให้เต็มเสียก่อน"
แต่ถ้าต้องย้ายเข้ามาอยู่จริงๆ จะมีวิธีรับมือหรือเตรียมการอะไรไว้บ้าง
"ถ้าเข้ามาอยู่จริงก็ต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น สร้างความปลอดภัยให้กับตัวเอง เช่น ติดกลองวงจรปิดเอง แต่ถ้าถามใจจริงๆอยากให้โครงการสร้างเสร็จและมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดีมากกว่านี้ ถ้าโครงการสร้างเสร็จก็จะไม่มีคนงานแล้วมันอาจจะดีขึ้น"
อยากจะฝากอะไรถึงผู้ที่มีอำนาจในการรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นบ้าง
"อยากให้ใส่ใจลูกบ้านมากกว่านี้ เพราะเราไม่ใช่หลังแรกที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ อยากจะให้ลงมาแก้ไขและปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องทำให้ดีที่สุดร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอแค่มีความปลอดภัยมากกว่าที่เป็นอยู่ก็พอแล้ว"
นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ขนลุกและชวนสะพรึงอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย หากใครไม่ได้เจอกับตัวคงไม่เข้าใจถึงความหวาดผวากับเหตุการณ์แขกไม่ได้รับเชิญ เพราะบ้านที่คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด บ้านสถานที่พักผ่อนที่สุขสบายสุด และบ้านคือสถานที่ที่ส่วนตัวที่สุด คือ น้ำพักน้ำแรงที่น่าภาคภูมิใจ
แต่ถ้าหากว่าสิ่งที่คาดหวังกลับกลายเป็นสิ่งตรงกันข้าม แล้ววันหนึ่งเราจะอยู่บ้านที่แสนอบอุ่นของเราให้มีความสุขได้อย่างไร