เบิร์ด ธงไชย ได้ถวายงานในหลวงร.9 คือความภูมิใจสูงสุดในชีวิต

เบิร์ด ธงไชย ได้ถวายงานในหลวงร.9 คือความภูมิใจสูงสุดในชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เบิร์ด ธงไชย" นำทีม 3 นักร้องรุ่นใหญ่ "ตู่ นันทิดา", "แอมป์ เสาวลักษณ์" และ "มอส ปฏิภาณ" ขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ พร้อมเล่าความรู้สึกครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตที่เคยมีโอกาสได้ถวายงานแทบพระบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 เชื่อได้เกิดเป็นคนไทยคือความโชคดีที่สุดแล้ว

เบิร์ด - วันนี้เป็นวันที่พวกเรากลุ่มเล็กๆ ที่รวมตัวกันมา ทั้งๆที่ใช้เวลานัดกันไม่นาน ซึ่งวันนี้เราได้มาร้องเพลงพระราชนิพนธ์ของท่าน มากันด้วยใจโดยไม่รู้จะต้องทำอะไรบ้าง และอีกหนึ่งอย่างที่เราไม่เคยทำ คือเราไม่เคยร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในบรรยากาศเช่นนี้ และสิ่งที่เราคิดเป็นเรื่องเดียวกัน มองเห็นเป็นสิ่งเดียวกัน ตัวพี่เบิร์ดเองคุณพ่อคุณแม่ก็เสียแล้ว แต่ครั้งนี้ความรู้สึกมันไม่เหมือน พอวันนี้เราได้ร้องเพลง มีสมาธิ และจ้องพระบรมฉายาลักษณ์ท่านความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันบอกไม่ถูก แต่ถ้าพระองค์ท่านได้มองลงมา ผมคิดว่าพระองค์ท่านต้องพอพระทัย เพราะพวกเราสามัคคีกัน พวกเรามายืนอยู่ตรงนี้ด้วยความรู้สึกที่เหมือนกัน คือพวกเรารักพระองค์ท่าน

รู้สึกไงบ้างที่วันนี้เรามีโอกาสได้ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ด้วย ?

เบิร์ด - บทเพลงที่พวกเราจะร้อง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบทเพลงที่เราเคยได้ยินตั้งแต่เด็ก แต่วันนี้ได้มาร้องอีกครั้งหนึ่งเลยทำให้เราทราบว่า บทเพลงที่พระองค์ท่านแต่งขึ้นมันเป็นทรัพย์สมบัติของพวกเรา มันเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเราต้องเก็บไว้ เอาตัวโน๊ตแต่ละตัวที่พระองค์ได้พระราชนิพนธ์ไว้มันไม่เหมือนกับใครในโลกที่จะสามารถทำได้

แอม - แอมเกิดในครอบครัวนักดนตรี ดังนั้นตั้งแต่เด็กจึงเคยมีโอกาสได้ยินคุณพ่อคุณแม่แกะเพลงพระราชนิพนธ์ และก็คุ้นเพราะโตมากับเพลงของพระองค์ท่าน แต่อย่างที่พี่เบิร์ดบอกในโอกาสแบบนี้และบรรยากาศแบบนี้ เราไม่เคยคาดฝันและนึกมาก่อนว่าเราต้องมาขับร้องเพลงของพระองค์ท่านในวาระแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เคยคิดแล้วก็ไม่อยากจะคิดด้วยค่ะ

เบิร์ด - วันนี้พี่เบิร์ดจะได้ร้องเพลงบ้านเรา ซึ่งเป็นบทเพลงที่พูดให้เห็นว่าคนไทยคือคนที่โชคดีที่สุดในโลก เรามีประเทศชาติและบ้านเมืองที่น่าอยู่มาก เรามีทรัพย์สินที่ใช้ไปชั่วลูกชั่วหลานก็ไม่หมด เรามีธรรมชาติที่ดี และที่สำคัญที่สุดคือเราโชคดีที่สุดในโลกแล้วที่มีพระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ พ่อทำให้เราทุกอย่าง ทุกครั้งที่ผมได้ร้องเพลงจะรู้สึกปลาบปลื้มเสมอ แต่ครั้งนี้มันทำให้ผมยิ่งคิดถึงท่านเหลือเกิน

มอส - ผมภูมิใจที่ได้ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี แต่วันนี้พอได้ร้องกับรู้สึกใจหาย ส่วนเรื่องเพลงพระราชนิพนธ์ผมคิดว่าคนเราโชคดีที่เกิดมาเห็นพระราชกรณียกิจของท่าน เห็นท่านทรงงาน เห็นท่านแต่งเพลง ดังนั้นผมจึงจะพยายามสืบทอดสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ไปถึงยังรุ่นลูก จริงๆลูกสาวผมก็รู้จักในหลวง แต่เขายังไม่รู้ละเอียดว่าพระองค์ท่านทำอะไรบ้างซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องถ่ายทอด และสอนว่าท่านเป็นกษัตริย์ที่ทำให้พวกเราทุกคนอยู่ดีกินดีจนมาถึงรุ่นลูกด้วย

เบิร์ด - เพลงที่เบิร์ดร้องวันนี้ไม่ใช่เพลงของเบิร์ดนะครับ มันเป็นเพียงแค่ตัวแทนของประชาชนที่ออกมาถ่ายทอด ซึ่งประชาชนบางคนที่อยู่ไกลๆ ไม่มีโอกาสได้ถวายความจงรักภักดี แล้วพี่เบิร์ดจะเก็บความรู้สึกพวกนี้เอามารวมไว้และเป็นเสียงออกไป พี่เบิร์ดเชื่อว่าการได้ร้องเพลงคือการได้กราบแทบพระบาทของท่าน พี่เบิร์ดจะเป็นตัวแทนของทุกๆ คนกราบแทบพระบาทของพระองค์ท่านและทูลว่าพวกเราทุกคนรู้ว่าพวกเราและพวกเราทุกคนก็รักพระองค์ท่านด้วย มันมีเส้นบางๆ ระหว่างความภาคภูมิใจกับความเศร้าครับซึ่งเราต้องทำความเข้าใจให้ดี ให้ดวงตาเรามองเห็นว่าท่านทำงานหนักเหลือเกิน เราพูดอยู่ตลอดว่าพระองค์ท่านทรงงานหนัก แต่ใครจะทำให้ภูมิทั้งหายเหนื่อยนอกจากพวกเรา ทุกๆ ครั้งที่มีเรื่องที่ทำให้พระองค์ท่านไม่สบายพระทัย พี่เบิร์ดก็จะคอยพร่ำบอกตลอดว่า แผลหรือโรคร้ายต่างๆ เรามีหมอช่วยทำแผลให้ได้ แต่ถ้าพวกเราไม่รักกันแผลนั้นมันก็จะไม่หาย ตอนนี้มันถึงทีของพวกเราแล้ว ที่จะแสดงให้พวกเรารู้ว่าคำสอนต่างๆที่พ่อเคยบอกว่าให้พวกเรารักกัน เราต้องแสดงให้พระองค์ท่านได้สบายพระทัยเสียที

เห็นว่าก่อนหน้านี้ในหลวงท่านเคยมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการร้องเพลงของเราด้วย ?

เบิร์ด - ทุกครั้งที่ได้เฝ้าใกล้ชิด พี่เบิร์ดก็จะอยู่แทบพระบาท ซึ่งท่านก็จะรับสั่งถามว่าคราวนี้ร้องเพลงอะไร พี่เบิร์ดก็ร้องเพลงดีที่หนึ่ง ให้เป็นนักร้องที่ดีที่หนึ่ง ถ้าเป็นเกษตรกรก็ดีที่หนึ่ง พี่เบิร์ดเคยมีโอกาสได้ถวายรับใช้พระองค์ท่านใกล้ที่สุดแต่ไม่เคยรู้สึกว่าได้อยู่ใกล้พระมหากษัตริย์เลย แต่เหมือนอยู่ใกล้หลวงพ่อที่ใจดีกับเราเหลือเกิน สายพระเนตรที่มองมายังพวกเรามีแต่ความเมตตาส่งถามด้วยว่าเราอ่ะตื่นเต้นใช่ไหมเบิร์ด ท่านเอาพระทัยมาใส่เรา ท่านเรียกชื่อเรา ท่านบอกให้เราหลับตาสิจะได้นึกถึงท่านซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมแล้วครับ

สำหรับเรามีการน้อมนำคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตอย่างไรบ้าง ?

เบิร์ด - คำว่าพอเพียงสำหรับพระองค์ท่านที่คอยรับสั่งอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่อยากให้ทุกคนตระหนี่ หรือไม่ใช้อะไรเลย เพลงแต่ให้เราดูกระจกและประมาณตัวเอง ซึ่งเบิร์ดเชื่อว่าตอนนี้ใจของทุกคนคือดวงเดียวกัน ถ้าจะคลี่ออกมาแล้วมันก็คือสีเดียวกัน ถ้าจะถามความรู้สึกแล้วก็อยากจะถามว่าท่านอยู่ที่ไหน เราจะทูลท่านว่าเรารักพระองค์ท่าน แต่จากนี้เราจะทำยังไงมากกว่า เราต้องปฏิบัติมากกว่า ว่าต่อไปนี้เมืองไทยเรา จะไม่มีเรื่องที่ทำให้พระองค์ท่านไม่สบายพระทัยอีกต่อไป ตอนนี้มันสามารถบอกได้แล้วว่าพวกเขาคือคนที่โชคดีที่สุด ที่เราได้เกิดในประเทศไทย

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ เบิร์ด ธงไชย ได้ถวายงานในหลวงร.9 คือความภูมิใจสูงสุดในชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook