ยุ่นเผย แม้ว ยังไม่ได้ขอวีซ่า แต่ก็ห้ามเข้าตามกฏเหตุต้องโทษคดีอาญา
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยกล่าวถึงกรณีที่มีรายงาน ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ออกวีซ่าให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าทางสถานเอกอัครราชทูตทราบข่าวจากสื่อมวลชนไทย จากการตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มาขอวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นเลยและสงสัยว่าข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร แต่ตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น ข้อ 5 ระบุว่าไม่อนุญาตให้บุคคลที่ถูกตัดสินและต้องโทษคดีอาญาเกิน 1 ปีเข้าประเทศไม่ว่าจะขอวีซ่าด้วยหนังสือเดินทางธรรมดาหรือหนังสือเดินทางราชการก็ตาม ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณเข้าข่ายนี้เนื่องจากมีคดีอาญาต้องโทษ 2 ปี จึงเป็นไปตามกฎเกณฑ์ในการไม่อนุญาตให้เข้าเมืองและทางญี่ปุ่นไม่ได้ไม่ อนุญาตเฉพาะ พ.ต.ท. ทักษิณชินวัตรเพียงคนเดียว แต่คนอื่นที่เข้าข่ายนี้ก็จะไม่ออกวีซ่าให้เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปโรดโชว์ ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า ได้รับทราบรายงานเรื่องญี่ปุ่นจะไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ แต่ยังไม่ได้ไปสอบถามจากฝ่ายญี่ปุ่น
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่ 30 ส.ส.พรรคเพื่อไทยเตรียมเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ เกาะกง ประเทศกัมพูชา ด้วยว่า การพบปะกันเขาก็ทำกันอยู่แล้วเป็นประจำ ตนไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาอะไร แต่ก็อยากจะฝากไว้ว่าขณะนี้ประชาชนต้องการเห็นบ้านเมืองสงบ และต้องการเห็นทุกฝ่ายช่วยกันแก้ไขปัญหามากกว่าความขัดแย้งทางการเมือง ให้คนที่อยู่ที่นี่ที่เป็นฝ่ายการเมืองได้คิดถึงให้มากที่สุด สถานะของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่อดีตนายกฯ แต่มีคดีติดตัวที่ต้องเร่งดำเนินการ รัฐบาลจะขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านให้ส่งตัวกลับมาหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบพ.ต.ท.ทักษิณก็เดินทางมาประเทศกัมพูชาบ่อย ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และเชื่อว่ามิตรประเทศของเราคงไม่มีประเทศไหนที่จะให้ใช้ประเทศของเขาเป็น ฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะต่อต้านรัฐบาล ส่วนสิทธิเสรีภาพในการที่จะเดินทางไปไหนนั้นก็อยู่ที่แต่ละประเทศจะพิจารณา