หมวดวิชัย ลั่นขอปลูกต้นไม้จนตาย แม้กายป่วยหนัก

หมวดวิชัย นักปลูกต้นไม้ชื่อดัง ป่วยหนัก ประกาศจะขอปลูกต้นไม้จนตาย เผยปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 3 ล้านต้น

ที่ตึกผู้ป่วยอาคาร 4 ชั้น 3 เตียง 1 โรงพยาบาลศรีสะเกษ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ นักปลูกต้นไม้ชื่อดังของประเทศไทย ได้มานอนพักรักษาตัวนานกว่า 2 วันแล้ว โดยแพทย์ รพ.ขุขันธ์ ได้ส่งตัวต่อมาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เนื่องจากว่า โรงพยาบาลขุขันธ์ ไม่มีแพทย์ที่จะรักษาโรคเฉพาะทาง เพราะว่าร.ต.ต.วิชัย ป่วยเป็นโรคหัวใจวาย จะต้องให้แพทย์เฉพาะทางทำการรักษาเท่านั้น โดยต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ตามแขนขาติดสายน้ำเกลืออยู่ และมี นายภัทรวุฒิ สุริยุทธ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นลูกชายมาเฝ้าดูแลตลอดเวลา ทั้งนี้ แพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่

ร.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การปลูกต้นไม้นั้น ขณะนี้ตนได้มีมือซ้ายมือขวามาร่วมในการปลูกป่าคือ นายเสริมศักดิ์ กล้วยนิตย์ และ นายถวัลย์ แสนภู่ มาร่วมกับตนเป็น 3 เสือเฒ่าผู้โหยหาป่า โดยได้ทำการปลูกต้นตาลทดแทนต้นที่ตัดทิ้งไปจำนวนมาก เนื่องจากว่าไปกีดขวางการก่อสร้างคลองส่งน้ำและการขยายถนนของหมู่บ้านหลายแห่ง และการปลูกต้นไม้ที่ตนทำอยู่นี้ เป็นการดำเนินการตามโครงการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จัก

ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นโครงการที่คล้ายกัน สอนให้คนรู้จักการใช้จ่ายอย่างประหยัดและทำการเกษตรเพื่อให้พออยู่พอกิน และปลูกป่าให้ความชุ่มชื้นแก่แผ่นดิน ซึ่งนับตั้งแต่ตนปลูกต้นไม้ ถึงปี 2548 ตนปลูกต้นไม้ไปแล้ว 2,000,000 ต้นและโหมปลูกต้นไม้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทุกแห่งที่เป็นพื้นดิน จนถึงขณะนี้ตนได้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว จำนวน 3,000,000 ต้น และจะปลูกไปเรื่อยจนกว่าตนจะตาย เนื่องจากว่า ตนได้สัญญาไว้แล้วว่า ตนจะปลูกต้นไม้จนตาย

ทั้งนี้ ร.ต.ต.วิชัย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงตนในรายการทีวีเมื่อช่วงคืนวันศุกร์ 11 พ.ย. 59 ที่ผ่านมานั้น ตนรู้สึกยินดีที่ผู้ใหญ่ในแผ่นดินได้เห็นถึงสิ่งที่ตนได้ทำลงไป ซึ่งตนขอเป็นกำลังใจให้แก่นายกรัฐมนตรีให้เป็นรัฐบาลบริหารประเทศต่อไปให้นานที่สุด เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาของประเทศชาติทั้งปัญหาเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาด้านราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ที่สอนให้ชาวนาคิดเอง ทำเอง และขายเอง โดยสีข้าวขายเอง เป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องแล้ว ส่วนตนจะเมื่อหายป่วยแล้วก็จะออกไปปลูกป่าต่อไป เพื่อเดินตามรอยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงของแผ่นดินต่อไปจนกว่าจะตายไปจากโลกนี้