ชาวเมืองเวนิสชุมนุมเรียกร้อง ไม่ย้ายหนีนักท่องเที่ยว

ชาวเมืองเวนิส จำนวนหลายร้อยคน ได้มารวมตัวชุมนุมกัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่าน เพื่อพยายามเรียกร้องให้ผู้คน ซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัยในเมือง ไม่ย้ายหนีออกไป เนื่องจากขณะนี้เมืองเวนิส กลายเป็นเมืองที่แทบจะมีแต่นักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเวนิสว่า ชาวเมืองได้ออกมาชุมนุมกัน มีการถือป้าย ที่มีข้อความว่า อย่าไป ขอให้อยู่ต่อ พร้อมทั้งชูกระเป๋าเดินทาง ซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ของการจะจากไป พวกเขา ไม่ต้องการให้ชาวเมืองซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัยของท้องถิ่น พากันย้ายหนีนักท่องเที่ยวไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากปัจจุบันนี้ ในเมืองเวนิส มีนักท่องเที่ยวเข้ามากันเป็นจำนวนมากกว่า 60,000 คนต่อวัน ซึ่งนั่นส่งผลต่อที่พักอาศัยและการประกอบอาชีพของชาวเมือง

แหล่งข่าวกล่าวว่า ชาวเมืองย้ายหนีออกไปกันประมาณปีละ 1,000 คน จนปัจจุบันนี้ มีชาวเมืองอยู่ไม่ถึง 50,000 คน เทียบกับเมื่อ 40 ปีก่อน มีชาวเมืองอยู่อาศัยที่นี่ประมาณ 100,000 คน

อย่างไรก็ตาม การออกมาชุมนุมในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการต่อต้านนักท่องเที่ยว เพราะการมาเที่ยวก็เป็นสิทธิของนักท่องเที่ยว แต่ผู้อยู่อาศัย ก็ควรจะมีสิทธิในการอยู่อาศัยเช่นกัน ขณะนี้ ที่อยู่อาศัยในเมืองก็ถูกบรษัทใหญ่ ๆ เข้ามาครอบครองเพื่อทำเป็นสถานที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว ราคาค่าเช่าอพาร์ทเม้น ก็เป็นราคานักท่องเที่ยว ซึ่งสูงเกินกว่าคนคนรายได้ทั่ว ๆ ไปจะเข้าพักอาศัยได้ งานก็เช่นกัน ผู้ที่ทำงานในสายอาชีพ ที่ไม่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นกันเกือบหมด ร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านฮาร์ดแวร์ ก็เปลี่ยนเป็นร้านขายของที่ระลึก ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่มีอะไรจะซื้อ

ผู้ประท้วงยังกล่าวอีกว่า การที่เมืองเวนิส ต้องรับปริมาณผู้มาเยือน ปีละ 20 ล้านคนนั้น ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ถนนหนทางกลายเป็นอึดอัด คับแคบ คลองที่สวยงามก็กลายเป็นคลองที่หนาแน่นไปหมดแล้ว