แซนวิช เปิดหมดเปลือก สาวฮอตมาแรง..ผู้กุมหัวใจ เสก โลโซ

เดินสายเคลียร์ข่าวหนักมาก สำหรับนักแสดงสาวจากวิกหมอชิต แซนวิช ปภาดา หลังร็อคสตาร์รุ่นใหญ่ เสก โลโซ ออกมายืดอกรับแบบแมนๆ ว่าทั้งคู่กำลังคบหาดูใจกันอยู่ จนเกิดเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วทั้งโลกโซเชียลฯ ว่า เอ๊ะ...ไปแอบสปาร์ครักกันตั้งแต่ตอนไหน!?

ซึ่งงานนี้นอกจากสาวแซนวิชจะออกมาคอนเฟิร์มว่า สถานะตอนนี้ยังต้องขอระบุแค่ว่า "เป็นคนที่กำลังคบหาดูใจ" และยังไม่ได้เป็น "แฟน" อย่างที่ฝ่ายชายออกมาบอกแล้วนั้น เจ้าตัวก็ยังถือโอกาสเผยความรู้สึกหลังเจอดราม่าจากอดีตภรรยาร็อคสตาร์ ด้วยว่า สำหรับเรื่องนี้ขออนุญาตไม่ออกความเห็นดีกว่า เพราะต่างคนต่างอยู่น่าจะดีที่สุด...

"เรารู้จักกันตอนที่ไปทานข้าว เพราะมีพี่ที่สนิทกับทั้งหนูและก็พี่เสกโทรมาชวน ซึ่งวันนั้นก็คือวันแรกที่มีโอกาสได้คุยกับพี่เสก เราทักทายกันตามปกติ แต่หนูยอมรับนะว่าหนูเป็นคนทักก่อนจริง แต่เรื่องแลกแชทอันนี้หนูต้องชี้แจงก่อนว่า วันนั้นเราถ่ายรูปกันและรูปมันอยู่ในกล้องหนู พี่เสกเขาก็เลยอยากให้ส่งให้หน่อย ส่วนเรื่องที่พี่เสดบอกว่าหนูไปจีบเขาก่อน (หัวเราะ) คือพี่เสกเขาเป็นคนชอบพูดเล่นค่ะ แต่เห็นว่าล่าสุดพี่แกก็ออกมาแก้ข่าวแล้วนะว่าเขาเป็นฝ่ายมาจีบก่อน"

เรามารู้ตัวตอนไหนว่าพี่เขากำลังจีบ ?
"น่าจะเป็นตอนที่ไปดูเดี่ยวด้วยกันค่ะ เพราะวันนั้นพี่เขาถามขึ้นมาว่า "ตอนนี้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว" ซึ่งพอหนูได้ยินแบบนั้นหนูก็เลยหยอดกลับไปว่า "พี่จีบหนูเหรอ (หัวเราะ) และพี่เขาก็ตอบกลับมาว่า "ใช่" คือหนูจำได้ว่าตอนนั้นหนูก็บอกเขาไปนะว่า "30 เปอร์เซ็นต์มั้ง" แต่ทางพี่เขาก็เล่นๆ กลับมาประมาณว่า "น้อยเกินไป 50 ไม่ได้เหรอ (หัวเราะ)" เอ่อ...ถามว่าตอนนั้นหนูเริ่มชอบพี่เขาหรือยัง จริงๆ ก็ยังนะ แต่เป็นเพราะเราคุยกันถูกคอมากกว่าก็เลยทำให้พัฒนามากขึ้น"

สำหรับเรื่องราวในอดีตของพี่เสกที่เรารับรู้มาจากข่าว ตัวเราเองรู้สึกยังไงบ้าง ?
"ก็ไม่รู้สึกอะไรนะคะ เพราะพอคุยกันนานๆ หนูก็ได้รู้ด้วยว่าพี่เขามีความเป็นผู้ใหญ่พอที่จะช่วยชี้นำเราได้ ทั้งในเรื่องของงานในวงการ และเรื่องการใช้ชีวิต อีกอย่างข่าวเก่าๆ ที่ผ่านมามันก็เป็นเรื่องในอดีต ดังนั้นอดีตก็คืออดีตค่ะ คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ แถมมันเป็นเรื่องภายในครอบครัวเขาด้วย"

ตัวเราเองได้ถามพี่เขาบ้างไหมถึงเรื่องความสัมพันธ์กับภรรยา ?
"ไม่ได้ถามค่ะ แต่พี่เขาเป็นฝ่ายบอกเองเลย พี่เขาบอกว่าพี่เขาโสดนะ เลิกกับภรรยามาได้ 2 ปีแล้ว

วันลอยกระทงที่ผ่านมาเห็นว่าตัวเราเองก็ได้ไปลอยที่บ้านที่เสกด้วย ?
"วันนั้นหนูไม่คิดว่าจะไปลอยกระทงด้วยค่ะ เพราะว่าเพิ่งจะทำงานเสร็จกำลังอยู่กับเพื่อนๆ แต่บังเอิญว่าพี่เสกเขาโทรมาชวนให้ไปลอยที่บ้านเขา เพราะมีคนอยู่เยอะไม่ได้มีแค่เราสองคนหนูก็เลยไป ถามว่าตอนขอพรเป็นยังไงบ้างได้ขอพรอะไรบ้างไหม เอ่อ...ก็มีขอบ้างค่ะ แต่ขอแค่เรื่องงาน เรื่องความรักยังไม่ได้โฟกัสเลย พอลอยกระทงเสร็จหนูก็กลับบ้านเพราะว่าจะต้องไปร่วมพิธีอาบน้ำมนต์"

ในฝั่งของอดีตภรรยาพี่เสก พอเขาได้เห็นภาพวันนั้นเขาก็ออกมาโพสต์ข้อความด้วย ?
"เห็นบ้างเหมือนกันค่ะ แต่หนูไม่อยากไปพาดพิงอะไรถึงพี่เขา เพราะนั้นคือสิทธิของพี่เขาเป็นพื้นที่ของพี่เขาเลย ตัวหนูเองไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเราก็ห้ามความคิดใครไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถามว่าได้คุยกับพี่เสกเรื่องนี้ไหม ก็คุยนะคะ แต่พี่เขาก็บอกว่าไม่มีอะไรหรอกเดี๋ยวก็ผ่านไป"

จริงๆ เราทราบไหมว่าวันลอยกระทงวันนั้นพี่เสกเขานัดกับลูกไว้ก่อนแล้ว ?
"ไม่ทราบเลยค่ะ เพราะพี่เขาก็ไม่ได้บอก อีกอย่างมันเป็นเรื่องในครอบครัวเขาด้วย ดังนั้นหนูขออยู่แค่ในพื้นที่ของหนูดีกว่า เพราะถ้าเราไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกันมันก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น"

ถามถึงเรื่องเก็บผ้าปูที่นอนบ้างอันนี้คือเราขึ้นไปถึงบนห้องพี่เขาเลยใช่ไหม ?
"อย่าคิดกันไปไกลนะคะ มันเป็นเรื่องปกติเวลาเราเห็นห้องพี่เขารกเราก็เก็บให้ อีกอย่างห้องนอนพี่เขาก็มีคนขึ้นไปอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ เพราะบ้านพี่เขามีคนอยู่เยอะ"

ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงการที่พี่เขาออกมาบอกแบบนี้พ่อแม่เราว่ายังไงบ้าง ?
"คุณพ่อคุณแม่เข้าใจค่ะ ท่านรู้ว่าหนูเป็นคนยังไง ส่วนเรื่องที่คบกันคุณพ่อก็มีให้คำแนะแนวชี้นำบ้าง แต่ท่านก็ไม่ก้าวก่าย เพราะท่านถือว่าโตแล้วดำเนินชีวิตตัวเองได้แล้ว"

จริงไหมที่ตอนนี้เราเองก็มีคนที่คุยอยู่แล้วด้วย และก็ไม่ใช่พี่เสก ?
"เป็นข่าวลือมากกว่านะคะ หนูไม่ได้คบซ้อนนะ (หัวเราะ) เพราะแฟนคนเก่าก็นานมากแล้วค่ะ"

ณ ตอนนี้เราพร้อมจะอยู่ในสถานะแฟนกับพี่เสกเหมือนที่พี่เขาออกมาบอกหรือเปล่า ?
"ศึกษากันไปเรื่อยๆ ดีกว่าค่ะ อนาคตเราก็ไม่รู้เนอะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้นเราขออยู่กับปัจจุบันดีกว่า แถมตอนนี้เราสองคนต่างก็รู้ว่าเราอยู่ในสถานะไหน เราขอมีความสุขกันสองคนดีกว่าค่ะ เพราะตอนนี้ก็แฮปปี้ดีแล้ว"

เราคิดตามที่พี่เขาบอกไหมว่า ถ้าเป็นแฟนเสกต้องอดทน ?
"(หัวเราะ) จริงๆ พี่เขาก็เคยพูดตั้งแต่ก่อนเป็นข่าวแล้วนะคะ แต่หนูโอเคอยู่แล้ว คือถ้าคนสองคนจะคบกันเราก็โฟกัสแค่ที่คนสองคนดีกว่า"

อย่างตอนที่พี่เขาบอกว่าให้เขาเลิกเจ้าชู้เขาทำไม่ได้หรอก เราได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง ?
"มันก็เป็นสิทธิของเขานะคะ แต่ถามว่าหนูรับได้ไหม เอ่อ...คือพี่เขาก็ไม่ได้มาเจ้าชู้ให้เรารู้สึกแย่มากกว่า เพราะพี่เขาเองก็รู้ขอบเขตตัวเองดี เวลาเจอกันพี่เขาก็ให้เกียรติหนูทุกอย่าง ไม่เคยก้าวก่ายหรือว่าทำให้ชีวิตหนูวุ่นวายเลยค่ะ"

ในฐานะที่ตัวเราเองก็เป็นนักแสดง ทางต้นสังกัดพอเห็นข่าวนี้แล้วเขาว่ายังไงบ้าง ?
"ผู้ใหญ่ก็เรียกเข้าไปถามแล้วค่ะว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง ซึ่งเขาก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องความรัก แต่เราก็ต้องแยกแยะให้ออกเท่านั้นเอง ผู้ใหญ่ไม่ได้ห้ามอะไรเลย"

น้อยใจไหมที่คนมองว่าเราอาศัยชื่อเสียงพี่เสกเพื่อดันตัวเอง ?
"ถ้าหนูจะทำแบบนั้นจริงๆ หนูคงโพสต์เองดีกว่า แต่นี่คือกระแสมันมีเข้ามาตรงๆ เลยโดยที่หนูเองก็ไม่ทันตั้งตัว ถามว่ากดดันไหมที่คนมองแบบนี้ เอ่อ...หนูมองแค่คนรอบข้างมากกว่า คือคนรอบข้างรู้ดีอยู่แล้วว่าหนูเป็นคนยังไง ดังนั้นหนูจึงไม่โฟกัสกับความคิดแง่ลบที่มีเข้ามาค่ะ"

กลัวพี่เสกน้อยใจไหมพี่เขาบอกว่าเราเป็นแฟน แต่เราบอกแค่กำลังศึกษาดูใจ ?
"เขาเป็นผู้ชายไงคะ แต่เราเป็นผู้หญิง เราต้องสำรวมนิดหนึ่ง (หัวเราะ)"

ด้วยความที่เราสองคนระบุสถานะไม่ตรงกัน แบบนี้มันจะต้องกลับไปคุยกันใหม่ไหมว่าจะระบุสถานะเป็นอะไรดี ?
"(หัวเราะ) ไม่นะคะ คือเรารู้อยู่แล้วเนอะว่าเราคบกันในสถานะไหน มันไม่จำเป็นต้องไปประกาศหรอกว่าเราเป็นอะไรกัน"

ถ้าหากหลังจากนี้พี่เสกขอแต่งงาน ตัวเราเองจะพร้อมเลยหรือเปล่า ?
"ยังไม่ถึงขั้นนั้นเลย (หัวเราะ) ดูๆ กันไปก่อนดีกว่า มันเป็นเรื่องของอนาคต"

สุดท้ายเราประทับใจอะไรในตัวพี่เสก ?
"หลักๆ ก็คงเป็นทัศนคติ ความคิด ความเป็นผู้ใหญ่ อีกอย่างเขายังแนะนำเราสอนเราได้ในหลายๆ เรื่องเลยด้วย (ยิ้ม)"