"ทรัมป์" ยอมผ่อนท่าทีเรื่องโลกร้อน

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ยอมผ่อนปรนท่าทีเรื่องโลกร้อน ระบุพร้อมทบทวนว่าสหรัฐจะถอนตัวจากข้อตกลงปารีสหรือไม่

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับสำนักพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส โดยยอมรับว่า การกระทำของมนุษย์ก็อาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกับปรากฎการณ์โลกร้อน และเขาเองจะเปิดใจกว้างในเรื่องนี้ เพื่อทบทวนอย่างละเอียดว่า สหรัฐควรจะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไม่

หากยังจำกันได้ ประเด็นโลกร้อนเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ ทรัมป์ มีท่าทีแข็งกร้าวและสุดโต่งมาโดยตลอด โดยในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เขาเคยประกาศว่าวิกฤตโลกร้อนเป็นเรื่องลวงโลก และไม่ได้เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ซึ่งเขาเองมีแผนที่จะให้สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส ซึ่งเป็นความพยายามของนานาชาติที่จะแก้ไขปัญหาโลกร้อน

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงท่าทีครั้งแรกของทรัมป์ เพราะก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งจะให้สัมภาษณ์ว่า เปลี่ยนใจจะไม่สอบสวนนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต กรณีใช้อีเมลส่วนตัวทำงาน โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากทำร้ายครอบครัวคลินตัน และการดำเนินคดีกับเธอจะยิ่งทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังสร้างความประหลาดใจด้วยการออกมาประณามกลุ่มคนขวาจัดเหยียดเชื้อชาติ ที่ยกย่องเขาเหมือน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ด้วยการแสดงท่าทางเคารพนาซี ระหว่างการฉลองชัยชนะเลือกตั้งของเขา

หลายฝ่ายมองว่าการอ่อนท่าทีของทรัมป์นั้น ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะแนวคิดสุดโต่งก่อนหน้านี้ อาจใช้ได้เฉพาะแค่ตอนหาเสียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นโยบายที่ดูจะได้ใจคนอเมริกันมากที่สุดในตอนนี้ น่าจะเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งสะท้อนได้จากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดบวกทะลุแนว 19,000 จุดเป็นครั้งแรก เมื่อคืนนี้ ขณะที่ผลสำรวจความนิยมล่าสุด ประชาชนกว่า 53% มั่นใจว่าทรัมป์จะทำได้ดีในการบริหารประเทศ และ 40% แสดงความมั่นใจในนโยบายเศรษฐกิจของเขา