คุมทำแผนฆ่า 2 เศรษฐีผัวเมีย ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจผู้ต้องหา
จากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน ขนาด .38 จ่อยิง นายเกรียงไกร อินทนาคม หรือ ดำ อายุ 59 ปี และนางสุทัศน์ อินทนาคม หรือ เจ้หม่ำ อายุ 52 ปี สองผัวเมีย เสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 เวลาประมาณ 20.30 น.ที่ผ่าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ออกสืบหาตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่องมานานนับ 11 วัน จนล่าสุดเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.59)ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถทำการจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ โดยละม่อม ขณะที่กำลังช่วยภรรยาทำขนมในบ้าน
(24 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รรท.ผบก.ภ.จ.ชุมพร พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน และชุดจับกุม ได้นำตัว นายสมบุญ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืน ขนาด .38 บุกจ่อยิงนายเกรียงไกร อินทนาคม อายุ 59 ปี และ นางสุทัศน์ อินทนาคม อายุ 52 ปี สองผัวเมีย เสียชีวิตคาบ้านเลขที่ 192 ม.9 ต.ตากแดด องเมือง จ.ชุมพร มาสอบปากคำ
โดยผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงทั้งสองจริง ส่วนเหตุเพราะทั้งสองโดยเฉพาะนางสุทัศน์ เมียนายเกรียงไกร กระทำกับตนเองหลายอย่าง ทั้งกลั่นแกล้ง ข่มเหงและดูถูก ทำร้ายสัตว์เลี้ยง ทั้งหมาและแมวก็ถูกวางยาเบื่อจนตายไม่เหลือสักตัว แต่ตนเองพยายามที่จะเก็บความคับแค้นไว้ในใจ จนเหลือจะทน จนล่าสุดได้วางยาเบื่อให้สุนัขตัวโปรดของลูกสาวที่เพิ่งไปเอามาเลี้ยงตายอีก
จนตนเองทนไม่ไหว รับไม่ได้กับพฤติกรรมของนางสุทัศน์ จึงขับรถ จยย.ไปขอยืมปืนจากเพื่อน แล้วมากราบแม่ และบอกว่าตนเหลือทนแล้ว ซึ่งแม่ได้พยายามห้าม แต่ตนไม่เชื่อเดินไปที่บ้านผู้ตาย ซึ่งเปิดประตูแง้มไว้ เมื่อเคาะประตู พร้อมเปิดประตูออก เห็นนางสุทัศน์ นอนอยู่บนโซฟา ตนจึงบอกว่า คุณทำร้ายผมหลายครั้งแล้ว อย่าดูถูกคนจนอย่างผม พร้อมใช้ปืนที่นำมาจ่อยิง นางสุทัศน์ จนล้มลงฟุบอยู่ที่โซฟา ส่วนนายเกรียงไกร ตนเอง ไม่ได้ตั้งใจจะยิง แต่เมื่อเห็นหน้าตนแล้ว จึงได้ยิงเพื่อปิดปาก และหลังจากที่ก่อเหตุ ตนเองก็เดินไปที่บ้าน และทำตัวไม่รู้ไม่เห็น โดยไม่หลบหนีไปไหน และทุกวันที่ผ่านมาก็ยังใช้ชีวิตปกติ ยังออกไปช่วยเมียขายขนมในตลาดเช่นเดิม จนมาถูกจับได้ในที่สุด
หลังจากนั้น พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รรท.ผบก.ภ.จ.ชุมพร พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน และชุดจับกุม ได้นำตัวนายสมบุญผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ให้ความร่วมมืออย่างดี ทั้งนี้ได้จัดกำลังตำรวจเข้าควบคุมพื้นที่ที่เพื่อกั้นบรรดาไทยและฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นญาติและเพื่อนสนิท จะมีปฏิกิริยาต่อต้านเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหารายนี้ด้วยความโกรธแค้น
โดยจุดแรก ก่อนก่อเหตุผู้ต้องหา ได้ขับรถ จยย.มาจอดหน้าบ้านแม่ และไปกราบเท้าเพื่อลาว่าลูกจะไม่อยู่ แล้วก็เดินไปจุดที่สองซึ่งเป็นบ้านนายเกรียงไกร และนางสุทัศน์ ผู้ตาย ซึ่งอยู่ติดกับบ้านนายสมบุญ ได้เคาะประตูที่ปิดแง้มอยู่ โดยทั้งสองอยู่ภายในบ้าน เมื่อเปิดประตูก็ใช้อาวุธจ่อยิงในระยะประชิด จนทั้งสองแน่นิ่ง จึงได้เดินออกไป ยังจุดที่สาม ซึ่งเป็นบ้านแม่อีกครั้ง พร้อมกราบเท้า แล้วบอกว่า ลูกยิงทั้งสองตายแล้ว ก่อนจะออกไปขับ จยย.ออกไปจากบ้านแม่ไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะจับตัวคนร้ายรายนี้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนต้องรื้อหลักฐานใหม่ หันมาให้ความสำคัญเรื่องส่วนตัว จนทราบว่าทั้งสองมักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านอยู่เป็นประจำ จนล่าสุดได้ทะเลาะอย่างรุนแรงกับนายสมบุญ คนบ้านติดกัน จึงสืบสวนจนทราบว่านายสมบุญ คือคนร้ายที่ก่อเหตุยิงทั้งสองผัวเมียตาย และ การทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ มีประชาชนได้แห่มาดูกันเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ตะโกนให้กำลังใจผู้ต้องหาตลอด การทำแผนจึงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในข้อฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ลูกชายช็อก ออกจากบ้านไม่กี่ชั่วโมง กลับมาเจอศพพ่อแม่ถูกฆ่าโหดเหี้ยม
สืบตั้งนาน..ที่แท้เพื่อนบ้าน มือยิงเศรษฐีนีเงินกู้ แค้นวางยาฆ่าหมา