สภาผู้ทรงเกียรติป่วนหวิดวางมวยสุนัย-อภิชาติ

สภาผู้ทรงเกียรติป่วนหวิดวางมวยสุนัย-อภิชาติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หืดขึ้นคอ ! สภา ลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ หลังเพื่อไทยค้านหัวชนฝา งดส่งกรรมาธิการร่วมสังฆกรรม ก่อนส่งเรื่องให้ศาลรธน.ตีความ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ โดยเป็นวาระที่ค้างการพิจารณาเนื่องจากนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เสนอนับองค์ประชุมเมื่อคืนวันที่ 4 กพ. นี้ ปรากฏว่า ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอภิปรายขัดแย้งกัน เนื่องจาก นายธนา ชินรวณิชย์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอเปิดการอภิปราย ทำให้ส.ส.ฝ่ายค้านจากพรรคเพื่อไทยหลายคนอาทิ นายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นอภิปรายคัดค้านโดยกล่าวว่า พ.ร.บ.ผู้สูงอายุมีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายการเงิน จึงต้องถามว่านายกรรัฐมนตรีจะมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร รวมทั้งจะมีผลกระทบอย่างไรภายหลังจากดำเนินการ โดยเฉพาะรัฐบาลไม่มีร่างประกบพ.ร.บ.ดังกล่าว

ขณะที่ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ชี้แจงว่า พ.ร.บ.ผู้สูงอายุเสนอมาตั้งแต่วันที่ 29 กพ.ปี 2551 ซึ่งขณะนั้นมี่รองประธานสภาคือนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นผู้รับร่าง และเมื่อมีการบรรจุในระเบียบวาระของสภาก็ไม่ได้มีผู้ทักท้วงในประเด็นเกี่ยวข้องกับการเงินแต่อย่างใด แต่ภายหลังการลงมติรับร่างพ.ร.บ.ผู้สูงอายุในวาระที่ 1 หากมีข้อสงสัยก็สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 144 โดยให้ประธานสภาและประธานคณะกรรมาธิการทุกคณะวินิจฉัยได้

อย่างไรก็ตาม ทำให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนเช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และนายวิทยาได้ยืนยันที่จะขอให้รัฐบาลถอนการเปิดอภิปราย เพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายก่อน ทำให้พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา ในฐานะประธานในที่ประชุมได้สอบถามนายธนาว่าจะถอนข้อเสนอการเปิดอภิปรายหรือไม่ แต่ปรากฎว่านายธนายืนยันว่าจะไม่ถอนและขอเปิดอภิปรายพร้อมขอผู้รับรองการเปิดอภิปราย โดยมีผลคะแนนที่เห็นด้วยจำนวน 228 คน ไม่เห็นด้วย 40 คน แต่ปรากฏว่าส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนยังลุกขึ้นประท้วงแสดงความไม่เห็นด้วย ทำให้เมื่อเวลา 17.40 น. พ.อ.อภิวันท์ ได้วินิฉัยให้มีการลงมติรับหลักการวาระที่ 1 ร่างพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ โดยมีผลการลงมติเห็นด้วยจำนวน 238 คน งดออกเสียง 6 และไม่ลงคะแนน 6

ต่อมานายวิทยา ได้ลุกขึ้นหารือว่า ร่างพ.ร.บ.นี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขอนำรายละเอียดพ.ร.บ.นี้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ ทำให้นายชินวรณ์ ได้ลุกขึ้นยืนยันอีกครั้งว่า ขั้นตอนการวินิจฉัยว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ล่วงเลยมาแล้ว แต่หากฝ่ายค้านจะใช้สิทธิก็สามารถทำได้โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 144 แต่เหตุใดในรัฐบาลที่แล้วประธานในขณะนั้นคือนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภา ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสภา จึงไม่มีการวินิจฉัยว่าไม่ใช่กฎหมายการเงิน แต่รัฐบาลเห็นว่าร่างพ.ร.บ.นี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลักการของกฎหมายเดิม เพียงแต่มากำหนดวิธีการที่ผู้สูงอายุจะรับเบี้ยยังชีพอย่างไรเท่านั้น

ในที่สุดที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 54 คน โดยที่พรรคเพื่อไทย ไม่เสนอรายชื่อผู้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการด้วย รวมถึงไม่เสนอรายชื่อเอ็นจีโอที่พรรคเพื่อไทยมีสิทธิ์เสนอชื่อเข้าเป็นกรรมาธิการเช่นกัน โดยประชาธิปัตย์เสนอ 11 คน ภูมิใจไทย 2 คน

อย่างไรก็ตามนายทิวา เงินยวง ส.ส.ประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นหารือว่า การที่ไม่มีกรรมาธิการจากพรรคฝ่ายค้านเกรงว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ.อ.อภิวันท์ ได้เสนอให้ประธานวิปรัฐบาลไปหารือกับประธานวิปฝ่ายค้านเพื่อแก้ปัญหาต่อไป

สภาป่วนหวิดวางมวยสุนัย-อภิชาติ

ต่อมา พ.อ.อภิวันท์ ได้เปิดให้ส.ส.หารือเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งฝ่ายพรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันไม่เสนอรายชื่อร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ จนกระทั่งการหารือผ่านไปประมาณ 30 นาที โดยส.ส.พรรคเพื่อไทย นางผ่องศรี ธาราภูมิ ส.ส.ลพบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยจำนวน 12 คน โดยได้อ่านรายชื่อทันที ทั้งนี้ระหว่างการอ่านชื่อ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วง แต่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมในขณะนั้นไม่สนใจ ทำให้นายสุนัย ถึงกับตะโกนใส่ไมโครโฟน กลางที่ประชุมด้วยเสียงอันดังว่า ท่านประธานครับ ผมประท้วงอยู่ ทำอย่างนี้ได้อย่างไร นายชัย จึงได้หันไปมอง และบอกว่ากำลังบอกให้นางผ่องศรี หยุดอ่านรายชื่อ ซึ่งประจวบเหมาะกับที่นางผ่องศรีอ่านรายชื่อครบพอดี และขอผู้รับรองเรียบร้อยซึ่งถือว่าครบกระบวนการ

ทำให้นายสุนัย ลุกขึ้นต่อว่าประธานสภา ว่าทำตัวไม่เป็นแค่เงาประธาน ไม่เป็นประธานในที่ประชุม จนทำให้เกิดการโต้เถียงกันระหว่างนายชัย และนายสุนัย โดยนายสุนัย ได้เสนอให้มีการถอนชื่อกรรมาธิการที่นางผ่องศรี อ่านออกไปทั้งหมด และขอให้พักการประชุมก่อน ทั้งนี้นางผ่องศรี ลุกขึ้นชี้แจงว่า ชื่อที่ตนเสนอเป็นรายชื่อที่ได้รับการประสานงานมาก่อนหน้านี้โดยได้รับการส่งสัญญาณจากพรรคเพื่อไทยว่าให้ตนเป็นผู้เสนอรายชื่อกลางที่ประชุม ทั้งนี้ก่อนเหตุการณ์จะวุ่นวายมากกว่านี้นายชัย ได้สั่งพักการประชุม 10 นาที โดยเริ่มพักการประชุมในเวลา 19.10 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานระหว่างพักการประชุม ส.ส.ทยอยเดินออกนอกห้องประชุม นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เกิดเหตุปะทะคารมด้วยถ้อยคำรุนแรงกับนายสุนัย จนทั้งคู่เตรียมจะปรี่เข้าหากัน จนทำให้พ.อ.อภิวันท์ ต้องเข้าเคลียร์ ให้ทั้งสองฝ่ายแยกออกจากกัน

ต่อมาเวลา 19.25 น. หลังพักการประชุม 10 นาที นายชัย ได้กล่าวในที่ประชุมว่า เมื่อที่ประชุมพิจารณาเรื่องนี้เสร็จแล้ว ในวันที่ 6 ก.พ.ตนจะนำเรื่องนี้เสนอรัฐบาลเพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณารับรองว่าเป็นพ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงิน และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯต่อไป โดยขอฝากให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกฯ ติดตามดูแลเรื่องนี้ให้เสร็จในวันที่ 6 ก.พ. เพื่อส่งมายังสภาด้วย ซึ่งนายวิทยา ได้ลุกขึ้นกล่าวแสดงความเห็นด้วย จากนั้นนายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเสนอตัวแทนองค์กรเอกชนในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย และเสนอรายชื่อส.ส.พรรคเพื่อไทยเป็นกรรมาธิการฯ ทำให้กรรมาธิการฯมีครบ 54 คนตามที่กำหนด

อย่างไรก็ตามนายสุนัย ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนถูกส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่ากล่าวด้วยถ้อยคำรุนแรง อยากให้ท่านช่วยสอนส.ส.เด็กๆ ด้วย เพราะบางคำพูดรับไม่ได้เป็นการสบประมาทต่อส.ส. แต่ตนไม่อยากไปเกลือกกลั้วกับสิ่งนั้น ไม่อยากให้สภาเสียชื่อเหมือนที่ผ่านมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook